เฟซบุ๊กเพจท่องเที่ยวที่มีผู้ติดตามกว่า 30,000 คน ออกชี้แจงดรามาแปะสติกเกอร์บนเสาที่ญี่ปุ่น ชาวเน็ตแห่คอมเมนต์สนั่น ชี้เที่ยวธรรมชาติต้องมีจิตสำนึก
จากกรณีเฟซบุ๊กเพจท่องเที่ยวที่มีผู้ติดตามกว่า 30,000 คน ได้โพสต์ภาพแฟนหนุ่มคุกเข่าขอแต่งงานบนยอดเขาฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น พร้อมทั้งได้โพสต์ภาพที่แฟนเพจทักอินบอกซ์มาชื่นชมด้วยที่เจ้าของเพจนำสติกเกอร์ข้อความเดียวกับชื่อเพจไปติดบนเสาที่ใช้กั้นเขตทางเดินบนภูเขาฟูจิ ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นต่างๆ มากมาย อาทิ ไม่ควรทำเพราะเป็นสถานที่ที่คนญี่ปุ่นเคารพและศักดิ์สิทธิ์
อย่างไรก็ตาม พบว่ามีพลเมืองดีแกะสติกเกอร์ดังกล่าวออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 ส.ค. เพจ “Ploy Land” เจ้าของสติกเกอร์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงในประเด็นดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าจุดที่ตนเองแปะสติกเกอร์นั้นไม่ใช่เสาโทริตามที่หลายคนเข้าใจ พร้อมร่ายยาวข้อชี้แจง 9 ข้อ
อย่างไรก็ตาม พบว่ามีชาวเน็ตและเพจดังจำนวนมากเข้ามาร่วมคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมที่ไม่สมควรและคำชี้แจงที่ฟังไม่ขึ้นของทางเพจ
โดยเพจ ไอ้…. กูขรรม ได้เข้ามาคอมเมนต์ว่า
“Ploy Land นี่คือการชี้แจงจริงๆ เหรอ ทำไมอ่านเหมือนการต่อว่าคนที่ด่ากับเพจที่ลงมั่ว การเที่ยวธรรมชาติที่ดีคือการเที่ยวแล้วธรรมชาติและสถานที่นั้นเสียหายน้อยที่สุดและคงความสวยงามไว้นะ
จะบอกให้ฟังนะการมีจิตสำนึกและมารยาทไม่ว่าจะอยู่ในที่ไหนบนโลกก็ควรมีติดตัวไว้เสมอ ไม่ใช่ออกจากบ้านแล้วใส่ถุงเก็บใส่ตู้เย็นทันที คิดว่าการที่ทำแบบนี้ต่างชาติเจ้าของประเทศที่ไปทำสกปรกในประเทศเขาจะด่าแค่คนคิดหรือเหมารวมทั้งประเทศว่าคนไทย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนนิ แล้วอย่าบอกว่าทำครั้งแรกนะเพราะเคยมีลูกเพจตัวเองติติงเรื่องการติดสติกเกอร์ในที่อื่นมาแล้วนิเห็นบอกจะฟ้องเขาด้วยไม่ใช่เหรอ ไหนจะเรื่องถ่ายคลิปติดคนอื่นแบบไม่ให้เกียรติเขาด้วยนิ
ไปลองนั่งทบทวนสิ่งที่พิมพ์นี้มาใหม่แล้วโพสต์จากจิตสำนึกที่รู้สึกผิดมาอีกทีนะ หรือต้องให้ขุดวีรกรรมเก่าๆ จนเละก่อนถึงจะรู้สึกผิดได้”
นอกจากนี้มีชาวเน็ตเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น เช่น
“อ่านแบบชัดเจนไม่ตกหล่นสักข้อ มีแต่คำว่า ที่คนอื่นวิจารณ์ไม่สมควร ไม่เหมาะสม แต่ของตนเองคือเหมือนการขอโทษเพื่อให้เรื่องจบๆ ไป จะเสากันคนตก หรือเสาอะไร สิ่งที่ไปเที่ยวสถานที่อื่นๆ ที่ไม่ควรทำ คือสิ่งที่คุณกระทำลงไปอยู่ค่ะ มันคือมารยาททางสังคมค่ะ คุณก็เที่ยวหลายที่แต่เหมือนยังขาดจุดนี้ไปนะคะ”
“ขออนุญาตสอบถามเพิ่มเติมนะคะ
-ที่คุณว่าตกลงคนที่อนุญาตคือเจ้าหน้าที่หรือชาวบ้านคนท้องถิ่นคนแถวนั้นคะ??? แต่ 👇🏼
-การเดินป่าหรือท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ
ที่คุณไปมาหนักหนาไม่ได้ทำให้มี common sense ตระหนักหรือสอนในเรื่องพวกนี้บ้างเลยเหรอคะ ถามจริงๆ รักธรรมชาติจริงๆ หรือเพียงแค่อยากเป็นที่ยอมรับในสังคม????
