สื่ออังกฤษ LADbible ตีข่าวการเสียชีวิตของนักดื่ม 6 ศพ และผู้ป่วยอีก 37 ราย หลังดื่มสุราปลอมในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวอังกฤษ พบข่าวคลาดเคลื่อนเล็กน้อย เพราะเหตุเกิดชานเมืองกรุงเทพฯ มีนบุรี-คลองสามวา ไม่ใช่ย่านท่องราตรียอดนิยมอย่างถนนข้าวสาร ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิต 7 รายแล้ว
วันนี้ (1 ก.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า แลดไบเบิล (LADbible) เว็บไซต์ข่าวและบันเทิงในสหราชอาณาจักร ตีพิมพ์ข่าวการเสียชีวิตของนักดื่ม 6 ศพ และผู้ป่วยอีก 37 ราย หลังดื่มสุราปลอมในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวอังกฤษ พบเหล้าปลอมในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของไทย เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ตามรายงานข่าวระบุว่า เชื่อว่ามีผู้เสียชีวิต 6 รายที่แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในกรุงเทพฯ ประเทศไทย หลังจากดื่มสุราเถื่อน ขณะนี้กำลังมีการสอบสวน หลังจากมีการกล่าวหาว่ามีการจำหน่ายสุราปลอมที่ผสมสารเคมี เช่น เมทานอลและไอโซโพรพานอล ตามแผงขายริมถนน
สำนักข่าวท้องถิ่นรายงานว่า ลูกค้าได้ซื้อและบริโภคแอลกอฮอล์ผิดกฎหมายดังกล่าว ก่อนที่จะล้มป่วย มีผู้เสียชีวิต 6 ราย และมีผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอีก 37 รายจากอาการพิษแอลกอฮอล์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า มีผู้ป่วยต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 15 ราย ผู้ป่วยต้องฟอกไต 22 ราย และมีอาการมองเห็นไม่ชัด 21 ราย และเมื่อวันอังคาร (27 ส.ค.) ผู้ป่วย 8 รายได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์และเดอะซัน คำว่า 'rotgut' เป็นคำที่ใช้เรียกสุราคุณภาพต่ำและอาจมีสารเคมีที่เป็นพิษ จากนั้นเจ้าหน้าที่สามารถติดตามการขายสุราดังกล่าวได้จนถึงสถานที่แห่งหนึ่งในเขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร โดยมีหญิงวัย 49 ปี ถูกตั้งข้อหาผลิตสุราผิดกฎหมาย หญิงคนดังกล่าวซึ่งระบุชื่อว่า ภัสส์รศา ได้อ้างว่าเธอและครอบครัวขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สมุนไพร (ยาดอง) มาหลายสิบปีโดยไม่มีปัญหาใดๆ และเสริมว่าสูตรของเธอใช้เฉพาะส่วนผสมจากธรรมชาติเท่านั้น ไม่ใช้เมทิลแอลกอฮอล์ ภัสส์รศากล่าวเมื่อวันที่ 26 ส.ค. ว่าเธอรู้สึก “ผิดและเสียใจ” และไม่ตั้งใจจะฆ่าใคร เมื่อปีที่แล้วได้จ้างผู้ชาย 2 คนซึ่งเป็นพี่น้องกันมาทำสุราขาวให้ตน เหล้าที่พวกเขาทำมีรสชาติปกติ ตนจึงสั่งสุราจากพวกเขาต่อไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ที่แล้วลูกค้าของตนแจ้งว่ารสชาติของเหล้าเปลี่ยนไป พวกเขาบอกว่ารสชาติอ่อนลงและมีฟองมากขึ้น และดูเหมือนว่าจะมีปริมาณแอลกอฮอล์น้อยลง จึงโทร.หาพี่น้องทั้งสองคนเพื่อถามว่าพวกเขาเปลี่ยนส่วนผสมหรือไม่ แต่พวกเขาปฏิเสธที่จะบอกตน โดยบอกเพียงว่าพวกเขาปรับปรุงให้ดีขึ้น เมื่อตนได้ชิมสุราล็อตล่าสุดก็มีอาการท้องเสียเล็กน้อย แต่ไม่ร้ายแรง ต่อมาตนพบว่ามีผู้เสียชีวิตจากการดื่มสุราล็อตนี้ และตกใจมาก ไม่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้จับกุมพี่น้องทั้งสองคน คือ นายสุรศักดิ์ อินสาม อายุ 46 ปี และนายสุรชัย อินสาม อายุ 44 ปี ซึ่งทั้งสองยอมรับว่าเป็นผู้เจือจางสุราเถื่อน อย่างไรก็ตาม พี่น้องทั้งสองคนอ้างว่าพวกเขาไม่ทราบว่าสุราเถื่อนดังกล่าวมีเมทิลแอลกอฮอล์ได้อย่างไร
พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 กล่าวว่า น.ส.ภัสส์รศา จะถูกดำเนินคดีในข้อหากระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและบาดเจ็บสาหัส และฝ่าฝืน พ.ร.บ.สรรพสามิต ผลิตและจำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ ตำรวจยังอยู่ระหว่างการสอบสวนเจ้าของโรงงานในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าขายสารเคมีจำนวนมากให้กับพี่น้องทั้งสอง ขณะที่กรุงเทพมหานครยังระบุด้วยว่า ใครก็ตามที่ดื่มสุราเถื่อนจากสถานที่ที่มีการแจ้งเบาะแส (ร้านขายยาดอง) 18 แห่ง ควรไปพบแพทย์ทันที
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวแจ้งว่า ข่าวจากเว็บไซต์ LADbible มีความคลาดเคลื่อนเล็กน้อย เนื่องจากแหล่งที่พบสุราปลอม คือจุดที่มีผู้ใช้แรงงานพักอาศัยในพื้นที่ชานเมืองอย่างกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ได้แก่ เขตมีนบุรี และเขตคลองสามวา และจำหน่ายผ่านจุดขายที่เรียกว่าซุ้มยาดอง ไม่ใช่จุดที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมาท่องเที่ยวยามค่ำคืน เช่น ถนนข้าวสาร ซึ่งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ เต็มไปด้วยสถานบันเทิง ตามที่เว็บไซต์ LADbible ใช้ภาพจากถนนข้าวสารมาประกอบข่าว
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า สถานการณ์ผู้ป่วยได้รับสารพิษเมทานอล กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 31 ส.ค. จากกรมการแพทย์ และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดรวม 44 ราย เสียชีวิต 7 ราย ผู้ป่วยที่กำลังรักษาตัวเหลือ 8 ราย อยู่ระหว่างกำลังใส่ท่อช่วยหายใจ 6 ราย และรักษาหายแล้ว 29 ราย
ก่อนหน้านี้ตำรวจชุดสืบนครบาลจับกุมนายสุรชัย หรืออาร์ท อินสาม อายุ 43 ปี นายสุรศักดิ์ หรือเอส อินสาม อายุ 46 ปี พี่ชาย ร่วมกันต้มเหล้าขาวเถื่อนส่งให้ น.ส.ภัสส์รศา อารีจิตสุขสิริ อายุ 49 ปี หรือเจ๊ปู ผลิตยาดอง จับกุมได้ในพื้นที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา นำตัวมาสอบปากคำที่ สน.มีนบุรี แจ้ง 4 ข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันพยายามฆ่า, ปลอมปนอาหาร, และ พ.ร.บ.ภาษีกรมสรรพสามิต ก่อนนำตัวทั้งคู่ฝากขังศาลอาญามีนบุรี เมื่อวันที่ 31 ส.ค. โดยไม่ปรากฏญาติมายื่นคำร้องและหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว กระทั่งควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำพิเศษมีนบุรี