“โจ๊ก” ปล่อยเพลงอวยตัวเอง เนื้อหาสุดย้อนแย้ง เปรียบเป็นลูกหลาน “ขุนพันธุ์” ตำนานตำรวจตงฉิน แต่ตัวเองกลับโยงส่วยสารพัด ยังดีที่ ป.ป.ช.ช่วยไว้ ยกหางตัวเองเป็นตำรวจน้ำดีไม่สนใจดาวบนบ่า แต่กลับพยายามทำทุกทางเพื่อให้ได้กลับ สตช. แนะถ้าจะแต่งเพลงให้เข้ากับพฤติกรรม ควรเป็นตำรวจโกหกตอแหล ตำรวจสร้างภาพ มากกว่า
ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก”เมื่อวันศุกร์ที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการได้กล่าวถึงกรณีที่ขณะนี้ตำรวจในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำลังได้รับคลิปมิวสิกวีดิโอเพลง ชื่อ“เขานี่แหละบิ๊กโจ๊ก” ส่งต่อ ๆ กันทางกลุ่มในแอปพลิเคชัน LINE และมีเผยแพร่ตามโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ซึ่งมีคนดูไม่กี่พันคน
คลิปเพลงลูกทุ่งเพลงนี้ ปรากฏชื่อนักร้อง คือ “นพนภา ศรีจุฬาภรณ์” คำร้อง-ทำนองโดย “บิ๊กป๊อด ปัง ปัง!!” ซึ่งยังไม่รู้ว่าเป็นชื่อจริง นามปากกา หรือชื่อที่อุปโลกน์ขึ้นมา ความยาวราวๆ เกือบ 3 นาที นักร้องอ้าปากพะงาบๆ ไม่เนียน ดูออกว่าเป็นอวตาร AI
“ผมขอฝากไปที่คนที่ทำมิวสิกวีดิโอชิ้นนี้ขึ้นมาหน่อยว่า จะรับงานใครต้องดูตาม้าตาเรือด้วย เพราะสิ่งที่อวยโจ๊กไป ถ้ามันไม่ตรงกับความจริง หรือตรงข้ามกับความจริงเนี่ย มันจะกลายเป็นการ นำเข้า-เผยแพร่-ส่งต่อ "ข้อมูลอันเป็นเท็จ" อาจจะเข้าข่าย ผิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ได้นะครับ” นายสนธิ กล่าว
สำหรับเนื้อเพลง หลายคนได้ฟังแล้วก็ต้องขำจนเกือบตกเก้าอี้
เฮ่ย! เขานี่แหละบิ๊กโจ๊ก
เขาไม่วิตกอีกแล้ว
เขาไม่ใช่ลูกแมว
ให้ใครขย้ำคามือ
ชาติเสือก็ต้องไว้ลาย
ชาติชายก็ต้องไว้ชื่อ
หักพาลให้โลกระบือ
ลูกหลานขุนพันธ์ตัวจริง
“ขุนพันธ์” หรือ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นตำรวจน้ำดี ที่ปราบปรามโจรผู้ร้ายโดยไม่เกรงกลัว เทียบกับ โจ๊ก สุรเชษฐ์ ที่อ้างเป็นลูกหลาน คนเขาก็รับไม่ได้ มีคนเข้าไปคอมเมนต์ในยูทูปบอกว่า “ไม่ได้เสี้ยวของขุนพันธุ์เลยครับ ขุนพันธ์ตำรวจน้ำดีไม่โกงไม่รับส่วยคือท่านขุนพันธ์”
ซึ่งคนที่แสดงความเห็นนี้เขาก็กล้าหาญ และพูดถูกต้อง เพราะ “โจ๊ก สุรเชษฐ์” นั้นรับส่วยมาตลอดหลายปีในชีวิตราชการ เป็นเรื่องเป็นราวถึง ป.ป.ช. ก็ไปวิ่งให้ ป.ป.ช. ช่วยเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง
-ส่วยคาราโอเกะในภาคอีสาน
-ส่วยทุนจีนสีเทา
-ส่วยวิ่งเต้นขึ้นตำแหน่งใน สตช.
