ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจเผยน้ำยาทำความสะอาดท่อน้ำทิ้ง ที่ระบุว่าเป็นต้นตอสามแม่ลูกตำรวจหมดสติในห้องน้ำก่อนเสียชีวิต พบกรดซัลฟิวริกความเข้มข้นสูง หาซื้อยากไม่มีขายในห้างฯ แต่พบตามร้านวัสดุก่อสร้าง แถมไม่มีเครื่องหมาย อย. วอส. อีกด้านพบขายเกลื่อนตามแพลตฟอร์มออนไลน์ราคาไม่แพง
กรณีการเสียชีวิตของ ร.ต.อ.(หญิง) อนัญญา บุษยากุล อายุ 60 ปี รองสารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองชลบุรี เสียชีวิตพร้อมด้วย น.ส.จิตรพิสุทธิ์ บุษยากุล อายุ 34 ปี และ น.ส.ปัณณิกา บุษยากุล อายุ 25 ปี สามแม่ลูกภายในบ้านพักข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี ต.บางปลาสร้อย อ.เมือง จ.ชลบุรี หลังหมดสติภายในห้องน้ำชั้นล่าง สภาพน้ำลายฟูมปาก เล็บและปากเป็นสีเขียวคล้ำ อาการสาหัส และได้กลิ่นเหม็นของสารเคมีโชยออกมาจากภายในบ้านอย่างรุนแรง เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา
ล่าสุดมีความคืบหน้าจากสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจระบุว่า ไม่ใช่โซดาไฟ แต่เป็น "น้ำยาทำความสะอาดท่อน้ำทิ้ง" ลักษณะขวดสีขาว ฝาสีแดง ที่พบในบ้านของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นกรดซัลฟิวริกเข้มข้น ไม่มีเครื่องหมาย อย. วอส. (วัตถุอันตรายที่ใช้ทางสาธารณสุข) และเลขที่จดแจ้งรองรับ ตามการเปิดเผยของ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ที่แถลงข่าวเมื่อวันที่ 13 ส.ค. พร้อมชูน้ำยาทำความสะอาดท่อน้ำทิ้งที่คาดว่าเป็นต้นตอที่ทำให้สามแม่ลูกเสียชีวิต
พล.ต.ท.ไตรรงค์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบทราบว่าก่อนเกิดเหตุมีสมาชิกในบ้านไปซื้อผลิตภัณฑ์ล้างท่ออุดตันมาเพื่อแก้ปัญหาท่อตันในห้องน้ำภายในบ้าน ลักษณะเป็นขวดสีขาวทึบ ฝาสีแดง ต่อมาเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ตรวจพบผลิตภัณฑ์ดังกล่าวภายในถังที่มีปริมาณของเหลวเหลืออยู่ก้นขวด ส่วนในห้องน้ำพบผลิตภัณฑ์ล้างห้องน้ำ ยี่ห้อตามท้องตลาดทั่วไปประมาณ 4 ขวด โดยแต่ละขวดถูกใช้งานไปแล้ว
จากการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ยังได้กลิ่นเหม็นไหม้รุนแรง และมีอาการแสบตา แสบจมูก ระคายเคืองระบบทางเดินหายใจ ส่วนห้องน้ำที่เกิดเหตุพบมีขนาดเล็ก กว้าง 1.2 เมตร ยาว 2.5 เมตร สูง 2.05 เมตร และมีช่องระบายอากาศเพียงช่องเดียว ประมาณ 40 เซนติเมตร ประตูเป็นลักษณะผลักเข้าไปด้านใน สันนิษฐานว่าหากมีคนเป็นลมติดอยู่ภายใน คนที่เข้าไปช่วยจะต้องปิดประตูเพื่อทำการช่วย ก็จะมีการสูดดมสารเคมีเข้าไปด้วย และคาดว่าน่าจะมีการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างท่ออุดตันไปประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึง
ต่อมาเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้หาซื้อผลิตภัณฑ์ล้างท่ออุดตันแบบเดียวกันมาตรวจพิสูจน์ พบว่าเป็นกรดซัลฟิวริกความเข้มข้นสูง ลักษณะเป็นของเหลวสีดำ ข้อบ่งใช้ระบุว่าไม่สามารถนำไปใช้ร่วมกับสารที่มีฤทธิ์เป็นด่าง โดยเฉพาะโซดาไฟได้ ซึ่งในที่เกิดเหตุพบขวดน้ำยาล้างห้องน้ำยี่ห้อหนึ่งที่มีฤทธิ์เป็นด่าง มีร่องรอยถูกใช้ไปแล้วเหลือเพียงก้นขวด หากนำไปใช้ร่วมกันแล้วไปเจอสิ่งอุดตันภายในท่อจะทำปฏิกิริยากลายเป็นก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ หรือก๊าซไข่เน่า มีควันพวยพุ่งขึ้นมา ซึ่งในอดีตก็เคยมีกรณีการเสียชีวิตจากก๊าซไข่เน่ามาแล้ว
พล.ต.ท.ไตรรงค์กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ หาซื้อได้ยาก ไม่มีขายในห้างสรรพสินค้าทั่วไป แต่จะพบในร้านขายวัสดุก่อสร้าง อีกทั้งผลิตภัณฑ์นี้ไม่มีเครื่องหมาย อย. วอส. และเลขที่จดแจ้งรองรับ ซึ่งหลังจากนี้จะได้ให้ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีเข้าไปตรวจสอบอีกครั้งว่ามีความผิดหรือไม่ สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอผลชันสูตรอย่างละเอียดจากแพทย์นิติเวช ถ้าเกิดจากผลิตภัณฑ์ล้างท่ออุดตันที่ไม่มี อย. วอส. ก็สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้ พร้อมฝากเตือนถึงประชาชนที่มีความจำเป็นจะต้องใช้สารเคมีใดๆ ให้ศึกษารายละเอียดความอันตรายของสารเหล่านั้นและซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ มีเครื่องหมาย อย. วอส. และเลขที่จดแจ้งรองรับ
ผู้สื่อข่าว MGR Online ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ "น้ำยาทำความสะอาดท่อน้ำทิ้ง" ที่ พล.ต.ท.ไตรรงค์นำมาแสดง พบว่าเป็นแบรนด์ TURTLE หรือ เตอเติล-เคลีย น้ำยาขจัดปัญหาท่อน้ำอุดตัน 500 ซีซี ข้างขวดระบุว่า "น้ำยาทำความสะอาดท่อน้ำทิ้ง" ระบุว่า "คุณสมบัติโดยทั่วไป เป็นน้ำยาสามารถขจัดสิ่งสกปรกในท่อน้ำทิ้ง ที่มีเศษอาหาร, ไขมัน, เส้นผม และอื่นๆ ที่ตามข้องอและข้อต่อในท่อน้ำทิ้ง เช่น อ่างล้างหน้า อ่างล้างชาม หรือท่อระบายน้ำทิ้ง น้ำยา "เตอเติล-เคลีย" จะมีปฏิกิริยาต่ออินทรียสารโดยเฉพาะเท่านั้น จึงไม่ทำลายท่อเอสลอนและท่อพีวีซี
วิธีใช้ เทน้ำยา เตอเติล-เคลีย ประมาณ ½ - 1 ขาด ลงในท่อน้ำ แล้วทิ้งไว้ประมาณ 0-15 นาที แล้วจึงราดน้ำตามลงไป สิ่งสกปรกก็จะหมดไป
ข้อควรระวัง ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวหนังโดยตรง ควรสวมถุงมือยางทุกครั้งเวลาใช้งาน
วัตถุมีพิษอันตราย มีสารประกอบที่ออกฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง อย่าให้สัมผัสผิวหนังและเข้าตา หากถูกผิวหนังหรือเข้าตาให้ล้างด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง และรีบนำตัวส่งแพทย์ (ก่อนใช้อ่านฉลากให้ละเอียดทุกครั้ง)"
อย่างไรก็ตาม ไม่พบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวระบุชื่อ และที่อยู่ของผู้ผลิตว่ามาจากไหน และไม่มีเครื่องหมาย อย. วอส. (วัตถุอันตรายที่ใช้ทางสาธารณสุข) ระบุอยู่ที่ขวดอีกด้วย เทียบกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดห้องน้ำที่จำหน่ายในห้างสรรพสินค้า พบว่านอกจากจะมีเครื่องหมาย อย. วอส. แล้ว ยังระบุวิธีการใช้ คำเตือนอย่างละเอียด รวมทั้งสถานที่ผลิตอีกด้วย
