ทีมปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยดำเนินการค้นหานักท่องเที่ยวหญิงชาวอินเดียวัย 48 ปี ตกลงไปในหลุมยุบบริเวณถนนมัสยิดอินเดีย ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียเป็นวันที่สาม หลังผ่านมาแล้ว 2 วันไม่พบเบาะแสใดๆ ด้านนายกรัฐมนตรีแสดงความเสียใจ และการค้นหายังคงดำเนินต่อไป
วันนี้ (25 ส.ค.) สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยในกรุงกัวลาลัมเปอร์ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุหลุมยุบบริเวณถนนมัสยิดอินเดีย (Jalan Masjid India) ความลึกประมาณ 8 เมตร เมื่อเวลาประมาณ 08.22 น. วันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ นางวิชัยลักษณี (Vijayalakshmi) ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวหญิงชาวอินเดียวัย 48 ปี ตกลงไปในหลุมดังกล่าว และไม่ทราบชะตากรรม แม้ความพยายามในการค้นหาผ่านมาแล้ว 2 วันก็ตามแต่ก็ยังไม่พบ
สำนักข่าวเบอร์นามาของมาเลเซียรายงานว่า ทีมปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย (SAR) เริ่มปฏิบัติการค้นหานางวิชัยลักษณีเมื่อเวลา 09.30 น. เป็นวันที่สาม หลังจากหยุดปฏิบัติการไปเมื่อเวลา 19.00 น.ของเมื่อวานนี้ (24 ส.ค.) โดยเน้นไปที่ท่อระบายน้ำ 2 แห่งบนถนนมลายู และแยกถนนมลายู หลังจากค้นหาที่ท่อระบายน้ำรอบพื้นที่รวม 6 แห่ง
นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ยืนยันว่าปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือผู้สูญหายจะยังคงดำเนินต่อไป พร้อมแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ ศาลาว่าการกรุงกัวลาลัมเปอร์ (DKBL) ให้ไปพบกับครอบครัวของผู้สูญหายแล้ว
ขณะที่นายฟาดิลลาห์ ยูซอฟ รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุว่า เกิดจากปัจจัยทางภูมิศาสตร์และโครงสร้างของดิน โดยเมื่อชั้นหินปูนขัดขวางการไหลของน้ำใต้ดิน ส่งผลให้ดินไม่มั่นคงและเกิดหลุมยุบ บางครั้งไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าหลุมยุบจะเกิดขึ้นเมื่อใด และที่ใด
เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในมาเลเซียเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีหินปูนและสภาพธรณีวิทยาเฉพาะ อย่างไรก็ตาม ด้วยความรู้และเทคโนโลยีที่ถูกต้องจะทำให้เหตุการณ์เช่นนี้ลดน้อยลงและดำเนินมาตรการป้องกันเพื่อปกป้องชุมชนและบรรเทาผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือผู้สูญหายเมื่อวานนี้ (24 ส.ค.) เจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนได้ค้นหาที่ท่อระบายน้ำรอบพื้นที่รวม 6 แห่ง และโรงบำบัดน้ำเสียบริษัทอินดะห์ วอเตอร์ คอนซอร์เตียม (Indah Water Konsortium หรือ IWK) ย่านปันตายดาลัม แต่ไม่พบเบาะแสใดๆ
อนึ่ง การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะต้องรับมือกับกระแสน้ำเชี่ยวในท่อระบายน้ำ และมีก๊าซที่อาจเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งเข้าไปค้นหาครั้งละ 2-3 คน ใช้เวลาค้นหาประมาณ 20 นาที ขณะเดียวกัน ปฏิบัติการค้นหาดังกล่าวทำให้บรรดาผู้ค้า ซึ่งอยู่ในบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุต้องหยุดประกอบกิจการชั่วคราวเพื่อให้ความร่วมมือแก่เจ้าหน้าที่
