น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2567” ซึ่งจัดโดย กระทรวง อว. ดำเนินการโดยองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) พร้อมมอบรางวัล Prime Minister’s Science Award 2024 เพื่อเชิดชูเกียรติแก่เยาวชนและครูที่สร้างสรรค์ผลงานด้านวิทยาศาสตร์อันโดดเด่น โดยมี นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวง อว. พร้อมด้วย ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผอ.อพวช. ผู้บริหารกระทรวง อว. และผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคม สภาสมาคม มูลนิธิและพิพิธภัณฑ์และต่างประเทศ เข้าร่วม
เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2567” ซึ่งจัดโดย กระทรวง อว. ดำเนินการโดย องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) พร้อมมอบรางวัล Prime Minister’s Science Award 2024 เพื่อเชิดชูเกียรติแก่เยาวชนและครูที่สร้างสรรค์ผลงานด้านวิทยาศาสตร์อันโดดเด่น โดยมี นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวง อว. พร้อมด้วย ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผอ.อพวช. ผู้บริหารกระทรวง อว. และผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคม สภาสมาคม มูลนิธิและพิพิธภัณฑ์และต่างประเทศ เข้าร่วม
น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.กระทรวง อว. กล่าวเปิดงานว่า รัฐบาลตระหนักเป็นอย่างยิ่งถึงความสำคัญของการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ วิทยาการ เทคโนโลยี และนวัตกรรม โดยคาดหวังให้คนไทยมีทักษะความรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่มีผลกระทบโดยตรงต่อมวลมนุษยชาติทั้งปัจจุบันจนถึงอนาคต การสร้างส่งเสริมศักยภาพทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ล้วนเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ รัฐบาลจึงสนับสนุนการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต ประชาชนทุกคนต้องสามารถเข้าถึงองค์ความรู้โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ ไม่เพียงการเรียนรู้เฉพาะในโรงเรียน ในมหาวิทยาลัยหรือในสถาบันต่างๆ เท่านั้น โลกในอนาคตเป็นโลกกว้างที่มีองค์ความรู้หลากหลายสามารถเรียนรู้ได้อย่างไร้พรมแดน รวมทั้งส่งเสริมงานวิจัยและพัฒนาทั้งในด้านสังคม ด้านวิทยาศาสตร์ประยุกต์ (Applied Science) และการวิจัยขั้นแนวหน้า (Frontier Research) เพื่อต่อยอดให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยีและ นวัตกรรม รัฐบาลจึงสนับสนุนการจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ประจำปี 2567 ในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมแก่คนไทยทุกช่วงวัย
“หวังว่างานมหกรรมวิทย์ฯ ปีนี้จะสร้างประสบการณ์ที่น่าสนใจให้กับเด็กและเยาวชน เพื่อกระตุ้นความสนใจในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม และการศึกษาสะเต็ม ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มพูนกําลังคนในสาขาอาชีพวิทยาศาสตร์ และช่วยพัฒนาเยาวชนให้มีทักษะในการเป็นนักประดิษฐ์และนวัตกรในอนาคต สิ่งเหล่านี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะสามารถต่อยอดการประกอบอาชีพอย่างมั่นคงได้ในอนาคต”
"ทั้งนี้ น.ส.ศุภมาสได้กล่าวแสดงความยินดีและชื่นชมเยาวชนและครูผู้ได้รับรางวัล Prime Minister’s Science Award 2024 ว่า เยาวชนและครูผู้ได้รับรางวัล Prime Minister’s Science Award 2024 ที่ได้รับรางวัลทุกท่านที่ได้เป็นแบบอย่างที่สำคัญในฐานะที่ผู้ที่ประสบความสำเร็จด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งจะเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับบุคคลอื่นต่อไป" น.ส.ศุภมาสกล่าว
ด้านนายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวง อว. กล่าวว่า งาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ” นับเป็นกิจกรรมสำคัญที่ใหญ่ในการสร้างความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ โดยปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-25 สิงหาคม 2567 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเป็นเวทีสำคัญในการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ในฐานะทรงเป็น “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ในฐานะทรงเป็น “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย” และ“พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย” และเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐
ปลัดกระทรวง อว.กล่าวต่อว่า แนวคิดของการจัดงานในปีนี้คือ “Future Science Community For All” หรือ “สังคมวิทยาศาสตร์แห่งอนาคตสำหรับทุกคน” ซึ่งสะท้อนวิสัยทัศน์ของ กระทรวง อว. ที่ต้องการให้ทุกกลุ่มในสังคม มีส่วนร่วมในการสร้างและพัฒนาสังคมวิทยาศาสตร์ที่ยั่งยืน การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งเด็ก เยาวชน ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสังคมวิทยาศาสตร์ที่เปิดกว้างและครอบคลุม และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมและสร้างอนาคตที่ดีขึ้น โดยภายในงานจะมีการจัดแสดงเทคโนโลยีที่ทันสมัย และกิจกรรมความสนุกด้านวิทยาศาสตร์มากมาย อาทิ นิทรรศการ “The Multiverse of AI: Trick or Truth” ร่วมออกเดินทางสำรวจจักรวาลแห่ง AI ที่จะพาทุกคนไปสัมผัสประสบการณ์เบื้องหลังนวัตกรรมแห่งอนาคต นิทรรศการ “อาชีพ STEM สร้างอนาคต” เปิดโลกอาชีพวิทย์แสนสนุกของเด็กและเยาวชนให้รู้ทักษะของตัวเอง เติบโตอย่างมีเป้าหมายและได้ทำงานในสิ่งที่รักอย่างสนุกสนาน นิทรรศการ “ต้องรอด! ในดินแดนสุดขั้ว” ร่วมสำรวจมหานครทะเลทราย ดินแดนลึกลับที่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด พาทุกคนเดินทางเข้าสู่ดินแดนแห้งแล้งสุดขั้ว สัมผัสประสบการณ์ในดินแดนทะเล 4 แบบ ร่วมค้นหาพืชและสัตว์แปลกตาที่อยู่รอดในดินแดนแห้งแล้งพร้อมผจญภัยและเรียนรู้วิถีชีวิตชาวเบดูอิน สนุกกับการทดลองขี่อูฐและร่วมเฉลิมฉลองให้กับปีสากลแห่งอูฐ และนิทรรศการ “ปิโตรเคมีปั้นแต่งโลก” เรียนรู้ความความสำคัญของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่มีต่อความสะดวกสบายในการดำรงชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ตลอดชีวิตที่น่าสนใจอีกมากมาย
หลังเสร็จสิ้นพิธีเปิด น.ส.ศุภมาส พร้อมผู้บริหาร ได้เยี่ยมชมบูทนิทรรศการและกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย นิทรรศการเทิดพระเกียรติ นิทรรศการแสดงความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของหน่วยงานต่างๆ และชมผลงานโครงงานวิทยาศาสตร์ของเยาวชนที่ได้รับรางวัล Prime Minister’s Science Award 2024 พร้อมทักทายผู้เข้าชมงานอย่างเป็นกันเอง