พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง ในการเสด็จออกมหาสมาคม รับการถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6รอบ 28 ก.ค.2567
วันนี้ (28 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.13 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง ในการเสด็จออกมหาสมาคม รับการถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6รอบ 28 ก.ค.2567
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี, พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ, ท่านผู้หญิงพลอยไพลิน เจนเซน และท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน โดยเสด็จในการนี้ด้วย พร้อมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี คณะรัฐมนตรี คณะทูตานุทูต สมาชิกรัฐสภา ข้าราชการตุลาการ ข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน ผู้แทนศาสนาอื่นๆ เฝ้าฯ พร้อมกันในท้องพระโรง พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย
ต่อมาเวลา 10.27 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยทางพระทวารเทวราชมเหศวร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ บนพระราชบัลลังก์ภายใต้พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร เจ้าพนักงานรัวกรับและเปิดพระวิสูตร พระตำรวจหลวงชูพุ่มดอกไม้ทองให้สัญญาณ เจ้าพนักงานประโคมกระทั่งแตรมโหระทึก กองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ขณะนั้นทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติ ฝ่ายละ 21 นัด พระสงฆ์ทั่วราชอาณาจักรเจริญชัยมงคลคาถา ย่ำฆ้องกลองระฆัง พร้อมกับการประกอบพิธีกรรมของศาสนาอื่นๆ
ครั้นสุดเสียงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีแล้ว สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนพระบรมวงศานุวงศ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนคณะรัฐมนตรี ข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน และราษฎรทุกหมู่เหล่า, นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนสมาชิกรัฐสภา, นางอโนชา ชีวิตโสภณ ประธานศาลฎีกา ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนข้าราชการตุลาการ
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสตอบ ความว่า “ข้าพเจ้ามีความปลื้มใจอย่างยิ่งที่ได้มาท่ามกลางมหาสมาคมพรั่งพร้อมด้วยทุกท่าน จากทุกสถาบันสำคัญของชาติ ขอขอบพระทัยพระบรมวงศานุวงค์ และขอบใจนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกาในคำอำนวยพร และการเฉลิมฉลองอันงดงามยิ่งใหญ่ที่ทุกคนทุกฝ่ายตั้งใจจัดให้ข้าพเจ้าเป็นพิเศษในวาระนี้ ท่านทั้งหลายผู้มีความรักในชาติ บ้านเมืองย่อม ปรารถนา ให้ชาติบ้านเมืองมีความผาสุกมั่นคง และประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ในการนี้จำเป็นอย่างยิ่ง ที่ทุกท่านผู้อยู่ในตำแหน่งสำคัญของชาติ จะต้องบำเพ็ญกรณียกิจทุกอย่างโดยมีเป้าหมายสูงสุด เป็นอย่างเดียวกัน เพื่อให้ประเทศชาติมีความรุ่งเรืองก้าวหน้าอย่างยั่งยืน อันจะทำให้ประชาชนทุกคนในชาติมีความสุขความเจริญและความมั่นคงในชีวิตอย่างแท้จริง หากทุกท่านทำความเข้าใจให้ถูกต้องตรงกันในข้อนี้ แล้วตั้งใจปฎิบัติภาระหน้าที่ของตนให้บรรลุผลเป็นประโยชน์สูงสุด และประสานสอดคล้องซึ่งกันและกันเป็นอย่างดีแล้ว งานของชาติก็จะดำเนินไปสู่เป้าหมายได้อย่างถูกต้องเที่ยงตรง และสำเร็จผลสมบรูณ์ดังที่ทุกคนทุกฝ่ายตั้งใจปรารถนาขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวไทยทุกหมู่เหล่าเคารพบูชา จงคุ้มครองรักษาทุกท่าน ให้ประสบความสุขสวัสดีพร้อมทั้งความเป็นสิริมงคลทุกประการ”
จากนั้น เจ้าพนักงานรัวกรับและปิดพระวิสูตร ผู้เฝ้าฯ ถวายความเคารพ พระตำรวจหลวงชูพุ่มดอกไม้ทองให้สัญญาณ เจ้าพนักงาน ประโคมกระทั่งแตร มโหระทึก กองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จขึ้นพระที่นั่งไพศาลทักษิณทางพระทวารเทวราชมเหศวรไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯ กลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต