xs
xsm
sm
md
lg

ลูกศิษย์อดีตพระโอพร้อมทนาย โต้ผู้เสียหายลัทธิถวายตัว พูดไม่ตรงความจริง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ลูกศิษย์อดีตพระโอ” ยืนยันไม่เคยเห็น “ลัทธิถวายตัว”พร้อมแฉไทม์ไลน์คู่กรณียักยอกทรัพย์ เจรจรกันไม่ลง จนเกิดเรื่อง “ทนายความ” เตรียมพาอดีตพระโอ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาพิสูจน์ความจริง
วันที่ 15 มิ.ย.67 เวลา 15.00 น. ที่ร้านแกะดำ ถนนพุทธมณฑลสาย 1 แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร นายเนติ บุญพุทธรักษา ทนายความ พร้อม นายกิตภัท พุทโธรักษาชาติ ลูกศิษย์ ร่วมกันชี้แจงกรณีข่าวสาวร้องถูกพระลวงสวิงกิ้ง
กรณีสามีภรรยาคู่หนึ่งไปร้องเพจสายไหมต้องรอด ถูกพระในที่พักสงฆ์แห่งหนึ่ง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ล่อลวงให้มีเพศสัมพันธ์ โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการต่อชะตา อีกทั้งยังหลอกให้มีเซ็กซ์หมู่กับลูกศิษย์คนอื่นอีกด้วย

นายกิตภัท พุทโธรักษาชาติ ลูกศิษย์อดีตพระ และ นายเนติ บุญพุทธารักษา ทนายความ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น รวมไปถึงไทม์ไลน์ของสามีภรรยาผู้ร้อง ในการที่เข้ามาอยู่ในที่พักสงฆ์ และมาดูแลด้านการจำหน่ายวัตถุมงคลของวัด มาทำธุรกิจมีผลประโยชน์ร่วมกับทางที่พักสงฆ์ นำไปสู่การถูกฟ้องร้องคดียักยอกทรัพย์ ซึ่งมีการฟ้องร้องทั้งทางอาญาและทางแพ่ง 2 คดี มูลค่าเสียหายกว่า 13 ล้านบาท

โดยปี 2553 แรกเริ่มหญิงผู้ร้องแฟนนาย ป.ซึ่งเป็นพนักงานในวัดที่ดูแลร้านจำหน่ายวัตถุมงคล หญิงผู้ร้องเลยเข้ามาช่วย นาย ป.จนมีความสนิทสนม ความไว้วางใจ เหมือนเป็นลูกบุญธรรมของพระ

ต่อมาปี 2554 หญิงผู้ร้องก็เลิกลากับนาย ป.แล้วเข้ามาดูแล กิจการจำหน่ายวัตถุมงคลของที่พักสงฆ์ แทนนาย ป. กลายเป็นผู้มีบทบาทสำคัญของสำนักสงฆ์ในการตัดสินใจเรื่องสำคัญ

ในปีเดียวกันสามีของหญิงผู้ร้องก็เข้ามาในที่พักสงฆ์ ซึ่งขณะนั้นยังเป็นนักศึกษาเรียนมหาวิทยาลัย แล้วต่อมาก็ได้พาเพื่อนชายอีกคนให้เข้ามาในที่พักสงฆ์ด้วย

ปี 2555 หญิงผู้ร้อง สามี และเพื่อนของสามีก็สนิทสนมกันมากร่วมกันดูแลเรื่องการบริหารจัดการธุรกิจจำหน่ายวัตถุมงคลของที่พักสงฆ์

ซึ่งหญิงผู้ร้องได้รับความไว้วางใจจากทางอดีตพระ สามารถใช้โทรศัพท์มือถือของอดีตพระได้ เป็นตัวแทนของอดีตพระในการประสานงานติดต่อทุกอย่าง มีการโอนเงินซื้อขายวัตถุมงคลเข้าบัญชีของหญิงผู้ร้อง

จากนั้นหญิงผู้ร้อง สามี และเพื่อนสามี ก็เริ่มมีปัญหากับลูกศิษย์และคนที่อยู่ในที่พักสงฆ์ ซึ่งได้มีการเบิกเอาวัตถุมงคลออกไปจำหน่ายแล้วไม่นำเงินให้กับที่พักสงฆ์ อีกทั้งยังได้นำของบรรพบุรุษ และครูบาอาจารย์ ของอดีตพระไปแล้วไม่นำมาคืน

ปี 2565 หญิงผู้ร้องออกไปจากที่พักสงฆ์ แต่ยังเบิกวัตถุมงคล ไปแต่ไม่ได้นำมาคืน

ปี 2566 ฝ่ายหญิงผู้ร้อง ฟ้องร้องละเมิดลิขสิทธิ์

ปี 2567 อดีตพระตัดสินใจฟ้องหญิงผู้ร้องข้อหายักยอกทรัพย์ทั้งทางอาญาและทางแพ่ง 2 คดี รวมเป็นเงินกว่า 13 ล้านบาท แบ่งเป็นคดียักยอก 4,900,000 บาทและฟ้องผิดสัญญาซื้อขายและเรียกร้องค่าเสียหายกว่า 9 ล้านบาท

10 มิถุนายน 2567 ศาลคดีแพ่ง
นัดพร้อม และนัดไกล่เกลี่ย แต่ตกลงกันไม่ได้

วันที่ 11 มิถุนายน 2567 หญิงผู้ร้องไปร้องเพจสายไหมต้องรอด ซึ่งดูเป็นเหตุการณ์ประจวบเหมาะเกินไปไหม หลังถูกร้องเรื่องยักยอก ในวันที่ 10 มิ.ย.แล้วในวันที่ 11 มิ.ย.ก็มาร้องผิดที่สายไหมต้องรอด และวันที่ 20 มิถุนายนนี้ ศาลนัดสืบพยานคดียักยอกทรัพย์
นายกิตภัท เปิดเผยว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ตามข่าว อดีตพระจึงลาสิกขาเพื่อมาต่อสู้คดีในชั้นศาล ส่วนการหลอกลวงสวิงกิ้งตามที่ปรากฎในข่าวนั้น เป็นข้อมูลที่จะไปปรากฏในชั้นศาล และจากนี้ไปหากมีการพูดให้เกิดความเสื่อมเสียจะพิจารณาดำเนินคดีตามข้อเท็จจริงต่อไป

นายกิตภัท ยืนยันว่า อดีตพระป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองตั้งแต่ปี 2540 ระหว่างที่อยู่ในที่พักสงฆ์แห่งนี้ อดีตพระไม่เคยมีการสอนในลักษณะอุตริธรรม และตนเองก็ไม่ทราบว่ามีพิธีถวายตัวตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้าง

ทั้งนี้ อยากฝากบอกคู่กรณีว่าในฐานะที่ตนเองนับถือเหมือนพี่สาสจนถึงขณะนี้ก็ยังให้ความเคารพนับถือเหมือนเดิม แต่จะทำอะไรขอให้คิดให้ดีก่อนนึกถึงวันเวลาที่เคยลำบากมาด้วยกัน กว่าที่จะมีวันนี้ได้

ด้านทนายความ ระบุว่า ส่วนในคดีที่ทางฝั่งหญิงสาวมีการแจ้งข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนนครบาลคันนายนสถานีตำรวจครบาลคันนายาว ในข้อหาข่มขืน ตนเองก็จะพาลูกความเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาเพื่อพิสูจน์ความจริงและต่อสู้คดี


กำลังโหลดความคิดเห็น