”หมอยง“ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา เผย ข้อมูลวัคซีนป้องกันฝีดาษเข้าสู่ Generation ที่ 3 ชี้วัคซีนมีราคาแพงและอาจเกิดอาการข้างเคียงที่รุนแรง ควรฉีดเฉพาะกลุ่มเสี่ยงเท่านั้น
วันนี้ (26 ส.ค.) นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ได้ออกมาโพสต์ข้อความ เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษ โดยได้ระบุข้อความว่า
“การพัฒนาวัคซีนป้องกันฝีดาษ ได้มีการพัฒนามาโดยตลอดจนปัจจุบันเข้าสู่ Generation ที่ 3
ในอดีตไข้ทรพิษสร้างปัญหามีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก คุณหมอเอ็ดเวิร์ด เจนเนอร์ ได้สังเกตว่าหญิงรีดนมติดฝีดาษวัวเป็นตุ่มที่มือ และเมื่อเกิดการระบาดของไข้ทรพิษ หญิงรายนี้ไม่เป็นโรค จึงใช้หนองฝีของฝีดาษวัวมาปลูกให้กับเด็กเพื่อป้องกันไข้ทรพิษ สามารถป้องกันได้อย่างดี
วัคซีนใน Generation 1 จึงมีกระบวนการทำโดยการใช้เชื้อฝีดาษ Vaccinia ใส่เข้าทางผิวหนังของวัว และวัวก็จะติดโรค ในวันที่ 7 หลังรับเชื้อก็ล้มวัว และเอาน้ำเหลืองของวัวมาทำให้แห้งด้วยความเย็น เก็บไว้แล้วจึงค่อยมาละลาย ปลูกให้กับมนุษย์ ในหนองฝีที่เก็บไว้จะมีเชื้อฝีดาษวัว นับเป็นการปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ กระบวนการทำดังกล่าวที่ต้องคำนึงคือเรื่องความสะอาด สิ่งปลอมปนมากับน้ำเหลืองของวัว หรือชีววัตถุ แต่ก็ได้มีการใช้มายาวนานมาก จนไข้ทรพิษหมดไป ต่อมาเมื่อมีการกล่าวถึงสงครามเชื้อโรค อาจจะมีการใช้ไวรัสไข้ทรพิษมาเป็นอาวุธ จึงมีการพัฒนาวัคซีนให้ดีขึ้น
วัคซีนใน Generation ที่ 2 ใช้กระบวนการเพาะเลี้ยงไวรัสในจานเพาะเลี้ยง แต่ก็ยังคงใช้ไวรัสชนิดเดียวกันอยู่ โดยแทนที่จะได้ไวรัสจากวัว ก็มาเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการโดยใช้เซลล์เพาะเลี้ยง สามารถกำหนดขนาดและปริมาณของไวรัสได้เป็นอย่างดี และความปลอดภัยของการปนเปื้อนก็ดีกว่า แต่วิธีการสร้างภูมิต้านทานก็ยังใช้วิธีการปลูกฝี การปลูกฝีมีอาการข้างเคียงหลายอย่าง นอกจากเป็นแผลแล้ว เชื้อหนองฝีอาจจะกระจายโดยเฉพาะคนภูมิต้านทานต่ำ หรือกระจายไปอยู่ที่อื่น จึงมีการพัฒนาวัคซีนต่อ
วัคซีนใน Generation ที่ 3 เป็นการใช้เชื้อตัวเดียวกันคือ Vaccinia เอามาทำให้อ่อนฤทธิ์จนเชื้อนั้นไม่สามารถก่อโรคในคนได้ ในกลุ่มนี้ยังมีการพัฒนาต่อโดยใช้เชื้อสายพันธุ์อ่อนฤทธิ์พัฒนาไม่ให้สามารถแบ่งตัวได้ เมื่อแบ่งตัวไม่ได้ก็ไม่สามารถที่จะก่อโรคได้ และวิธีการให้จึงเป็นการฉีด และต้องให้ถึง 2 ครั้ง ห่างกัน 6 เดือน อย่างที่วัคซีนที่ใช้กันอยู่ในทุกวันนี้ ยังอยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ของบริษัทผู้ผลิต จึงมีราคาแพงมาก
อย่างไรก็ตาม วัคซีนทุกชนิดมีอาการข้างเคียง และอาการข้างเคียงของวัคซีนฝีดาษในอดีตที่มีการกล่าวถึงอาการข้างเคียงที่รุนแรง คือหลังให้วัคซีนเกิดสมองอักเสบ และเยื่อหุ้มหัวใจกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
วัคซีนในเจเนอเรชันที่ 3 ที่ใช้กันอยู่นี้ เป็นการพัฒนาไวรัสให้ออกฤทธิ์ และไม่สามารถแบ่งตัวได้ แต่ก็ยังเป็นวัคซีนที่ค่อนข้างใหม่ การเกิดอาการข้างเคียงคงจะต้องติดตามหลังการใช้เป็นจำนวนมาก
วัคซีนมีราคาแพงและอาจเกิดอาการข้างเคียงได้ ดังนั้นในปัจจุบันเราจึงให้วัคซีนเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงสูงเท่านั้น"