รัฐปีนังไร้เงินสดทุกวันศุกร์ ทำธุรกรรมหน่วยงานของรัฐ ใช้อี-เพย์เมนต์เท่านั้น

รัฐบาลปีนัง ประเทศมาเลเซีย ออกแคมเปญให้หน่วยงานของรัฐ รณรงค์ให้ประชาชนทำธุรกรรมผ่านระบบอี-เพย์เมนต์แทนเงินสด ทุกวันศุกร์เป็นเวลา 3 เดือน พร้อมแจกเงินรางวัลแก่หน่วยงานเพื่อจูงใจ เผยครึ่งปีแรกมีปริมาณธุรกรรมผ่านออนไลน์กว่า 5.4 ล้านรายการ คิดเป็นรายได้กว่า 3,993 ล้านบาท

วันนี้ (12 ก.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า รัฐบาลปีนัง ประเทศมาเลเซีย ได้ออกแคมเปญรณรงค์ให้ประชาชนทำธุรกรรมผ่านระบบรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (อี-เพย์เมนต์) แทนเงินสด โดยได้กำหนดให้ทุกวันศุกร์รับชำระเงินผ่านระบบอี-เพย์เมนต์เท่านั้น เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ถึงเดือนตุลาคม 2567

นายเฉา กวนโหย่ว มุขมนตรีรัฐปีนัง กล่าวในการเปิดตัวแคมเปญที่โรงแรมเซนต์ไจส์ เวมบลีย์ ปีนัง เมืองจอร์จทาวน์ เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ว่า ทุกวันศุกร์ ผู้ที่ต้องการชำระเงินที่เคาน์เตอร์สำนักงาน ของหน่วยงานรัฐปีนัง จะต้องชำระเงินผ่านระบบอี-เพย์เมนต์เท่านั้น เช่น อี-วอลเล็ต คิวอาร์โค้ด ธนาคารออนไลน์ บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต รวมทั้งสามารถทำธุรกรรมได้ที่เครื่องคีออสอัจฉริยะ และผ่านออนไลน์เชื่อมกับระบบรัฐบาล เช่น e-Bayar, Aspire, MBSPPay และ Cyber ​​Counter

พร้อมกันนี้ บริษัทเพย์เน็ต (PayNet) ผู้ให้บริการระบบการชำระเงินในมาเลเซีย จะมอบเงินสนับสนุน 5 แสนริงกิต (3.86 ล้านบาท) เป็นเงินรางวัลแก่หน่วยงานของรัฐและตัวแทนที่ร่วมแคมเปญดังกล่าว ทั้งหมด 23 หน่วยงานของรัฐ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม อ้างอิงตามปริมาณการชำระเงินในปี 2566 เพื่อจูงใจให้แต่ละหน่วยงานรณรงค์ให้ประชาชนชำระเงินผ่านอี-เพย์เมนต์อีกด้วย

สำหรับแคมเปญ Cashless Day 2024 จะมุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือผู้ค้ารายย่อยและวิสาหกิจขนาดย่อม ขนาดเล็ก และขนาดกลาง (MSME) ในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งการใช้ระบบอี-เพย์เมนต์ จะช่วยเพิ่มการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลปีนัง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของรัฐปีนังอีกด้วย

นายเฉา ยังกล่าวอีกว่า ปีนังได้รับการยอมรับให้เป็นรัฐไร้เงินสดในปี 2567 โดยตั้งแต่เดือน ม.ค. ถึง พ.ค. 2567 หน่วยงานจัดเก็บรายได้ของรัฐปีนังทั้งหมด มีปริมาณธุรกรรมผ่านระบบอี-เพย์เมนต์ 5,490,371 รายการ คิดเป็น 95.31% ของธุรกรรมทั้งหมด โดยมีรายได้ 516,062,766.73 ริงกิต (ประมาณ 3,993 ล้านบาท) ตามข้อกำหนดของกระทรวงการคลังมาเลเซีย และบริษัทเพย์เน็ต กำหนดให้รัฐไร้เงินสดจะต้องมีปริมาณธุรกรรมผ่านระบบอี-เพย์เมนต์มากกว่า 95%

โดยรัฐบาลปีนังตั้งเป้าหมายที่จะให้มีปริมาณธุรกรรมของรัฐ ผ่านระบบอี-เพย์เมนต์ให้ได้ 97% ภายในปี 2573 ซึ่งได้ขอบคุณธนาคารกลางมาเลเซียและบริษัทเพย์เน็ตที่ร่วมมือกับรัฐบาลปีนัง สร้างความตระหนักรู้และช่วยเหลือในการนำระบบอี-เพย์เมนต์มาใช้ในการให้บริการสาธารณะแก่หน่วยงานของรัฐและหน่วยงานจัดเก็บรายได้ต่างๆ