แม้ พล.ต.ท.ไตรรงค์กล่าวว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้หาซื้อได้ยาก ไม่มีขายในห้างสรรพสินค้าทั่วไป แต่จะพบในร้านขายวัสดุก่อสร้าง แต่พบว่าแพลตฟอร์มชอปปิ้งออนไลน์ชื่อดังในไทยสามารถหาซื้อน้ำยาทำความสะอาดท่อน้ำทิ้งยี่ห้อดังกล่าวอย่างง่ายดาย โดยราคาขายอยู่ที่ 51-75 บาทต่อขวด และยังมีน้ำยาทำความสะอาดท่อน้ำทิ้งในลักษณะเดียวกันจำหน่ายอีกด้วย
ขณะที่บนโลกออนไลน์เคยมีการ สาธิตการใช้น้ำยาทำความสะอาดท่อน้ำทิ้ง ดังกล่าว พบว่าเมื่อเทลงในชักโครกหรือท่อน้ำทิ้งแล้วจะเกิดกลุ่มควันพวยพุ่งน่าตื่นเต้น ซึ่งเป็นผลมาจากปฏิกิริยาระหว่างกรดซัลฟิวริกกับคราบสกปรกที่มีฤทธิ์เป็นด่าง เช่น สบู่ หรือน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำที่มีฤทธิ์เป็นด่าง ซึ่งน้ำยาทำความสะอาดท่อน้ำทิ้งดังกล่าวราคาขายปลีกอยู่ที่ 65 บาท
ข้อมูลจากศูนย์พิษวิทยาศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ หรือก๊าซไข่เน่า เป็นก๊าซไม่มีสี มีกลิ่นเหม็นคล้ายไข่เน่า อันตรายของก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ขึ้นอยู่กับปริมาณ โดยหากในระดับความเข้มข้นต่ำ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อดวงตา จมูก และลำคอ ทำให้เกิดอาการไอ น้ำตาไหล และหายใจลำบาก
หากมีการสัมผัสในระดับต่ำถึงปานกลาง อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ และปัญหาการหายใจ ถ้ามีการสัมผัสในระดับสูง อาจทำให้สูญเสียการรับรู้กลิ่นและเกิดอาการรุนแรง เช่น การระคายเคืองตาและระบบทางเดินหายใจ และการสัมผัสในระดับสูงมาก อาจทำให้หมดสติ และระบบหายใจล้มเหลวได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนการรับรู้ถึงอันตราย พบว่าความสามารถของก๊าซนี้ในการทำให้ประสาทรับกลิ่นชินกับกลิ่นอย่างรวดเร็ว ซึ่งหมายความว่าหลังจากสัมผัสครั้งแรก บุคคลอาจไม่สามารถตรวจจับกลิ่นไข่เน่าได้อีก แม้ก๊าซยังคงอยู่ในระดับอันตราย
สำหรับบุคคลทั่วไป สัญญาณเตือนที่ควรระวัง ได้แก่ กลิ่นที่ผิดปกติ กลิ่นไข่เน่าในสถานที่อุตสาหกรรมหรือพื้นที่ปิดควรได้รับการระวังเสมอ ส่วนอาการทางร่างกาย หากผู้สัมผัสมีอาการระคายเคืองที่ตาหรือทางเดินหายใจอย่างกะทันหัน เวียนศีรษะ หรือคลื่นไส้ในบริเวณที่อาจมีไฮโดรเจนซัลไฟด์ ให้ออกจากบริเวณนั้นทันทีและหาที่อากาศบริสุทธิ์
วิธีป้องกันการเป็นพิษ เริ่มจากการระบายอากาศ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพื้นที่เสี่ยงมีการระบายอากาศที่ดี สำหรับสถานที่อุตสาหกรรม ให้สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลที่เหมาะสม เมื่อทำงานในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง ติดตั้งเครื่องตรวจจับก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ในพื้นที่เสี่ยง และมีแผนการอพยพและการฝึกซ้อมฉุกเฉินเพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์