xs
xsm
sm
md
lg

อาจารย์ ม.ดังวอนหยุดดรามาปม "พระพุทธรูปลาว" หวั่นเลยเถิดกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อาจารย์มหาวิทยาลัยมหาสารคามร่ายยาวปมพระพุทธรูปลาว หวั่นกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ชี้ควรหยุดดรามาได้แล้ว ฟันธงเป็นพระเก่า หลังพิจารณาจากศิลปะ บริบทแวดล้อม และคราบแคลเซียม

จากกรณี สปป.ลาวขุดพบพระพุทธรูปจมใต้น้ำโขงสามเหลี่ยมทองคำ ฝั่งเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว เป็นองค์พระพุทธรูปสำริดองค์ใหญ่สุด หน้ากว้างกว่า 2 เมตร อีกองค์กว้าง 1 เมตร สภาพสมบูรณ์ ต่อมามีรายงานว่า นายพยุงศักดิ์ อัครเกื้อกูล หรือ อาจารย์ต๋อง หรือฉายา ครูบาทอง ชี้ พระโลหะที่ สปป.ลาวขุดเจอใต้น้ำโขง นอนแช่อยู่ใต้ดินที่ชุ่มน้ำใต้แม่น้ำไม่น่าจะมีอายุ 500 ปี ฟันธงเก่าไม่เกิน 50 ปี พร้อมท้านักวิชาการลาวพิสูจน์ เนื่องจากโลหะจมดิน จมน้ำไม่ถึง 100 ปี มันจะยุ่ย ผุ กร่อน ทะลุจนพรุน ไม่มีเหลือเป็นองค์พระพุทธรูปสมบูรณ์แบบอย่างที่ขุดเจอนั่นหรอก

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ดร.ไชยณรงค์ เศรษฐเชื้อ อาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ออกมาโพสต์ข้อความในประเด็นดังกล่าว แนะ เรื่องนี้คนไทยบางคนควรสงบปากสงบคำไว้บ้าง หวั่นมีปัญหาเรื่องสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยอาจารย์จากมหาวิทยาลัยมหาสารคามได้ระบุข้อความว่า

"อย่าหาทำ

ผมว่าเรื่องนี้คนไทยบางคนควรสงบปากสงบคำไว้บ้างนะ ยิ่งการใช้ภาษาที่ท้าทายแถมหยาบคายยิ่งไม่สมควรทำอย่างยิ่ง ยิ่งอ่านเนื้อหาการให้สัมภาษณ์ ผมนี่รู้สึกอายแทนคนไทย และอยากขอโทษเพื่อนคนลาวที่มีคนไทยแบบนี้

สำหรับสื่อไทยไม่ว่าสื่อหลักหรือสื่อโซเชียลก็อย่านำเรื่องแบบนี้มาเสนอเป็นข่าวเลยครับ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนในมิติความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สำหรับผม ผมค่อนข้างเชื่อนักประวัติศาสตร์ศิลป์ ที่ระบุว่าเป็นประติมากรรมพระพุทธรูป ศิลปะล้านนา สกุลช่างเชียงราย-เทิง ผสมศิลปะล้านช้าง ดูจากพระพักตร์เสี้ยม เม็ดพระศกเล็ก มีไรพระศก อายุราวพุทธศตวรรษที่ 21-22 ซึ่งช่างปัจจุบันลอกเลียนแบบยากครับ เมื่อบวกกับพระที่พบก่อนหน้านี้ที่มีทั้งศิลปะล้านนาและล้านช้างจำนวนมากที่ศิลปะชัดเจน และซากโบราณสถาน (เสา) ที่ประดับลวดลายแบบล้านนาและจีนที่กำหนดอายุได้ราวพุทธศตวรรษที่ 21 ผมเชื่อว่าคงไม่มีใครทำแล้วมาแอบฝังเพื่อสร้างกระแสอย่างที่ผู้ให้สัมภาษณ์กล่าว

คนไทยควรเรียนรู้ที่จะอยู่กับประเทศเพื่อนบ้านแบบสันติให้มากกว่านี้"

ล่าสุดวันนี้ (18 พ.ค.) ดร.ไชยณรงค์ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวอีกครั้ง วอนอย่าดรามาจนเลยเถิด โดยได้ระบุข้อความว่า

"เห็นดรามาในสื่อหลักบางสำนักและสื่อโซเชียลเกี่ยวกับพระพุทธรูปที่พบใต้หาดของแม่น้ำโขงฝั่งเมืองต้นผึ้ง สปป.ลาว ตรงข้ามกับอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงรายแล้ว ผมรู้สึกเป็นห่วงมากๆ โดยเฉพาะมิติความสัมพันธ์ระหว่างคนไทยกับเพื่อนบ้านที่ดิ่งลงเหว แม้ไม่ได้เป็นนักประวัติศาสตร์ศิลป์ แต่ผมก็อยากเสนอข้อมูลเท่าที่พอรู้และความเห็น เผื่อว่าจะทำให้คนไทยบางพวกมีสติ ไม่แสดงความเห็นเลยเถิดไปมากกว่านี้

