เผยภาพพบร่องรอยลักษณะคล้ายรอยเท้าไดโนเสาร์ บริเวณลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ใกล้ลานกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก ด้านนักธรณีวิทยา คาดอายุประมาณ 120 ล้านปีก่อน
วันนี้ (3 ส.ค.) เพจ "กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช" โพสต์ภาพพบร่องรอยลักษณะคล้ายรอยเท้าไดโนเสาร์ บริเวณลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ใกล้ลานกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก โดยทางเพจรายงานว่า "3 สิงหาคม 2567 นายโกเมศ พุทธสอน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) เปิดเผยว่าได้รับรายงานจากนายลำยอง ศรีเสวก หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก ว่ามีผู้พบเห็นร่องรอยลักษณะคล้ายรอยตีนไดโนเสาร์ บริเวณลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ใกล้ลานกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ซึ่งนายลำยอง ศรีเสวก หน.อช.ภูหินร่องกล้า ได้ดำเนินการประสานกับสำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 2 เพื่อเข้ามาร่วมกันดำเนินการสำรวจพิสูจน์ข้อเท็จจริง
ต่อมาเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2567 นายโกเมศฯ จึงได้ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ร่วมกับคณะเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 2 , ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณี , น.ส.บุษยา เพ็ชร์มา ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เจ้าหน้าที่ประจำอุทยานฯ และผู้ค้นพบคนแรก ซึ่งเป็นครอบครัวนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการสำรวจธรรมชาติ แจ้งว่าค้นพบร่องรอยบริเวณดังกล่าว ครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณที่พบร่องรอย คล้ายรอยตีนไดโนเสาร์ ณ ลานหินบริเวณลานกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จากกรณีที่เคยมีข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ว่า เคยมีผู้พบร่องรอยบนลานหินลักษณะคล้ายรอยตีนไดโนเสาร์ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก มาก่อนหน้านี้
ผลการตรวจสอบเบื้องต้นจากกรมทรัพยากรธรณี พบว่าเป็นรอยตีนของไดโนเสาร์จริง ประทับอยู่บนลานหินทรายและหินโคลน จัดอยู่ในหมวดหินภูพาน ยุคครีเทเชียสตอนต้น อายุประมาณ 120 ล้านปีก่อน กระจายอยู่บนพื้นที่ประมาณ 2,500 ตารางเมตร รอยตีนไดโนเสาร์ที่พบมีจำนวนมากกว่า 10 รอย และแสดงเป็นแนวทางเดิน จำนวนอย่างน้อย 2 แนว ส่วนใหญ่เป็นรอยตีนของไดโนเสาร์กินเนื้อเดินสองขา กลุ่มเทอโรพอดขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ แสดงรอยประทับของของนิ้วตีนข้างละสามนิ้วชัดเจน ทั้งนี้ คณะสำรวจจะลงพื้นที่สำรวจเพิ่มเติม และเก็บข้อมูลทางวิชาการ เพื่อศึกษาวิจัย และพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเพื่อการเรียนรู้ต่อไป"