"หมอเหรียญทอง" ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ แจงเพิ่มเติม ผู้ประกันตนหัวหมอรักษาที่อื่นแบบ "ไม่ฉุกเฉิน" แต่ทำทีหาเรื่องร้องเรียน ประกันสังคมจ่ายให้แล้ว 9 หมื่นไม่พอ ต้องการส่วนเกินอีก 8 หมื่น ไปร้องคณะกรรมการอุทธรณ์ฯ ฟังความข้างเดียวโดยไม่สอบสวนข้อเท็จจริงจากโรงพยาบาล ก่อนเคาะให้จ่ายอีก 8 หมื่น ลั่นยอมเสียรายได้ปีละ 350 ล้าน แต่ไม่ยอมรับคำสั่งแบบผิดๆ
วันนี้ (27 มิ.ย.) จากกรณีที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ประกาศเตรียมถอนตัวออกจากการเป็นโรงพยาบาลคู่สัญญากับสำนักงานประกันสังคม ในช่วงกลางปี 2568 และให้ผู้ประกันตนกว่า 100,000 คนเตรียมตัวย้ายสิทธิไปยังโรงพยาบาลอื่นล่วงหน้า เนื่องจากไม่เห็นด้วยที่คณะกรรมการอุทธรณ์ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ. 2533 มีคําสั่งให้ รพ.มงกุฎวัฒนะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลของผู้ประกันตนรายหนึ่ง จํานวน 80,295.20 บาท ทั้งที่ผู้ประกันตนตั้งใจไปรับการรักษากับโรงพยาบาลนอกสิทธิเอง แต่กลับร้องเรียนให้ รพ.มงกุฎวัฒนะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล ซึ่งเป็นการใช้สิทธิของผู้ประกันตนโดยไม่ถูกต้อง ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านประกอบ : รพ.มงกุฎวัฒนะถอนประกันสังคม เหตุผู้ประกันตนหัวหมอ รักษาที่อื่นแต่ให้รับผิดชอบกว่า 8 หมื่น
เฟซบุ๊ก "เหรียญทอง แน่นหนา" ของ พล.ต.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความชี้แจงเพิ่มเติม สาระสำคัญระบุว่า ปัญหาที่ทำให้ผู้ประกันตนกว่า 100,000 คนเดือดร้อนไม่ได้เกิดขึ้นจากตน แต่เกิดจากผู้ประกันตนรายหนึ่ง ที่ต้องการรักษากับโรงพยาบาลอื่นนอกสิทธิที่ตนขึ้นทะเบียน แล้วผู้ประกันตนนำค่ารักษาพยาบาลที่ตนเองจ่ายไปนั้น มาร้องเรียนให้สำนักงานประกันสังคมพื้นที่ 9 จ่ายให้ เมื่อจ่ายเงินให้ตามระบบการจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามค่าน้ำหนักสัมพัทธ์ (Adjust Related Weight) ซึ่งเป็นระบบการจ่ายค่ารักษาพยาบาลของประกันสังคมแล้ว ผู้ประกันตนรายนี้ได้รับเงิน 90,000 บาทเศษ แต่ยังไม่พอใจ ต้องการส่วนที่เกินจากสิทธิอีก 80,000 บาทเศษอีก ดังนั้นสำนักงานประกันสังคมพื้นที่ 9 จึงเสนอเรื่องร้องเรียนไปยังคณะกรรมการอุทธรณ์ ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม
คณะกรรมการอุทธรณ์ฯ พิจารณาตามข้อมูลฝ่ายเดียวจากผู้ประกันตนโดยไม่สอบสวนข้อเท็จจริงจาก รพ.มงกุฎวัฒนะแล้วสรุปว่า รพ.มงกุฎวัฒนะไม่ได้ให้การรักษาที่เป็นไปตามมาตรฐาน ไม่เป็นไปตามสัญญาที่ทำกับสำนักงานประกันสังคม และสาเหตุอีกสารพัดที่คณะกรรมการอุทธรณ์ฯ ใช้ดุลพินิจไม่เป็นธรรม ฟังความข้างเดียว ไม่สอบสวนตรวจสอบจาก รพ.มงกุฎวัฒนะอย่างเป็นธรรม แล้วคณะกรรมการอุทธรณ์ฯ ก็มีคำสั่งให้สำนักงานประกันสังคมพื้นที่ 9 สั่งให้ รพ.มงกุฎวัฒนะจ่ายเงินส่วนเกินจากสิทธิผู้ประกันตนอีก 80,000 บาทเศษ เป็นบรรทัดฐานที่ผิดๆ ที่ใช้บังคับ รพ.มงกุฎวัฒนะ
"หาก รพ.มงกุฎวัฒนะยอมให้เป็นเช่นนี้ต่อไป บรรทัดฐานผิดๆ จากการใช้อำนาจคณะกรรมการอุทธรณ์ฯ จะส่งผลเสียต่อระบบการบริการทางการแพทย์ โดยโรงพยาบาลคู่สัญญาประกันสังคมจำนวนมาก จะประสบปัญหาผู้ประกันตนเจ้าเล่ห์ ไปใช้โรงพยาบาลอื่นนอกสิทธิ แล้วนำเงินค่ารักษามาเบิกกับสำนักงานประกันสังคม ซึ่งกรณีเช่นนี้เป็นกรณีที่สำนักงานประกันสังคมไม่สามารถจ่ายเงินให้ผู้ประกันตนเจ้าเล่ห์เสียด้วยซ้ำ แต่สำนักงานประกันสังคมพื้นที่ 9 ก็ยังดันทุรังจ่าย การจ่ายเงินโดยสำนักงานประกันสังคม 90,000 บาทเศษนั้น เป็นการจ่ายเงินจากกองทุนประกันสังคมที่ไม่ชอบ ยิ่งสั่งให้ รพ.มงกุฎวัฒนะจ่ายเงินส่วนเกินจากสิทธิอีก 80,000 บาทเศษอีกยิ่งเป็นการมีคำสั่งที่ไม่ชอบขึ้นไปอีก ดังนั้นปัญหาคนเดือดร้อนเป็นแสนคนจึงไม่ได้เกิดขึ้นจากผม แต่เกิดจากผู้ประกันตนเจ้าเล่ห์ และคณะกรรมการอุทธรณ์ฯ ต่างหาก" พล.ต.เหรียญทองระบุ
พล.ต.เหรียญทองกล่าวว่า คำตอบการแก้ปัญหาคนเดือดร้อนนับแสนคน ต้องแก้ที่ผู้ประกันตน กับคณะกรรมการอุทธรณ์ฯ จึงจะแก้ที่เหตุ โดยเรียกร้องให้แก้ปัญหาอย่างถูกจุดด้วย ทั้งนี้ ตนยอมสูญเสียรายได้จากการถอนตัวออกจากระบบประกันสังคมปีละมากกว่า 350 ล้านบาท แต่ไม่ยอมเสียเงินแค่ 80,000 บาทเศษกับคำสั่งของคณะกรรมการอุทธรณ์ฯ ที่ผิด เพื่อไม่ให้เกิดบรรทัดฐานที่ไม่ถูกต้องแก่ระบบประกันสังคม
อีกโพสต์หนึ่ง พล.ต.เหรียญทองกล่าวว่า จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการอุทธรณ์ฯ ที่สั่งให้ รพ.มงกุฎวัฒนะจ่ายเงิน 80,925.20 บาท ให้แก่ผู้ประกันตนคนดังกล่าวอย่างเด็ดขาด เพราะเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ผิด ทำลายระบบการบริการแพทย์ของประกันสังคมที่ทำให้โรงพยาบาลในระบบประกันสังคมจะต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินจากสิทธิของผู้ประกันตน ทั้งที่ผู้ประกันตนไปรักษาโรงพยาบาลนอกสิทธิซึ่งจะต้องจ่ายเงินเอง แต่กลับมาร้องเรียนด้วยเหตุผลสารพัดเพื่อให้สำนักงานประกันสังคมจ่ายเงินตามระบบการจ่ายเงินตามค่าน้ำหนักสัมพัทธ์ จากนั้นก็อุทธรณ์เพื่อให้คณะกรรมการอุทธรณ์ฟังความฝ่ายเดียวแล้วมีคำสั่งให้โรงพยาบาลคู่สัญญาจ่ายส่วนเกินจากที่ประกันสังคมได้จ่ายเงินตามระบบไปแล้ว ทำให้ผู้ประกันตนได้เงินค่ารักษาพยาบาลที่ไปรักษากับโรงพยาบาลอื่นนอกสิทธิเต็มจำนวน
"ด้วยแนวทางเจ้าเล่ห์นี้ได้เกิดขึ้นกับโรงพยาบาลคู่สัญญาสำนักงานประกันสังคมมาหลายต่อหลายแห่งแล้ว แต่ไม่เคยเกิดกับ รพ.มงกุฎวัฒนะ นี่คือครั้งแรกของ รพ.มงกุฎวัฒนะ และจะเป็นครั้งแรกของคณะกรรมการอุทธรณ์ฯ ที่จะได้รู้ว่า รพ.มงกุฎวัฒนะไม่ใช่ รพ.ที่นึกจะใช้อำนาจซี้ซั้วสั่งได้ เพราะ รพ.มงกุฎวัฒนะมี ผอ.รพ.ที่กล้าได้กล้าเสีย ไม่ก้มหัวให้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ... ผมจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนทุกสำนักในทันทีที่คณะกรรมการอุทธรณ์ฯ โกหกต่อสาธารณะ" พล.ต.เหรียญทองกล่าว
ก่อนหน้านี้มีชาวเน็ตรายหนึ่งสอบถาม พล.ต.เหรียญทอง ว่าผู้ประกันตนคนนี้เลือกที่จะไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่นเอง แล้วเป็นกรณีฉุกเฉินหรือไม่ เพราะตามจริงโรงพยาบาลที่เลือกใช้ควรส่งหนังสือมาก่อนให้ทางนี้ได้รับทราบ ส่วนผู้ประกันตนคนนี้ก็รู้ว่าต้องเสียเงิน เเต่เลือกจะไปใช้บริการโรงพยาบาลอื่นก็ต้องจ่ายเงินเอง พล.ต.เหรียญทองตอบกลับว่า ไม่ใช่กรณีฉุกเฉิน เป็นกรณีที่ผู้ประกันตนตั้งใจและต้องการไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่นเอง ดังนั้นต้องเสียเงินเอง แต่เสียเงินแล้วก็หาเหตุไปร้องเรียนประกันสังคมเอง เพื่อให้ประกันสังคมจ่าย ซึ่งจริงๆ แล้วประกันสังคมก็ไม่ต้องจ่าย แต่ประกันสังคมก็ยังเอาใจช่วยจ่ายให้ 9 หมื่นบาทเศษ แต่ผู้ประกันตนได้คืบไม่พอจะเอาศอกด้วย จะเอาอีก 8 หมื่นบาทเศษ ก็ร้องเรียนต่อ คณะกรรมการอุทธรณ์ฯ ก็ไม่รู้เรื่องฟังความข้างเดียว สั่งให้ รพ.มงกุฎวัฒนะ ซึ่งไม่รู้อีโหน่อีเหน่รับผิดชอบที่เหลืออีก 8 หมื่นบาทเศษดังกล่าว