หญิงสาวรายหนึ่งแชร์ประสบการณ์ฝรั่งทำทีเข้ามาชวนคุย ก่อนจะรู้ว่าเป็นการแอบถ่ายเพื่อนำไปทำคอนเทนต์เปิดคอร์สจีบสาวหารายได้ให้ตัวเอง พบเหยื่อเพียบ คาดติดกล้องไว้ที่แว่น
วันนี้ (27 พ.ค.) หญิงรายหนึ่งออกมาโพสต์เตือนภัยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังเจอชาวต่างชาติเข้ามาชวนคุย ก่อนจะแอบถ่ายคลิปเพื่อนำไปทำคอนเทนต์โดยไม่ขออนุญาต โดยผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า
"ถ้าคุณคิดว่าอยู่ในสถานที่ที่คนพลุกพล่านแล้วจะปลอดภัย โพสต์นี้อาจจะทำให้คุณเปลี่ยนความคิดค่ะ สวัสดีค่ะ โพสต์นี้อาจยาวหน่อยแต่อยากให้ทุกคนอ่านให้จบนะคะ แล้วแชร์ออกไป เผื่อมีเพื่อน พี่ น้อง หรือลูกสาวใครอาจตกเป็นเหยื่อการกระทำอันน่าสะอิดสะเอียนนี้ อย่าให้เรื่องเงียบค่ะ วันนี้เราจะมาเตือนภัยสาวๆ และเพื่อนๆ LGBTQ+ ทุกคน โดยเฉพาะคนที่อยู่ใน กทม. ทำงาน หรือชอบเดินเล่น โซนพร้อมพงษ์ ทองหล่อ อโศก สยาม ตามแนว BTS และไม่ว่าจะอยู่จังหวัดอะไรให้ระวังการคุกคามจากฝรั่งที่แกล้งเข้ามาทักทายเพื่อทำความรู้จักเพราะคุณอาจตกเป็น "เหยื่อ" ในการสร้างคอนเทนต์เพื่อหารายได้ของเขาก็ได้ค่ะ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับตัวเราเองค่ะ เกิดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าดังแห่งหนึ่ง ย่านพร้อมพงษ์ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะที่เราเดินเล่นอยู่ในห้างนั้น มีผู้ชายชาวต่างชาติคนหนึ่ง อายุน่าจะอยู่ในช่วง 20 เดินตามเรามา และได้เข้ามาหยุดเราไว้ เขาได้เริ่มบทสนทนากับเราด้วยประโยคที่สาวๆ สายฝอหลายคนอาจจะคุ้นหู "This is super random, but I absolutely loved your outfit". ซึ่งเราเคยได้ยินแบบนี้มาบ่อย แล้วเรารู้ทันฝรั่งแบบนี้ค่ะว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เดินมาทักใครแบบนี้แน่นอน เราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เขาก็ชวนคุยแล้วก็ชมเราไปเรื่อยๆ ชมแบบไม่จำเป็น แล้วก็มาติดที่ประโยค "The outfit is nice, maybe not the color of the lipstick... you could use pink" ในใจเราคิดว่ามายุ่งอะไรกับการแต่งตัวของเรา แต่ด้วยความที่เราไม่อยากจะถือสาอะไรมาก ก็ยิ้มแล้วปล่อยไป แล้วบอกว่า ฉันไม่ชอบสีชมพู เราก็ถามคำถามเขากลับบ้าง เราถามเขาว่า ชื่ออะไร มาเที่ยวเหรอ เขาบอกเขาชื่อ J*n*y Wil**** (ใครคิดว่าคุ้นชื่อนี้ หรือต้องการชื่อเต็มๆ ทักมาได้เลยค่ะ) เขาบอกมาจาก