7 สิงหา ชี้ชะตา ‘ก้าวไกล’ ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยคดียุบพรรค ส.ส.พรรคก้าวไกลเริ่มตั้งคำถามถึงการทำงานการเมืองของพรรค หากยังเล่นกับไฟเช่นนี้คุ้มค่าหรือไม่
อนาคตของพรรคก้าวไกลเดินทางมาถึงหมุดหมายสำคัญ ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยคดียุบพรรคจากกรณีการเสนอแก้ไขประมวลกฎหมาอาญามาตรา 112 จนถูกกล่าวหาเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในวันที่ 7 สิงหาคมนี้
ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลพยายามต่อสู้มาทั้งในกระบวนการไต่สวนว่ามีความไม่ชอบด้วยกฎหมาย และข้อกล่าวหาต่างๆนั้นล้วนฟังไม่ขึ้น โดยเฉพาะการนำกรณีของคดียุบพรรคไทยสร้างชาติมาเทียบกับของพรรคก้าวไกลที่ควรต้องมีบทสรุปเหมือนกัน
นอกจากนี้ การนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาที่สั่งให้พรรคก้าวไกลหยุดการกระทำเกี่ยวกับมาตรา 112 ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 มาเป็นสารตั้งต้นให้ยุบพรรคก้าวไกลในอีกกรณีนั้นก็ไม่อาจกระทำได้เช่นกัน เพราะเป็นคนละกรณีกัน อีกทั้งภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งตามมาตรา 49 พรรคก้าวไกล ก็ดำเนินการตามคำสั่งมาตลอด จึงไม่มีเหตุให้ยุบพรรคได้อีก
ในแง่ของคดีความก็ว่ากันไปตามกระบวนการ แต่สำหรับความเคลื่อนไหวต่อกรณีนี้แล้ว ต้องถือว่ามีการขยับตัวที่น่าสนใจพอสมควร โดยเฉพาะในส่วนของส.ส.พรรคก้าวไกล
แม้ตลอดหลายเดือนมานี้ผู้นำพรรคก้าวไกลทั้ง 'ชัยธวัช ตุลาธน' หัวหน้าพรรค และ 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค จะพยายามยักไหล่และมองข้ามผลของคดีที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 7 สิงหาคม
พร้อมกับระบุว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทุกอย่างจะเดินหน้าต่อไป เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งในอีก 2 ปีข้างหน้า แต่สำหรับส.ส.แล้วอาจไม่ได้คิดเช่นนั้น
โดยส.ส.ในพรรคจำนวนไม่น้อยที่เริ่มตั้งคำถามถึงการทำงานการเมืองของพรรคก้าวไกลที่ยังเล่นกับไฟเช่นนี้คุ้มค่าหรือไม่ และคิดว่าทฤษฎียิ่งยุบยิ่งโตอาจใช้ไม่ได้เหมือนกับเมื่อครั้งการยุบพรรคอนาคตใหม่ที่เป็นลมใต้ปีกให้กับพรรคก้าวไกลสามารถชนะเลือกตั้งได้อีกแล้ว
เพราะสถานการณ์ปัจจุบันกับอดีตได้เปลี่ยนแปลงไป
จากจุดอ่อนตรงนี้ทำให้ส.ส.ของพรรคก้าวไกลเริ่มถูกชักชวนจากหลายพรรคการเมืองในซีกรัฐบาลให้มาอยู่ด้วย โดยเสนอราคาเบื้องต้นไว้ถึงประมาณ 25 ล้านบาท แต่เหมือน ส.ส.พรรคก้าวไกลที่ไม่อยู่ในข่ายจะต้องถูกตัดสิทธิทางการเมืองหากพรรคก้าวไกลถูกยุบ ยังไม่หลงไปกับค่าตัวสำหรับเข้าพรรคที่ว่านั้นเท่าใดนัก
เนื่องจากคิดว่าไม่น่าจะจ่ายได้ในราคานั้น เพราะข่าวว่าผู้เสนอซื้อตัวขอจ่ายก้อนแรกแค่3-5 กิโลฯ ที่เหลือทะยอยให้ ความจริงคงได้แค่ก้อนเดียวเท่านั้น จึงไม่มีคนสนใจไปกับดีลแบบนี้
ประกอบกับ ถ้าไม่มีการชิงประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเลือกใหม่เสียก่อน เท่ากับว่ายังเหลืออีก 2 ปีก่อนสภาฯจะหมดวาระ ทำให้ยังมีเวลาที่วิญญาณพรรคก้าวไกลไปสิงพรรคใหม่และจัดขบวนการต่อสู้ได้เข้ารูปเข้ารอยก่อนถึงปี 2570 ที่จะมีการเลือกตั้งอีกครั้ง
ตรงกันข้าม ถ้าไหลออกไป ก็อาจมีสภาพไม่ต่างจากอดีตงูเห่าพรรคอนาคตใหม่ ที่ออกไปแล้วไม่อาจกลับเข้ามาเป็นส.ส.ได้อีกเลยแม้แต่คนเดียว การสวมใส่เสื้อส้มต่อไปน่าจะเป็นหนทางรอดที่ดีกว่า
อย่างไรก็ตาม มีอีกช่องทางหนึ่งที่กำลังน่าสนใจเพื่อการเอาตัวรอดในครั้งนี้ คือ การรวมกลุ่มกันของส.ส.พรรคก้าวไกลบางส่วน เพื่อไปร่วมกันแผ้วถางสร้างหนทางทางการเมืองแบบใหม่ และขับเคลื่อนอุดมการณ์ในทางการเมืองที่ไม่จำเป็นต้องเล่นของสูง โดยยังคงเน้นการต่อต้านทุนผูกขาด และส่งเสริมความเท่าเทียมกันของคนในสังคม
ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่าภูมิหลังของส.ส.ก้าวไกลหลายคนไม่ได้เป็นพวกเสือหิวหรือพวกนักเลือกตั้งโดยแท้ และมีสถานะทางเศรษฐกิจที่ดีพอสมควร ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยพึ่งทรัพยากรของพรรคหรือผู้มีบารมีนอกพรรคเท่าใดนัก ดังนั้น หากถึงที่สุดแล้วพรรคก้าวไกลไปต่อไม่ได้ การเลือกเดินออกมาเพื่อทำงานตามอุดมการณ์ของตัวเองก็เป็นทางเลือกที่ไม่ได้ดูแย่เกินไป
----------------------------------------------
Sondhi App เปิดให้ Download ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android