-เรื่องที่เขาลือกันว่าคุณทำทัวร์โดยไม่มีใบอนุญาตจริงหรือเปล่าคะ
ขอบคุณค่ะ”
“จิตสำนึกและการเคารพวัฒนธรรมต้องมีนะคะ เรื่องอื่นคนอื่นแช่งไปแล้ว”
“แล้วเรื่องทัวร์ที่กำลังแชร์กันว่อนโซเชียลว่าจัดทัวร์โดยไม่มีใบอนุญาตจริงไหมคะ? ไม่เห็นชี้แจงเลยค่ะ!!!”
“ทำไมนะ เมื่อเรารู้ว่าสิ่งที่ทำมันผิดเมื่อเรารู้ว่าสิ่งที่เราลงมือมันจะมีผลเสีย ทำไมเราถึงเลือกที่จะทำสิ่งที่ผิดและมาแก้ไขด้วยวิธีบ้องตื่นสั้นๆ ว่า ขอโทษค่ะ น้อมรับผิดค่ะ เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะคุณขาดจิตสำนึกไงคะ เพราะคุณไม่มีมันเลยตั้งแต่แรก”
“ทั้งที่รู้ว่าไม่ควรก็ยังจะทำเพียงเพราะคนก่อนหน้าเขา "ขออณุญาต" คุณไม่เอะใจจริงๆ เหรอครับ ก็ปล่อยเขาติดไปสิ คุณควรทำตัวให้เป็นแบบอย่างครับ ญี่ปุ่นไม่ใช่ป้ายบอกทางไปอำเภอปายนะครับ ที่นึกจะติดก็ติดที่เขาอนุญาตเพราะเขาเกรงใจคุณรึเปล่าครับ ขอให้ผลของการกระทำนี้เป็นบทเรียนนะครับ อย่าได้ทำแบบนี้อีก ขอบคุณครับ”
“แล้วทำไมเห็นคนอื่นทำสิ่งที่ไม่ควรทำ แล้วเราต้องไปทำตามเขาล่ะคะ?!
จิตสำนึกในการท่องเที่ยว มันต้องมีบ้างนะคะไม่ว่าไปที่ไหน ไม่ใช่หรือคะ คุณพลอย?!”
“ถามจริง ถึงตอนนี้ก็ยังคิดไม่ได้เหรอ มันอยู่ที่การกระทำทั้งหมดของคุณว่าสมควรมั้ย แล้วเรื่องจัดทัวร์อีก คือไม่มีใบประกอบใช่มั้ย แต่ใช้คำพูดว่าใครจะไปก็ไปเที่ยวด้วยกัน”
“อ่านครบทุกข้อ ไม่รู้สึกถึงการยอมรับว่าตัวเองทำผิดเลยสักข้อ มีแต่ด่าคนอื่น เข้าใจผิด ไม่รู้ความจริงไม่เหมาะสม แต่ตัวเองเน้นแค่ขอแล้วๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“เสาไหนก็ไม่ควรค่ะ บ้านใครใครก็รัก ไปเที่ยวก็ควรจะรักษา นึกถึงส่วนรวมเยอะๆ มีจิตสำนึก คิดก่อนทำค่ะ ไปท่องเที่ยวไม่ควรทิ้งอะไรไว้นอกจากรอยเท้านะคะ”
“ติดเพื่อ? กลัวคนเขาไม่รู้เหรอว่าไปมาแล้ว?”