London (แต่เราว่าเขาโกหก คิดว่าน่าจะมาจาก Switzerland) เขาทำงานอยู่ที่ไทย จากนั้นเขาก็ขอไอจี เราก็ให้ไป เราไม่ Mind ในส่วนนี้ เพราะเราก็ตั้ง IG เราเป็น Private ซึ่งเขายื่นทรศัพท์ของเขาและเปิดแอปฯ Note ใน iOS ให้เราพิมพ์ ตอนนั้นเรารู้สึกแปลกๆ เพราะทำไมถึงไม่ให้หาใน IG ของตัวเองเลย แอบคิดว่ากำลังปิดบังอะไรบางอย่าง หลังจากนั้นเราก็แยกย้ายกันค่ะ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นมีเท่านี้ และวันต่อมาเขาก็ใช้ IG ส่วนตัว เราจะขอเรียกว่า IG1 นะคะ เพื่อขอติดตามเรามา แต่เราไม่ได้รับค่ะ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 67 มีคนรู้จักส่งลิงก์มาให้เราใน Facebook ซึ่งเราเห็นเป็นรูปใบหน้าของเรา เราตกใจมาก คิดว่านี่เป็น scam หรือเปล่า เราก็ดูรูปอย่างละเอียด แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าชุดที่เราใส่ เป็นชุดเดียวกันกับวันที่เราเจอฝรั่งคนนั้นเข้ามาทัก และพื้นหลังเป็นร้านขายของในห้าง พอได้ดูวิดีโอ และดูคอนเทนต์อื่นๆ ของเขา มันเป็นคอนเทนต์ประเภท "Rizzing Up A Girl" คือการใช้คำชมเชย มาหยอดสาวๆ เพื่อโชว์ความสามารถในการจีบหญิง แล้วมาดูกันว่าจะตกสาวคนไหนได้ แล้วผู้ชายคนนี้ก็จะเอามาอัปเดตให้คนในช่องติดตาม และเผื่อใครสนใจอยากเรียนเทคนิคจีบสาวกับนางค่ะ ซึ่งเราได้ดูคลิปของเราและของเหยื่อรายอื่น ภาพที่ออกมานั้นมันไปในเชิงที่ไม่ให้เกียรติผู้หญิง ลดคุณค่าความเป็นคน แฝงความ Manipulative, Gaslighting, Sarcastic และตัดสินความเป็นตัวตนของผู้หญิงอยู่ในบทสนทนา เห็นผู้หญิงเป็นของเล่น คุกคามความเป็นส่วนตัว บันทึกและเผยแพร่ข้อมูลของเหยื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีคอมเมนต์ที่ไม่ให้เกียรติเพศสภาพ และด้อยค่าเหยื่อจากผู้ติดตามของเขา
เราเกิดความรู้สึกทั้งกลัว และโกรธ เพราะเราเพิ่งเข้าใจทุกอย่างแล้วว่าตลอดเวลาที่เราคุยกับฝรั่งคนนั้น เราถูกแอบถ่ายแบบไม่รู้ตัวเลย เพราะเขาแอบติดกล้องที่ไหนสักที่บนตัวของเขา (หลังจากดูหลายๆ คลิปทำให้เรามั่นใจว่ามันคือแว่นตาที่สามารถบันทึกภาพได้ค่ะ 😱) และมันเป็นการตั้งใจที่เขาเลือกเหยื่อ ก็คือ "เรา" และผู้หญิงคนอื่นในการทำคอนเทนต์ครั้งนี้ เมื่อเราคลิกลิงก์เข้าไปดูเราเข้าไม่ได้ แต่เพื่อนๆ เราสามารถเข้าได้ นั่นทำให้รู้ว่าเขาได้ใช้บัญชี IG2 (บัญชีเพื่อลงคอนเทนต์) บล็อกไอจีเราก่อนที่เขาจะใช้ IG1 ติดตามและทักเรามาแล้ว