ประเด็นที่หนึ่ง พระพุทธรูปองค์ใหญ่องค์ล่าสุดพร้อมฐานพระที่มีสภาพสมบูรณ์จากหาดทรายกลางแม่น้ำโขงฝั่งเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว งดงามมากครับ ถือว่าเป็นปฏิติมากรรมรูปเคารพชิ้นเอกชิ้นหนึ่งได้ ในเชิงศิลปะ นี่คือพระสมณโคดม ปางมารวิชัย เป็นศิลปะล้านนาสกุลช่างเทิง-เชียงราย มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 21-22 มีลักษณะร่วมกับพระพุทธรูปศิลปะล้านช้าง เห็นได้จากพระพักตร์เสี้ยม เม็ดพระศกเล็ก มีไรพระศก ที่สำคัญ ช่างมีเทคนิคการหล่อโลหะต่างสีมาประกอบเข้าด้วยกันอย่างบรรจง ซึ่งไม่พบในศิลปะสกุลช่างอื่นๆ

ประเด็นที่สอง พระใหม่หรือพระเก่า? ผมไม่รู้ว่าคนที่บอกว่าพระที่พบอายุไม่เกิน 200 ปี ไม่เกิน 50 ปี หรือพระทำใหม่ เอาอะไรมาพูด แต่หากดูบริบทที่แวดล้อม นอกจากพระองค์นี้เป็นปฏิติมากรรมพระพุทธรูปอายุราวพุทธศตวรรษที่ 21-22 ดังที่กล่าวไปแล้ว นักประวัติศาสตร์ศิลป์ ระบุว่าพระพุทธรูปองค์อื่นๆ ที่พบก่อนหน้านี้ก็มีทั้งศิลปะล้านนา ศิลปะล้านนาสกุลช่างเชียงราย-เทิงที่ผสมศิลปะล้านช้าง และศิลปะล้านช้าง ขณะที่เสาวิหารประดับลวดลายแบบล้านนาและจีนที่กำหนดอายุได้ราวพุทธศตวรรษที่ 21 ศิลปะเหล่านี้สอดคล้องกันทั้งหมด ขณะที่พระทำใหม่หรือพระไม่เกิน 200 ปี ไม่มีศิลปะแบบนี้ครับเพราะฝีมือเชิงช่างไม่มีทางที่จะทำได้

สำหรับพวกที่ตั้งข้อสังเกตว่า เป็นพระถอดพิมพ์ ผมก็มีคำถามกลับว่า ใช้พระองค์ไหนมาถอดพิมพ์? หาช่างหล่อที่ไหนมาถอดพิมพ์? และมีโรงหล่อไหนในโลกนี้ที่จะหล่อได้งดงามแบบนี้? ช่วยหาช่างที่มีฝีมือเชิงช่างชั้นครูแบบนี้และโรงหล่อที่หล่อพระได้งดงามแบบนี้มาให้ได้ก่อนครับ ถ้าหาได้ก็ต้องยกให้เป็นเทพของช่างหล่อในยุคปัจจุบันได้เลยครับ

ส่วนที่บอกว่าทำขึ้นมาแล้วไปฝังทรายเพื่อสร้างกระแส ก็มีคำถามว่าคุ้มไหมที่จะทำแบบนั้น พระสำริดขนาดใหญ่นะครับ ไม่ใช่พระทองเหลืององค์เล็กๆ การสร้างต้องลงทุนมหาศาลมาก ไหนจะค่าช่าง ค่าโรงหล่อ ค่าโลหะ ถ้าจะทำแบบที่กล่าวหา เขาก็คงลงทุนทำกันแค่หล่อทองเหลืองเท่านั้น ไม่มีใครบ้าจะหล่อสำริดแบบนี้หรอกครับ

ที่สำคัญอีกประการ หากซูมองค์พระดูจะพบคราบแคลเซียมบริเวณพระชานุ (เข่า) และอีกหลายๆ จุด ขององค์พระ คราบแคลเซียมนี่แหละครับที่ใช้พิจารณาความเป็นพระเก่ากับพระทำใหม่ ถ้าไม่เก่า ไม่มีคราบแคลเซียมครับ สำหรับผมเมื่อพิจารณาจากศิลปะ บริบทแวดล้อม และคราบแคลเซียม ฟันธงได้เลยครับว่าพระองค์นี้เป็นพระเก่า

