xs
xsm
sm
md
lg

แบงค์ ศุภณัฐฯ ชี้ยุคชัชชาติ จัดซื้อเครื่องออกกำลังกายแพงกว่ายุคอัศวิน ลู่วิ่งตัวละ 7.5 แสน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล ชี้โครงการซื้อเครื่องออกกำลังกายของ กทม.ช่วงปี 2562-2567 มีไม่น้อยกว่า 110 ล้าน อัศวิน 25 ล้าน นอกนั้นชัชชาติ 87 ล้าน พบลู่วิ่งจาก 2 แสนเป็น 3 แสน แต่ชัชชาติปรับขึ้นเป็นกว่า 5 แสน กระทั่งปีที่แล้วกระโดดไปเป็น 7.5 แสน และช่วงหลังๆ คนเสนอราคาแข่งกัน "หน้าเดิม" 3 บริษัท

วันนี้ (5 มิ.ย.) จากกรณีที่เฟซบุ๊กเพจ "ชมรมSTRONGต้านทุจริตประเทศไทย" โพสต์ข้อความระบุว่า กรุงเทพมหานคร (กทม.) จัดซื้อเครื่องออกกำลังกายแพงกว่าราคาตลาด สูงเกือบ 10 เท่า ลู่วิ่งไฟฟ้า ตัวละ 759,000 บาท และจักรยานตัวละ 484,000 บาท นั้น

ล่าสุดเฟซบุ๊ก "ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ - Suphanat Minchaiynunt" ของนายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความระบุว่า "จริงๆ เรื่องนี้ผมตามส่องมาตั้งแต่เมื่อต้นปี โดยได้ส่งหนังสือลงวันที่ 19 ม.ค. 67 ให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) ชี้แจงแล้ว 1 โครงการ (โครงการปี 65 สมัยผู้ว่าฯ อัศวิน ขวัญเมือง) ซึ่งพบว่ารายการที่ กทม.ซื้อนั้นแพงกว่าราคาตลาด (ยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน สเปกเดียวกัน) โดยเฉลี่ยถึง 4 เท่า เลยขุดเพิ่มอีกหลายโครงการ

และล่าสุดวันที่ 3 พ.ค. 67 ผมให้ทาง กมธ.ติดตามงบประมาณ ส่งหนังสือตรงไปยังผู้ว่าฯ กทม.เพื่อให้ชี้แจงโครงการซื้อครุภัณฑ์ 10 โครงการ ช่วงปี 65-67 โดยเป็นโครงการซื้อเครื่องออกกำลังกายรวม 9 โครงการ รวมมูลค่า 74 ล้านบาท เพราะต้องสงสัยว่าอาจมีการทุจริต เนื่องจากราคากลางที่ กทม.ใช้นั้นมีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องจนน่ากลัว (แพงกว่ายุคแรกๆ 3 เท่า จาก 254,000 บาท เป็น 759,000 บาท) ทำให้ราคาของที่ กทม.จัดซื้อสูงกว่าราคาตลาด 5-10 เท่า โดยปัจจุบันทาง กทม.ยังไม่มีการส่งหนังสือชี้แจงกลับมายัง กมธ.ครับ

เพิ่มเติมคือ โครงการซื้อเครื่องออกกำลังกายช่วงปี 2562-2567 มีไม่น้อยกว่า 110 ล้านบาท เป็นของสมัยผู้ว่าฯ อัศวินอย่างน้อยๆ 25 ล้านบาท ส่วนผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อีก 87 ล้านบาท

โดยสมัยผู้ว่าฯ อัศวิน (2559-2565) ผมจะมีข้อมูลเฉพาะตั้งแต่ปี 2562-2565 โดยมีการจัดซื้อราคาลู่วิ่งด้วยราคาตัวละ 254,000 บาท (ปี 62) แล้วมีการปรับราคากลางขึ้นมาเป็น 500,000 บาท (ปี 63) มีการปรับลงมาตัวละ 334,000 บาท (ต้นปี 65)

พอมายุคผู้ว่าฯ ชัชชาติ (2565-2567) ก็ปรับราคาขึ้นมาเป็นตัวละ 518,000 บาท (ปี 65 ศูนย์มิตรไมตรี, ศูนย์เยาวชนจตุจักร และศูนย์เยาวชนเตชะวณิช) และตั้งแต่ปี 66 ราคาได้ก้าวกระโดดไปที่ตัวละ 759,000 บาท โดยมีหลายโครงการที่ใช้ลู่วิ่งราคา 759,000 บาท ทั้งที่

- ศูนย์มิตรไมตรี
- ศูนย์วัดดอกไม้
- ศูนย์วารีภิรมย์
- ศูนย์เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา

ที่สำคัญมีการล็อกผลงาน ทำให้ช่วงหลังๆ  คนเสนอราคาแข่งกัน จะเป็นหน้าเดิมๆ 3 บริษัท

ปล. นอกจากรายชื่อศูนย์ที่แจ้งข้างบนไป ศูนย์อื่นๆ ที่คาดว่าเครื่องออกกำลังกายหลายรายการที่มีการจัดซื้อด้วยราคาสูงเกินราคาตลาด 5-10 เท่า ตั้งแต่ปี 62-67 จะมีที่

- ศูนย์เยาวชนดอนเมือง
- ศูนย์เยาวชนหนองจอก
- ศูนย์เยาวชนบ่อนไก่
- ศูนย์เยาวชนลุมพินี
- ศูนย์เยาวชนคลองสามวา
- ศูนย์เยาวชนทวีวัฒนา
- ศูนย์เยาวชนเกียรติกาย
- ศูนย์เยาวชนชัยพฤกษมาลา
- ศูนย์เยาวชนอัมพวา

ราคากลางในภาพที่แนบไว้ แค่เฉพาะของปี 66-67 ก็ชัดเจนแล้ว ที่แปลกคือ คณะกรรมการจัดทำราคากลาง ผู้บริหาร กทม. สำนักงบ กทม. และสภา กทม.ไม่เอะใจสักคน ทั้งที่ของแบบนี้มันใช้ sense ก็รู้ว่าแพงเกินเหตุ ไม่ต้องใช้สมองเลย แต่ปล่อยมาหลายโครงการติดๆ กัน เรื่องนี้ ป.ป.ช. สตง. และผู้ตรวจการแผ่นดิน เตรียมเข้า กทม.ครับ"












กำลังโหลดความคิดเห็น