-ส่วยเรื่อง Visa On Arrival ที่ไปสมคบกับม่ายสาว ชื่อ “ก้อย” รัตนา บุรพรัตน์ ให้ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ให้สัมปทานบริษัทเอกชนออก Visa On Arrival ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยไม่ผ่านขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง
-ส่วยเรื่องเว็บพนันออนไลน์เป็นร้อย ๆ เว็บ ผ่านตัวกลางอย่างเจ้าแม่เว็บพนัน อายุน้อยร้อยเว็บ “มินนี่” ธันยนันท์ สุจริตชินศรี และเว็บอื่น ๆ อีก
เนื้อเพลงท่อนต่อมา บอกว่า
เฮ่ย! เขานี่แหละบิ๊กโจ๊ก
เขาไม่วิตกใต้เหนือ
เขานี่แหละลูกเสือ
ไม่ใช่ลูกหมู ลูกลิง
เข้มข้นแบบคนสงขลา
แกร่งกล้าแต่ไม่เย่อหยิ่ง
เรียกใช้กันได้จริงๆ
ไม่ทิ้งทุกชาวประชา
ไม่ทิ้งชาวประชายังไง ฉากหน้าก็ทำตัวเป็นนักบุญทำที ไปช่วยเหลือชาวบ้าน แต่เบื้องหลังนั้นกลับมีการสมคบกับแก๊งอาชญากรรมต่าง ๆ กระทำกดขี่ข่มเหงประชาชน ข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อยไม่ว่าจะเป็น
-ทุนจีนสีเทา อย่าง “ตู้ห่าว” คุณอย่าบอกนะว่าคุณไม่รู้จัก, นอกจากนี้ยังมี “จีจี้ กั๊ว” ที่ไปเรียกรับเงินจากแก๊งอุ้มบุญจีนเทา 33 ล้านบาทอีก คุณก็ออกมายอมรับเองว่าคุณรู้จักมาหลายปีแล้ว
-ยังมีครอบครัวโรจน์รุ่งรังสีหรือ เจ้าของธุรกิจโอเอ ทรานสปอร์ต ที่เมื่อหลายปีก่อนเขาทำธุรกิจรถทัวร์รับท่องเที่ยว ธุรกิจกำลังรุ่ง คุณก็ไปยัดข้อหา “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” ให้บริษัทเขา - คนในครอบครัวเขา จับพ่อ จับแม่ จับพี่สาว จับน้องชาย เขาเกือบหมดทั้งตระกูลเข้าคุก ยึดทรัพย์ ยึดรถของเขาทิ้งร้างเอาไว้ คัดค้านการประกันตัว ปล่อยให้พวกเขาต้องไปทนทุกข์ทรมาน ดิ้นรนเอาชีวิตรอด
โดยจุดประสงค์ที่คุณทำก็เพื่อกำจัดคู่แข่ง กำจัดโอเอ ให้ “แก๊งตู้ห่าว” สามารถเข้ามาสวมรอยทำธุรกิจแทนแบบสะดวก
แต่สุดท้ายความจริงก็ปรากฎเมื่อศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกายกฟ้องโอเอหมดเลยว่า ไม่ได้ทำทัวร์ศูนย์เหรียญ ... นี่คุณ ไม่ใช่ไม่ทิ้งชาวประชานะ คุณกระทืบเขาเลย แล้วเมื่อศาลตัดสินว่าเขาไม่ผิด แล้ว “โจ๊ก สุรเชษฐ์” คุณรับผิดชอบอะไรเขาบ้างได้ไหม ธุรกิจเขาเสียหายเป็นพัน ๆ ล้านบาท?
