โรงแรมฮ็อปอินน์เข้าร่วมมาตรการเที่ยวเมืองรองของรัฐบาล เปิดให้ลูกค้าที่เข้าพัก 24 จังหวัดเมืองรองขอ E-Received หรือ e-Tax Invoice ใช้ลดหย่อนภาษีได้แล้ววันนี้ หลังที่ผ่านมามีแต่โรงแรมขนาดเล็ก
วันนี้ (5 ส.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า บริษัท เอราวัณ ฮ็อป อินน์ จำกัด บริษัทในเครือดิ เอราวัณ กรุ๊ป ผู้บริหารโรงแรมฮ็อปอินน์ (Hop Inn) บัดเจ็ตโฮเต็ลรายใหญ่ในประเทศไทย ประกาศว่า ทางโรงแรมฯ ร่วมสนับสนุนมาตรการเที่ยวเมืองรอง ลูกค้าสามารถขอ E-Received หรือ e-Tax Invoice (ใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์) ได้แล้ววันนี้ ณ สาขาที่ร่วมรายการ
โดยสาขาโรงแรมฮ็อปอินน์จังหวัดเมืองรองที่เข้าร่วมโครงการ รวม 24 จังหวัด ประกอบด้วย จันทบุรี เชียงราย ชุมพร ตาก (แม่สอด) นครพนม นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ น่าน บุรีรัมย์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก มหาสารคาม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ราชบุรี ลพบุรี ลำปาง สกลนคร สระแก้ว สุพรรณบุรี สุรินทร์ หนองคาย อุดรธานี และอุบลราชธานี
สำหรับมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. สำหรับบุคคลธรรมดา สามารถนำค่าบริการที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ หรือที่ได้จ่ายเป็นค่าที่พักในโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทยหรือค่าที่พักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองได้ตามที่จ่ายจริง แต่ต้องไม่เกิน 15,000 บาท
โดยหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ถึง 30 พ.ย. 2567 ทั้งนี้ จะต้องมีใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ของกรมสรรพากรด้วย
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามีเพียงโรงแรมขนาดเล็กที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น ขณะที่โรงแรมรายใหญ่พบว่ามีเครือโรงแรมเซ็นทาราเข้าร่วมโครงการ 5 แห่ง ได้แก่ เซ็นทารา เกาะช้าง ทรอปิคานา รีสอร์ท จ.ตราด, เซ็นทารา ชานทะเล รีสอร์ทและวิลลา จ.ตราด, เซ็นทารา อุบล จ.อุบลราชธานี, เซ็นทารา อุดร จ.อุดรธานี และเซ็นทารา ไลฟ์ แม่สอด จ.ตาก