เพื่อปกป้องตัวเอง เราได้ทักไปบอกให้ฝรั่งหลงตัวเองคนนี้ลบคอนเทนต์เราออก จากนั้นเขาก็บล็อกเราค่ะ เราก็เลยไปสถานีตำรวจเพื่อแจ้งความ ลงบันทึกประจำวัน เพราะกลัวว่าเขาจะเอากลับมาใช้อีกหรือตัดต่อทำอย่างอื่น เราโชว์คลิปและคอมเมนต์ให้เจ้าหน้าที่ดู เจ้าหน้าที่อธิบายและบอกเราแนวที่ว่าคอมเมนต์มันยังไม่ใช่การด่า มันยังไม่ร้ายแรงพอ ที่เขาแอบถ่ายแล้วเอาไปโพสต์เองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเรา, "บางคนชอบนะ แปลก เราไม่ชอบ เราอาจจะดังก็ได้", "มันทำวิดีโอออกมาดีเลยนะ" เราในใจแบบอึ้ง นี่คือคำพูดที่เอาไว้ Calm me down เหรอ เราตอบกลับ หนูไม่ชอบค่ะ หนูไม่ได้อยากดัง มันเป็นคอนเทนต์ดูถูกผู้หญิง ถ้าเป็นลูกหนู พี่หนู เพื่อนหนู หนูก็จะยิ่งโกรธมากกว่านี้อีกค่ะ แต่เราก็ไม่อยากวีนหรือเสียมารยาทเพราะเผื่อใจไว้ก่อนแล้วว่ายังไงก็คงช่วยเราไม่ได้มาก แล้วเราก็ถามเกี่ยวกับ PDPA จะช่วยเราได้ไหม เจ้าหน้าที่บอกเราประมาณว่า กฎหมายนี้ไม่ได้ปกป้องทุกคน ใช้ในส่วนขององก์กรและธุรกิจเท่านั้น ประมาณนี้ ก็จบแบบที่คาดคิดไว้คือ เป็นฝ่ายเสียหาย แต่ได้แค่ใบบันทึกประจำวัน คนก่อเหตุก็ลอยนวล แล้วคงจะต้องหาเหยื่อรายใหม่เพิ่มแน่ๆ เราเลยตัดสินใจทำโพสต์นี้ขึ้นมา เพื่อเตือนภัยทุกคนด้วยตัวเองค่ะ เพราะวันทำงาน หรือกิจวัตรปกติของคุณ อาจกลายเป็น "คอนเทนต์" ให้คนอื่นหาเงิน และให้คนอื่นดูถูกแบบสนุกปากก็ได้ค่ะ
ใครคิดว่าเพื่อนของคุณอาจตกเป็นเหยื่อ หรือเป็นคุณเองที่ตกเป็นเหยื่อ ลองเช็กนะคะ เราไม่อยากปล่อยให้เรื่องนี้เงียบ หรือเป็นเรื่องที่คิดว่าเล็ก หรือปกติในสังคมของเรา อย่าให้บุคคลหลงตัวเองคนนี้เอาเปรียบ และ Take Advantage จากความใจดี ความเฟรนด์ลีของเรานะคะ Friendly ไม่ได้แปลว่าง่าย Smile ไม่ได้แปลว่าชอบ ให้ไอจีไม่ได้แปลว่าจีบติดค่ะพ่อหนุ่ม"
EP2. นี่คือ Channel ที่ฝรั่งคนนี้เอามารีวิวให้คนอื่นฟังถึงวิธีการที่มันทำ เดตสาวไปทั่วโลก แพลตฟอร์มชื่อว่า Telegram มันยกตัวอย่างประสบการณ์ตกสาวคอสตาริกา ที่มันบอกว่าเป็น Ms. Costa Rica : ซึ่งไม่รู้ว่าจริงไหม คาดว่าน่าจะมีตำแหน่ง สาวคนนั้นชื่อขึ้นต้นว่า Jes มีรีวิวจากลูกค้าที่มันไป Life coach ด้วย โคตร Disgutting มันใช้คำเรียกผู้หญิงคนนี้ว่า Target นั่นก็คือเหยื่อตรงๆ เลย โคตรแย่ ทำเหมือนผู้หญิงเป็น Object เล่นกับความรู้สึกเพื่อสร้างคอนเทนต์หาเงิน เอามาสร้างเป็นโพลให้คนโหวตเล่น ต้องเติบโตมาแบบใด?