การรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดจองตั๋วล่วงหน้าสูงสุด 180 วัน ขบวนรถ CNR เส้นทางยอดฮิต สำหรับปลายทางตั้งแต่ศิลาอาสน์ ลำปลายมาศ เมืองพล และสุราษฎร์ธานีขึ้นไป พร้อมใช้ระเบียบใหม่ ต้องระบุชื่อทุกที่นั่ง ซื้อแล้วเปลี่ยนชื่อหรือโอนให้ผู้อื่นเดินทางไม่ได้
วันนี้ (30 มิ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 1 ก.ค. 2567 การรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดจองตั๋วล่วงหน้าสูงสุด 180 วัน สำหรับขบวนรถชุด 115 (CNR) จำนวน 8 ขบวน ได้แก่ ขบวนรถด่วนพิเศษอุตราวิถี (ขบวน 9 กรุงเทพอภิวัฒน์-เชียงใหม่ ขบวน 10 เชียงใหม่-กรุงเทพอภิวัฒน์) ขบวนรถด่วนพิเศษอีสานวัฒนา (ขบวน 23 กรุงเทพอภิวัฒน์-อุบลราชธานี ขบวน 24 อุบลราชธานี-กรุงเทพอภิวัฒน์) ขบวนรถด่วนพิเศษอีสานมรรคา (ขบวน 25 กรุงเทพอภิวัฒน์-หนองคาย ขบวน 26 หนองคาย-กรุงเทพอภิวัฒน์) และขบวนรถด่วนพิเศษทักษิณารัถย์ (ขบวน 31 กรุงเทพอภิวัฒน์-ชุมทางหาดใหญ่ ขบวน 32 ชุมทางหาดใหญ่-กรุงเทพอภิวัฒน์) เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสจองซื้อตั๋วโดยสารล่วงหน้าได้ยาวนานขึ้น ในเส้นทางที่ได้รับความนิยมสูงสุด
ผู้โดยสารที่จองตั๋วเดินทาง ตั้งแต่ร้อยละ 60 ของระยะทางขบวนรถขึ้นไป จองตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 180 วัน ซึ่งกำหนดวันข้างต้นให้รวมถึงการเปลี่ยนแปลงการเดินทางด้วย โดยต้นทางจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ได้แก่ สายเหนือ ตั้งแต่สถานีศิลาอาสน์ จ.อุตรดิตถ์เป็นต้นไป สายตะวันออกเฉียงเหนือ เส้นอุบลราชธานี ตั้งแต่สถานีลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์เป็นต้นไป เส้นหนองคาย ตั้งแต่สถานีเมืองพลเป็นต้นไป และสายใต้ ตั้งแต่สถานีสุราษฎร์ธานีเป็นต้นไป โดยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 เปิดให้จองตั๋วล่วงหน้าตั้งแต่เวลา 08.30 น.เป็นต้นไป ผ่านสถานีรถไฟทั่วประเทศ Call Center 1690 เว็บไซต์และแอปพลิเคชัน D-Ticket ตามวันที่กำหนด ได้แก่
วันที่ 1 ก.ค. 2567 สำหรับวันเดินทาง 25-28 ธ.ค. 2567
วันที่ 2 ก.ค. 2567 สำหรับวันเดินทาง 29 ธ.ค. 2567
วันที่ 3 ก.ค. 2567 สำหรับวันเดินทาง 30 ธ.ค. 2567
วันที่ 4 ก.ค. 2567 สำหรับวันเดินทาง 31 ธ.ค. 2567
วันที่ 5 ก.ค. 2567 สำหรับวันเดินทาง 1 ม.ค. 2568
วันที่ 6 ก.ค. 2567 สำหรับวันเดินทาง 2 ม.ค. 2568
วันที่ 7 ก.ค. 2567 สำหรับวันเดินทาง 3 ม.ค. 2568
วันที่ 8 ก.ค. 2567 สำหรับวันเดินทาง 4 ม.ค. 2568
วันที่ 9 ก.ค. 2567 สำหรับวันเดินทาง 5 ม.ค. 2568
ส่วนผู้โดยสารที่จองตั๋วเดินทาง ตั้งแต่ร้อยละ 25-59 ของระยะทางขบวนรถ จองตั๋วล่วงหน้าได้ภายใน 30 วัน โดยต้นทางจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ได้แก่ สายเหนือ เลยสถานีลพบุรีไปแล้ว ถึงสถานีพิษณุโลก สายตะวันออกเฉียงเหนือ เส้นอุบลราชธานี เลยสถานีสระบุรีไปแล้วถึงสถานีนครราชสีมา เส้นหนองคาย เลยสถานีชุมทางแก่งคอยไปแล้ว ถึงสถานีนครราชสีมา และสายใต้ เลยสถานีหัวหินไปแล้วถึงสถานีชุมพร และผู้โดยสารที่จองตั๋วเดินทางน้อยกว่าร้อยละ 25 ของระยะทางขบวนรถ จองตั๋วล่วงหน้าได้ 1 วัน โดยต้นทางจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ได้แก่ สายเหนือ ถึงสถานีลพบุรี สายตะวันออกเฉียงเหนือ เส้นอุบลราชธานีถึงสถานีสระบุรี เส้นหนองคายถึงสถานีชุมทางแก่งคอย และสายใต้ถึงสถานีหัวหิน
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2567 เป็นต้นไป การรถไฟฯ ได้ออกมาตรการให้ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วรถไฟกับขบวนรถประเภทสำรองที่นั่ง (Reserved Seat) ต้องบันทึกรายละเอียด ชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตรประชาชน หรือหนังสือเดินทางของผู้โดยสารทุกคน เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบสิทธิประโยชน์คุ้มครองการเดินทาง ตามนโยบาย One ID One Ticket ยกเว้นตั๋วโดยสารชั้น 3 นั่งธรรมดา ขบวนรถบริการเชิงสังคม ที่ซื้อในวันเดินทางน้อยกว่า 2 ชั่วโมงก่อนขบวนรถออก
โดยสถานีรถไฟแต่ละแห่งประชาสัมพันธ์ว่า ตั๋วโดยสารรถไฟที่มีการบันทึกข้อมูลชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทางของผู้โดยสาร ลงในตั๋วโดยสารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่อนุญาตให้เปลี่ยนแปลงข้อมูล ชื่อ นามสกุล และรายละเอียดของผู้เดินทางได้ หรือโอนสิทธิการใช้ตั๋วโดยสารให้บุคคลอื่นใช้แทน หากต้องการเปลี่ยนผู้เดินทาง ให้ทำการคืนตั๋วโดยสารฉบับเดิม โดยหักค่าธรรมเนียมการคืนเงินตามหลักเกณฑ์ที่การรถไฟฯ กำหนด และให้ออกตั๋วโดยสารฉบับใหม่
ทั้งนี้ ก่อนออกจากช่องจำหน่ายตั๋ว ผู้โดยสารโปรดตรวจสอบข้อมูลผู้เดินทาง หากตรวจพบว่าในตั๋วโดยสาร ข้อมูลผู้เดินทางไม่ตรงกับผู้เดินทาง (เช่น สะกดชื่อ นามสกุลผิด หรือตกหล่น) ให้แจ้งเจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋วที่ออกตั๋ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่แก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง ก่อนออกจากช่องจำหน่ายตั๋ว หากผู้โดยสารพ้นจากช่องจำหน่ายตั๋วแล้ว ภายหลังจะกลับมาร้องหรือทวงถามว่ามีข้อผิดพลาดไม่ได้
