โซเชียลฯ แห่แชร์ชื่นชม เด็กหนุ่มสู้ชีวิต “ส.ต.ต.ธนภัทร สมุทรสาร” ใช้เวลาฝ่าฟันอุปสรรค 7 ปี จากหนุ่มพนักงานห้างโลตัส ตั้งใจมุ่งมั่นจนสอบติดนายร้อยตำรวจ คะแนนสูงเป็นอันดับ 4
วันนี้ (9 พ.ค.) เพจ “เตรียมทหาร online" ได้เผยเรื่องราวของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ทำตามความฝันใช้เวลากว่า 7 ปีในการสอบเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ และได้คะแนนสูงเป็นอันดับ 4 โดยระบุข้อความว่า “เขาคือผู้ไม่ยอมแพ้ จากเด็กพนักงานโลตัส สู่นายร้อยตำรวจ อันดับ 4 ส.ต.ต.ธนภัทร สมุทรสาร ชื่อตาล หนุ่มสงขลา หาดใหญ่ ผู้มีความฝันเช่นเดียวกับใครหลายๆ คนเนื่องจากเรียนไม่เก่งแต่ขยันและมีความฝันที่สูงสุดคือนายร้อยตำรวจ
ตาลน่าจะมีความฝันเหมือนใครหลายๆ คนคืออยากเป็นแต่ไม่ได้เก่ง ก็ไปเรียนไปติวเหมือนใครหลายๆ คนตามแบบฉบับ คือ จบ ม.4 แล้วไปสอบเตรียมทหารสอบไม่ติดก็สอบอีกปีเหมือนคนทั่วๆ ไป แต่ ม.5 ปี สุดท้ายสอบไม่ติดทั้งที่พยายามแล้ว จะเอาไงต่อก็มันไม่ติด พอแค่นี้หรือไปต่อ
เขาเลือกไปต่อโดยไม่ลังเล คือไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัยเพราะฐานะทางบ้านไม่ดี เลือกออกมาทำงานเป็นพนักงานในโลตัสแถวบ้านเพื่อรอสอบนายสิบตำรวจตามเส้นทางฝัน...
แล้วเขาก็ทำได้ สอบนายสิบตำรวจ และเลือกรับโอกาสใหม่คือ การได้รับโควตาไปสอบนายร้อยตำรวจ อายุ 24 ปี แต่แล้วโชคไม่ดีนักรุ่นนี้ถูกเลือกให้ลง 3 จังหวัดชายแดนใต้หมด และ สภ.ที่เขาเลือกคือ รือเสาะ จ.นราธิวาส ในฐานะสายตรวจ งาน ป.ดินแดนลังกาสุกะ ที่นี่บอกได้เลยว่าอันตรายมาก เขาวางแผนเป็นอย่างดี
โดยปรึกษากับ พี่เตียว และอ่านแนวทางเป็นแรงบันดาลใจ อีกทั้งเรียนในคอร์สออนไลน์ควบคู่ไปด้วย เพราะเป็นทางเดียวที่จะสามารถเรียนได้ (งบมีจำกัด)
โดยเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษและข้อสอบเก่าจากเพจเพราะว่าไม่มีเวลาออกมาติวเหมือนคนทั่วๆ ไปในพื้นที่ปกติ เลยต้องอาศัยเท่าที่ได้คือติวออนไลน์แทนการเดินทางอันแสนไกล รือเสาะถือเป็นพื้นที่สีแดง ในจังหวัดนราธิวาสที่มีเหตุการณ์บ่อยครั้ง เขาใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก และความพยายามไม่เคยทรยศ แม้ว่าจะไม่มีเวลาอ่านหนังสือ ต้องทำงานบนความเป็นความตายเพื่อดูแลประชาชน เขาก็ใช้เวลาที่เหลืออ่านหนังสือเตรียมสอบ ปรากฏว่า ปี 2565 เขาสอบติด สอบติดอันดับ 28 สอบติดก็จริง แต่พื้นที่อันตรายไม่มีที่ออกกำลังกาย ทำให้พละออกมาไม่ดีมาก ประกาศผลรอบสุดท้ายเขาพลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย (คือใครไม่ไปอยู่ นราธิวาส หรือทำงานพื้นที่ไม่เข้าใจ)
ว่ามันไม่มีที่ออกกำลังกายจริงๆ ไปไหนก็อันตราย ติดสำรองซะงั้นเพราะพละทำได้น้อย (ทั้งที่คะแนนรอบแรกตัวจริงโดนเบียด) เขาคิดว่าเขาจะพยายามอีกครั้ง และแน่นอน เวลาอ่านหนังสือไม่มีเช่นเดิม เพราะภารกิจที่ต้องทำงานตลอดเวลา การทำงานใน พท.ชายแดนใต้ไม่เหมือน ทำงานโรงพักทั่วไป มันออกไปไหนก็เสี่ยงตายหมด แม้แต่เวลาอ่านหนังสือก็ต้องถือปืนยาวไว้ข้างๆ ด้วย เคขใช้ทุกเวลาทุกนาทีให้มีค่าสูงสุด
ปีต่อมา ปี 66 เขาก็สอบติดอีก อันดับ 39
แต่ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยไม่น่าเกิดขึ้นคือพละได้น้อย คราวนี้แย่กว่าเดิมคือชื่อหลุดไปไกล เป็นความเสียใจที่ซ้ำแล้วซ้ำอีก
จนกระทั่งปี 67 เขาตัดสินใจทุ่มเทชีวิตทั้งหมดไปกับการอ่านหนังสือและฝึกร่างกาย จนทำให้เขาติดอันดับ 4 และเป็นตัวจริง
บทสรุป
ปี 61 สอบ ม.4 (ตท.) ไม่ติด
ปี 62 สอบ ม.5 (ตท.) ไม่ติด
ปี 63 กลับมาเรียน ม.6 (จบ ม.6) ทำงาน
โลตัสไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัย เพื่ออยากจะตามหาความฝัน
ปี 64 เป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ (เลือกลงใต้)
ปี 65 สอบได้ที่ 28 พละน้อยโดนแซงติดสำรอง
ปี 66 สอบได้ที่ 39 พละน้อยไม่มีลุ้น
ปี 67 สอบได้ที่ 4 ได้ตัวจริง