ไม่นับรวมกับ ประชาชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกจำนวนมากที่โดน “โจ๊ก สุรเชษฐ์” กดขี่ ข่มเหง โดนย้ายกระเด็นกระดอน บ้านแตกสาแหรกขาด บางคนโดนใช้งานหนักจนหัวใจวายเสียชีวิต บางคนเจ็บช้ำน้ำใจต้องลาออกจากชีวิตราชการไปประกอบอาชีพอื่นแทน
มาดู “เนื้อเพลง” ในท่อนถัดไป
เป็นตำรวจน้ำดี
ก็แพ้ตำรวจน้ำลาย
เป็นตำรวจขวัญใจ
ก็พ่ายตำรวจอิจฉา
ค่าคนคือผลของงาน
มิใช่ดาวที่เต็มบ่า
สำนึกเพียงแต่คำว่า
ที่พึ่งของประชาชน
เอาอะไรมาพูดว่าเป็น “ตำรวจน้ำดี” แล้วถ้าไม่สนใจ “ดาวบนบ่า” แล้วจะดิ้นรนกลับ สตช. เพื่ออะไร ถ้าไม่ใช่เพื่อหวังตำแหน่ง ผบ.ตร. หวังในตำแหน่ง ลาภ ยศ สรรเสริญ?
“แล้วไม่เขียนไปในเพลงล่ะว่าที่ผ่านมาคุณเหยียบหัว เจ้านายเก่า, พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม เหยียบหัวรุ่นพี่, เหยียบหัวเพื่อนรุ่นเดียวกัน, กระทืบรุ่นน้อง มากี่คนต่อกี่คนแล้ว ?
“เรียกได้ว่า วลีที่ในหมู่ตำรวจ ทหาร เขาสั่งสอน ว่าห้ามทำกันคือ “ฆ่าน้อง ฟ้องนาย ขายเพื่อน” นั้นคุณทำสวนกับที่เขาสั่งสอนเอาไว้หมดเลย”
มาถึงท่อนสุดท้าย บอกว่า
เฮ่ย! เขานี่แหละบิ๊กโจ๊ก
เขาไม่วิตกหวั่นไหว
เขาไม่สนหน้าไหน
ทางใคร ทางหมา ทางคน
เชื่อพระสยามเทวา
เชื่อดวงชะตาของตน
ถ้าดวงไม่ดับอับจน
ต้องวนกลับ สตช.
ถ้าเชื่อแต่พระสยามเทวาธิราช และโชคชะตาตัวเอง “โจ๊ก สุรเชษฐ์” คงไม่เปรียบเทียบตัวเองกับพระพรหม, บวชแล้วบวชอีกเป็นชายสามโบสถ์, นอกจากนี้คงไม่ตระเวนไปมูเตลู ทำบุญสะเดาะเคราะห์ ทำพิธีไสยศาสตร์ ที่โน่นที่นี่ทั่วไปหมด ไม่ได้เพิ่งทำ แต่ทำเป็นปี ๆ แล้ว พระที่บ้านก็ตั้งหันข้าง ไม่ให้เห็นเงิน กับ ทรัพย์สินสกปรกที่ตัวเองได้มาจากการรีดไถ จากส่วยต่าง ๆ
“ถ้าให้ผมแนะนำ มีหลายเพลงเหมือนกันที่ควรจะแต่งออกมาบ้าง จากพฤติกรรมคร่าว ๆ ของ “โจ๊ก สุรเชษฐ์” ที่ผมยกตัวอย่างมาทั้งหมดข้างต้น เช่น ตำรวจโกหกตอแหล ตำรวจสร้างภาพ ตำรวจฟอกเงิน ตำรวจเก็บส่วย ตำรวจกังฉิน ตำรวจสามกีบ เป็นต้น
“ทำไมผมต้องพูดว่าตำรวจสามกีบ ? ท่านผู้ชมที่ยังไม่รู้เรื่อง ให้รู้ด้วยนะครับ ว่า "โจ๊ก" สุรเชษฐ์ หักพาล คือพวกสามกีบ สามนิ้ว เป็นเพื่อนรักสนิทสนมกับ รังสิมันต์ โรม ทำกิจกรรมร่วมกัน ส่งเรื่องส่งราวกัน ผลัดกันตี ผลัดกันส่งข้อมูล” นายสนธิกล่าว