ประเด็นที่สาม สำริดจมน้ำนานเนื้อจะเปื่อยยุ่ยจริงหรือ? มีคนอ้างตัวว่าเป็นนักโลหะวิทยามือฉมัง เป็นศิษย์เอกเทพเจ้าแห่งวิชาโลหะวิทยาเมืองไทย ที่เป็นผู้แปลและแต่งตำราโลหะวิทยาคนแรกของประเทศไทย บอกว่า หากสำริดจมน้ำไม่ถึง 100 ปี ก็จะยุ่ย ผุ กร่อน ทะลุจนพรุนไปหมด ไม่มีเหลือเป็นองค์พระพุทธรูปสมบูรณ์แบบอย่างที่ขุดเจอ

ประเด็นนี้ คนฟังถ้าไม่คิดก็คงคล้อยตามทันที แต่ผมตอบได้เลยว่าไม่จริงเสมอไป ประติมากรรมสำริดที่อยู่ใต้ดิน มีความชื่นสูง ฝนตกทุกปี อายุนับพันปี ที่ขุดพบในประเทศไทย ตั้งแต่ยุคทวารวดีมา ก็ยังสมบูรณ์เต็มไปหมด หรือแม้แต่ที่อยู่ในโคลนที่มีน้ำก็ยังสมบูรณ์ เช่นที่สำนักข่าว BBC รายงานข่าวเมื่อ 9 November 2022 สรุปได้ว่า นักโบราณคดีชาวอิตาลีค้นพบประติมากรรมสำริด 24 ชิ้น ซึ่งเชื่อกันว่ามีอายุย้อนกลับไปถึงสมัยโรมันโบราณประติมากรรมเหล่านี้ถูกค้นพบใต้ซากปรักหักพังที่เต็มไปด้วยโคลนของห้องอาบน้ำโบราณในซาน กัสเชียโน เดย บาญญี เมืองบนยอดเขาในแคว้นเซียนา ห่างจากกรุงโรมไปทางเหนือประมาณ 160 กม. มีอายุประมาณ 2,300 ปี โดยเป็นประติมากรรมเทพีไฮเจีย เทพเจ้าอพอลโล และเทพเจ้ากรีก-โรมันอื่นๆ
รูปปั้นส่วนใหญ่ซึ่งพบจมอยู่ใต้น้ำใต้ห้องอาบน้ำพร้อมกับเหรียญทองแดง เงิน และเหรียญทองประมาณ 6,000 เหรียญ มีอายุระหว่างศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสต์ศักราช ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 1 (ดูภาพสุดท้ายประกอบ และหากใครที่อยากอ่านเพิ่มเติมดูลิงคก์ข้างล่างในช่องคอมเมนต์ได้ครับ)

ผมเชื่อว่า การที่ประติมากรรมเหล่านี้ไม่เปื่อยยุ่ย เช่นเดียวกับพระพุทธรูปที่ค้นพบในหาดทรายแม่น้ำโขงใน สปป.ลาว เพราะช่างผสมโลหะสำริดที่ลงตัวและทนทานมาก ซึ่งช่างกลโรงงานหรือนักโลหวิทยามือฉมังในยุคปัจจุบันไม่สามารถทำได้หรอกครับ เพราะความรู้ไม่ถึง

ประเด็นที่สี่ ไทยดรามาจนเลยเถิด กรณีพบพระพุทธรูปครั้งนี้ สำหรับคนลาวและสื่อโซเชียลของลาวส่วนใหญ่เขาก็มีความปลื้มปีติยินดี ขณะที่สื่อไทยและสื่อโซเชียลไทยก็สนใจประเด็นนี้มาก แต่ที่น่าห่วงก็คือ ตอนนี้ประเด็นในโซเชียลของไทยมันไปไกลจนถึงขั้นเหยียดคนลาวอย่างหนัก บางคนที่อ้างตัวว่าเป็นนักโลหวิทยาตัวยงนำพระพุทธรูปที่พบเหยียดไปถึงเพศสตรีและ LGBTQ ด้วย

ตอนนี้ประเด็นอายุพระไม่สำคัญแล้วล่ะ เพราะเรื่องอายุถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือของคนไทยบางกลุ่มเหยียดเพื่อนบ้านอย่างจงใจ อ่านความเห็นคนไทยในโลกโซเชียลแล้วน่าเศร้ามาก และทำให้มีคำถามว่า คนไทยบางจำพวกทำไมถึงมีกมลสันดาน (habitus) แบบนี้? บทเรียนเกี่ยวกับเพื่อนบ้านที่ผ่านมามีมากมาย ทำไมจึงไม่เรียนรู้บ้างว่าจะอยู่ร่วมกับเพื่อนบ้านอย่างอารยชนอย่างไร

สำหรับผม พฤติกรรมเหล่านี้ใครไม่อาย แต่ผมอายแทนคนไทยมาก และอยากขอโทษเพื่อนมิตรชาวลาวที่ประเทศไทยมีคนจำพวกนี้"
กำลังโหลดความคิดเห็น