ความคืบหน้านักท่องเที่ยวชาวอินเดียตกหลุมยุบในกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ปฏิบัติการค้นหาเข้าสู่วันที่หก พบสุนัขเคไนน์ 2 ตัวดมกลิ่น อาจมีสิ่งกีดขวางใกล้ห้องบำบัดน้ำเสียที่ 2 เตรียมส่งนักดำน้ำค้นหากลางดึก ที่ระดับน้ำเสียลดลง ด้านรองนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเตรียมตรวจสอบสาธารณูปโภคและระบบใต้ดินทั้งหมด
วันนี้ (29 ส.ค.) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ความคืบหน้าการค้นหาร่างของนางวิชัยลักษมี (Vijayalakshmi) นักท่องเที่ยวหญิงชาวอินเดียวัย 48 ปี ประสบอุบัติเหตุตกลงไปในหลุมที่ยุบตัวลงมา บริเวณถนนมัสยิดอินเดีย (Jalan Masjid India) เมื่อเวลา 08.44 น. ของเช้าวันศุกร์ที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา สำนักข่าวเบอร์นามาของมาเลเซียรายงานเมื่อวานนี้ (28 ส.ค.) ว่า กรมดับเพลิงและกู้ภัยมาเลเซีย (JBPM) ตรวจพบการอุดตันที่เกิดจากวัตถุที่ติดอยู่ระหว่างหลุมยุบกับห้องบำบัดน้ำเสียที่ 2 ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 80 เมตร ทำให้ทีมกู้ภัยทางน้ำตัดสินใจปฏิบัติการดำน้ำในคืนนี้
อาหมัด อิซราม ออสมัน รองผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ กรมดับเพลิงและกู้ภัยมาเลเซีย ระบุว่า สุนัขหน่วยเคไนน์ (K9) ที่ชื่อว่า เดนติ และแฟรงกีตรวจพบการอุดตันดังกล่าว ซึ่งจากการดมกลิ่นดูเหมือนว่าจะมีสิ่งบ่งชี้ชัดเจน รวมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดระบุด้วยว่ามีสิ่งกีดขวาง ที่ชี้ให้เห็นว่าอาจมีวัตถุหรือร่างผู้สูญหายติดอยู่ในนั้น จึงพยายามสูบน้ำเสียที่อยู่ภายในท่อออกไปเพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายนักดำน้ำ ซึ่งจะเริ่มปฏิบัติการในเวลา 02.00 น. วันนี้ (29 ส.ค.) เนื่องจากคาดว่าระดับน้ำเสียจะต่ำกว่า 1 เมตร เมื่อเทียบกับระดับปกติที่ 1.5 เมตร ความเร็วของน้ำ 3 นอตในปัจจุบัน ซึ่งเป็นอันตรายต่อนักดำน้ำ
ปฏิบัติการครั้งนี้ใช้นักดำน้ำ 8 คน และเจ้าหน้าที่อีก 75 นายคอยดูแลเครื่องจักรและด้านการขนส่ง โดยจะตรวจสอบที่ห้องบำบัดน้ำเสีย เพราะมีช่องว่างเล็กๆ ระหว่างผนังกับท่อระบายน้ำ ซึ่งอาจมีวัตถุติดอยู่ได้ รวมทั้งสุนัขเคไนน์ทั้งเดนติ และแฟรงกีจะส่งไปตรวจสอบร่วมกับกล้องวงจรปิดและนักดำน้ำเมื่อระดับน้ำเสียลดลง โดยสุนัขทั้งสองตัวเป็นสุนัขพันธุ์อิงลิช สปริงเกอร์ สแปเนียล มีความสามารถในการตรวจจับสิ่งแปลกปลอมในน้ำได้ดีเยี่ยม นอกจากนี้ ทีมปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย (SAR) กำลังตรวจสอบท่อระบายน้ำทุกแห่ง และค้นหาผู้สูญหายต่อไปโดยใช้วิธีการต่างๆ และความเชี่ยวชาญที่มีอยู่
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.30 น. ของเช้ามืดวันพุธที่ผ่านมา (28 ส.ค.) เกิดหลุมยุบจุดที่สอง บนถนนมัสยิดอินเดีย ห่างจากจุดที่นักท่องเที่ยวตกลงไปในหลุมยุบประมาณ 50 เมตร หลังเกิดฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรงตลอดคืน ทำให้ศาลาว่าการกรุงกัวลาลัมเปอร์และบริษัทอินเดียน วอเตอร์ คอนซอร์เตียม (IWK) เจ้าของโรงบำบัดน้ำเสียเข้าตรวจสอบท่อระบายน้ำที่บริเวณหลุมยุบอีกแห่ง กระทั่งได้ปิดการจราจรโดยห้ามยานพาหนะทุกชนิดเข้า แต่ยังให้คนเดินเท้าสัญจรเฉพาะส่วนที่ไม่ได้รับผลกระทบตามปกติ
ขณะที่เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา นายฟาดิลลาห์ ยูโซฟ รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย พร้อมด้วยนางซาลิฮา บินติ มุสตาฟา รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (เขตสหพันธรัฐ) ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดในการค้นหาผู้สูญหายจากทีมปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย (SAR) โดยนายฟาดิลลาห์กล่าวว่า รัฐบาลจะดำเนินการตรวจสอบความสมบูรณ์ของสาธารณูปโภคและระบบใต้ดินทั้งหมด หลังปฏิบัติการเสร็จสิ้นลง เพื่อค้นหาสาเหตุของการทรุดตัวและปรับปรุงระบบสาธารณูปโภค เพื่อให้แน่ใจว่าประชาชนจะได้รับความปลอดภัย โดยจะทำงานร่วมกับหลายหน่วยงาน ส่วนข้อเสนอจากต่างประเทศในการเข้าร่วมปฏิบัติการ SAR นั้น ยังไม่จำเป็นเพราะทีม SAR ระดับชาติมีความชำนาญอยู่แล้ว
อีกด้านหนึ่ง การจัดงาน Merdeka Threshold Celebration 2024 เนื่องในเทศกาลวันชาติมาเลเซีย ซึ่งจะจัดขึ้นที่ลานเมอร์เดก้า สแควร์ กรุงกัวลาลัมเปอร์ในวันพรุ่งนี้ (30 ส.ค.) ได้ถูกยกเลิกเพื่อไว้อาลัยแก่ผู้สูญหายจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ และวิงวอนให้ทุกฝ่ายร่วมกันดำเนินชีวิตตามความหมายของอิสรภาพที่เต็มไปด้วยความรักชาติของชาวมาเลเซีย
