เนื่องในโอกาสแห่งปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ภายใต้การนำของ นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร. จึงได้จัดกิจกรรมโครงการสื่อมวลชนสัญจร สืบสานพระราชดำริ ประจำปี 2567 ลงพื้นที่เยี่ยมชม ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านนานกเค้า ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนคร เพื่อเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการในพระราชดำริ การพัฒนาด้านต่างๆ ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานไว้ และได้สร้างประโยชน์สุขแก่ประชาชน และประเทศชาติอย่างอเนกอนันต์
ย้อนกลับไปเมื่อปีพุทธศักราช 2560 จังหวัดสกลนครได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน “ตาลัส” และพายุโซนร้อน “เซินก้า” ส่งผลให้ทำนบดินถูกน้ำกัดเซาะจนชำรุดเสียหายอย่างหนัก ทำให้น้ำท่วมพืชผลไร่นาทางการเกษตรของชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง ครั้นความเดือดร้อนของราษฎรทราบยังฝ่าละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและสำนักงาน กปร.รีบดำเนินการปรับปรุงอ่างเก็บน้ำ “ห้วยทรายขมิ้น” ที่ประสบปัญหาอุทกภัยชำรุดเสียหาย และต่อมาวันที่ 12 สิงหาคม 2560 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และมีพระราชกระแสรับสั่งให้ถือว่าเป็นความเร่งด่วนอย่างสำคัญ พร้อมตรวจระบบอ่าง, สันเขื่อน ฯลฯ ในพื้นที่นี้ต่อไป
จากพระราชดำริดังกล่าว สำนักงาน กปร. และกรมชลประทานได้ดำเนินการสนองพระราชดำริ โดยการปรับปรุงอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นฯ ซึ่งประกอบด้วย 4 กิจกรรมหลัก ได้แก่ ทำนบดินอ่างเก็บน้ำใหม่กว้าง 9 ม. สูง 11 ม. ยาว 1,165 เมตร อาคารท่อส่งน้ำฝั่งซ้าย ขนาด 1.00 เมตร จำนวน 115 เมตร อาคารระบายน้ำล้น อาคารท่อส่งน้ำฝั่งขวาพร้อมท่อระบายลงลำน้ำเดิมขนาด 1.20 เมตร จำนวน 95 เมตร ทำให้ราษฎรบ้านห้วยทราย หมู่ที่ 4 บ้านพังขว้างเหนือ หมู่ที่ 2 ต.พังขว้าง และบ้านขมิ้น หมู่ที่ 2 บ้านพาน หมู่ที่ 8 ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร รวม 1,223 ครัวเรือน 4,584 คน มีน้ำสำหรับใช้ทำการเกษตรสามารถเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มขึ้น และใช้อุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอ โดยส่งน้ำสนับสนุนพื้นที่ทำการเกษตรในฤดูแล้ง 1,000 ไร่ และฤดูฝน 3,000 ไร่ นอกจากนี้ยังช่วยลดปัญหาอุทกภัยสร้างความมั่นใจให้แก่ชุมชนในพื้นที่อีกด้วย
นายเรืองวิทย์ โพธิ์ศรี หนึ่งในเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติเหตุการณ์อ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นชำรุด ภายหลังจากได้รับการเยียวยาจากส่วนงานที่เกี่ยวข้อง และเข้าไปศึกษาดูงานเพื่อการประกอบอาชีพที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้นำความรู้มาพลิกฟื้นพื้นที่ดินทำกินที่ได้รับความเสียหาย โดยน้อมนำแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติใช้ พร้อมได้รับปัจจัยการผลิตจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ เพื่อเป็นการเริ่มต้นในการประกอบอาชีพบนพื้นที่ 10 ไร่ ในรูปแบบเกษตรผสมผสาน มีการปลูกไม้ผล เช่น กล้วย มะละกอ ฝรั่ง พืชผักสวนครัว มีถั่วฝักยาว ฟักทอง พริก มะเขือ เลี้ยงเป็ด ไก่ และเลี้ยงปลา ทั้งปลานิล ปลาตะเพียน และปลาดุก
นอกจากนี้ยังเพาะเห็ดขาย ปัจจุบันมีความรู้ความสามารถในการประกอบอาชีพในหลายด้าน นับตั้งแต่การฉีดวัคซีนไก่ การผลิตอาหารไก่และปลาจากวัสดุที่มีในแปลงปลูกแบบครบวงจร ทำให้มีรายได้หมุนเวียนอย่างต่อเนื่องทั้งแบบรายวัน รายเดือน และรายปี ชีวิตมีความมั่นคงและยั่งยืนขึ้น
“ผมรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ในหลวงไม่เคยทอดทิ้งพวกเราชาว จ.สกลนคร ทรงให้การช่วยเหลือพวกเราที่กำลังเดือดร้อนจากภัยพายุ น้ำท่วมพืชผลจนได้รับความเสียหายอย่างประเมินค่าไม่ได้ พระองค์เหมือนเทวดามาโปรดพวกเราให้กลับมามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและพึ่งพาตัวเองได้อย่างภาคภูมิใจอีกครั้งหนึ่ง” เรืองวิทย์กล่าวด้วยความตื้นตันใจ
