xs
xsm
sm
md
lg

โฮมสเตย์ยอดแย่! หนุ่มรีวิวทริปบริษัทประจำปี ท่องเที่ยว กินปู ดูเหยี่ยว ต้องจำไม่ลืม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จวกเละ! โฮมสเตย์จันทบุรี หลังหนุ่มรีวิวทริปท่องเที่ยวประจำปีต้องจำไม่ลืม พร้อมเตือนภัยที่พักโฮมสเตย์ กินปู ดูเหยี่ยว หลังให้รอเช็กอินนาน 2 ชม. ไม่พอเจอห้องไม่สะอาด แถมพบพนักงานนอนเล่นในห้องที่แขกเข้าพัก ลั่นการประสานงานแย่ ไร้ความรับผิดชอบ จนต้องจดจำไปแสนนาน

วันนี้ (7 พ.ค.) เฟซบุ๊กรายหนึ่งเผยประสบการณ์ทริปท่องเที่ยวประจำปีของทางบริษัทที่ต้องจำไม่ลืม พร้อมเตือนภัยผู้ที่มองหาที่พักโฮมสเตย์ กินปู ดูเหยี่ยว จังหวัดจันทบุรี ให้เพิ่มความระมัดระวังในการเลือกที่พัก โดยระบุข้อความว่า “แชร์ประสบการณ์ เข้าพักโฮมสเตย์ กินปู ดูเหยี่ยว 2 วัน 1 คืน แบบฉบับคะแนนเต็ม 10 หักหมด

เรื่องเริ่มจากเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา บริษัทของเรามีนัดหมายที่จะพาพนักงานเข้าพักกันที่โฮมสเตย์แห่งหนึ่งในจังหวัดจันทบุรี จำนวนคนเข้าพักของกรุ๊ปเราทั้งหมดประมาณ 66 คน 32 ห้อง ซึ่งตามเวลานัดหมายที่ทางโฮมสเตย์แจ้งมาแต่แรกคือ เราสามารถที่จะเช็กอินที่จุดเช็กอินได้ตั้งแต่เวลา 10.30 น. พร้อมนั่งเรือเข้าที่พักและรับกุญแจเพื่อแยกย้ายไปเก็บของที่ห้องพักก่อน แล้วค่อยออกมารับประทานมื้อเที่ยงตอนเวลา 12.00 น.

วันนั้นคณะเราได้ทำการเช็กอินและเดินทางถึงที่พักในเวลาประมาณ 11.30 น. แต่ทางพนักงานแจ้งว่า "ให้ทางเรารอรับประทานข้าวเที่ยงก่อน เพราะแม่บ้านยังทำความสะอาดห้องพักไม่เสร็จ เดี๋ยวถ้าแม่บ้านทำความสะอาดเสร็จแล้วจะประกาศให้มาเอากุญแจห้องอีกครั้ง"

แต่จนแล้วจนรอดเวลาผ่านไปเกือบ 2 ชม. ทางพนักงานก็ไม่เรียกให้เราไปรับกุญแจห้องพักสักที จนเราต้องเดินไปถามหลายต่อหลายครั้งว่าห้องพักเสร็จหรือยัง แต่ก็ได้รับคำตอบแบบเดิมว่ายังไม่เสร็จให้รออีกหน่อย แต่หน่อยเขากับหน่อยเราคงไม่เท่ากัน

และเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ทางพนักงานได้เรียกให้เราไปรับกุญแจห้องพักเพื่อแจกให้สมาชิก แต่หลังจากที่เราแจกกุญแจกันเรียบร้อยแล้ว แทนที่เราจะเข้าห้องพักกันได้เลย พนักงานกลับบอกว่าเราต้องรอคิวรถรับ-ส่งอีกประมาณ 20 นาที (รถรับ-ส่งลูกค้า มีแค่คันเดียว!) และที่ต้องรอรถรับ-ส่งเพราะกรุ๊ปของเราได้ห้องพักอยู่โซนที่ไกลจากจุดรับประทานข้าวมากที่สุด แต่สุดท้ายก็มีสมาชิกบางส่วนต้องจำใจเดินไปที่ห้องพักเองเพราะไม่อยากจะต้องรออีก

จุดนั้นก็ได้แต่คิดว่ากูรอห้องพักมา 2 ชม.แล้ว ยังต้องรอคิวรถอีก 20 นาทีจริงเหรอวะ จนเมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. ในตอนที่เรายืนรอส่งสมาชิกส่วนที่เหลือขึ้นรถไปที่ห้องพัก ก็มีข้อความส่งมาจากสมาชิกส่วนที่ถึงห้องพักแล้วว่า "ห้องพักจำนวนครึ่งหนึ่งจาก 32 ห้อง ยังไม่ได้รับการทำความสะอาดจากแม่บ้าน เราเดินเอารูปที่สมาชิกส่งมาไปให้พนักงานฟรอนต์ดูพร้อมขอคำอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงปล่อยห้องพักมาให้เราทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ทำความสะอาด? พนักงานฟรอนต์ได้แต่แจ้งว่า "คิดว่าแม่บ้านทำเสร็จแล้ว"

คำถามคือเรื่องแบบนี้คุณคิดเองเออเองได้เหรอ ทำงานกันยังไงถึงไม่มีการประสานงาน คิดจะปล่อยห้องให้ลูกค้าก็ปล่อยแบบนี้เหรอ? ในตอนนั้นเราเริ่มหัวเสียพอสมควร พยายามคาดคั้นเอาคำอธิบายที่สมเหตุสมผลจากพนักงาน แต่ก็ได้รับแต่คำตอบที่ว่า "หนูไม่รู้จริงๆ ค่ะ" "จะคุยกับแม่บ้านแต่ยุ่งๆ เลยไม่ทันคุย" เหตุการณ์ที่สมาชิกเปิดห้องเข้าไปเจอสภาพห้องที่ยังไม่ได้ทำความสะอาดยังเคลียร์ไม่ทันจบ ก็มีสมาชิกคนหนึ่งโทร.มาหาเราว่า "พี่ไขประตูเปิดห้องเข้าไปแล้วเจอคนนอนอยู่ในห้อง" ใช่ มีคนนอนเปิดแอร์สบายใจอยู่ในห้องพักของลูกค้า

และพอเห็นว่ามีคนไขประตูเข้ามา แทนที่จะรีบอธิบายว่าทำไมถึงมาอยู่ในห้องพักของเรา กลับถามสมาชิกของเราว่า "พวกคุณเข้ามาได้ยังไง ใครบอกให้เข้ามา" ได้ยินแล้วงงมั้ย เออ เป็นใครใครจะไม่งง เราเป็นฝ่ายจ่ายเงินเข้าพัก เป็นฝ่ายได้รับกุญแจมาจากหน้าฟรอนต์ แต่ได้รับคำถามแบบนี้จากพนักงาน ที่ ณ เวลานั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปนอนในห้องของลูกค้าด้วยซ้ำ
(ใช่จ้า คนที่นอนอยู่ในห้องพักเราไม่ใช่ลูกค้าท่านอื่น แต่เป็นพนักงานของทางโฮมสเตย์นั่นแหละ)

เราขอคำอธิบายจากพนักงานฟรอนต์แต่ทางพนักงานปัดให้เราไปคุยกับผู้จัดการของโฮมสเตย์ เราเลยถามผู้จัดการว่าปล่อยให้เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ยังไง ทางผู้จัดการได้แต่แจ้งว่า "ทางเราเห็นว่าลูกค้ารอเข้าห้องพักที่จุดรับประทานข้าวนานแล้ว เลยอยากให้ลูกค้าได้เข้าไปพักในห้อง แล้วเดี๋ยวแม่บ้านจะตามเข้าไปทำความสะอาดทีหลัง" มาถึงจุดนี้เรายอมรับว่าเราไม่สามารถข่มอารมณ์ตัวเองได้อีก และได้มีการขึ้นเสียงและโวยวายใส่พนักงานที่เกี่ยวข้องไปพอสมควร ทุกคนคิดว่าเหตุผลที่ผู้จัดการบอกกับเรามันสมเหตุสมผลมั้ย ห้องที่ยังไม่ได้รับการทำความสะอาด สมควรที่จะแจกกุญแจให้แขกเข้าห้องเหรอ ถามจริ๊ง

แล้วส่วนเรื่องที่ทางสมาชิกเราเปิดห้องไปเจอคนนอนอยู่ในห้องนั้น ทางผู้จัดการแจ้งกับเราว่า "ทางเรายืนยันว่าไม่มีแขกคนก่อนหน้าเหลืออยู่ในห้องพักแล้วนะคะ เดี๋ยวจะรีบตรวจสอบให้ค่ะ" ใช่สิก็คนที่อยู่ในห้องพักมันไม่ใช่แขกคนก่อนหน้า แต่เป็นพนักงานของทางโฮมสเตย์เองไงครับ

เราได้ถามหาการชดเชยและความรับผิดชอบจากทางผู้จัดการ และในตอนแรกผู้จัดการเสนอการชดเชยเป็น "จะเพิ่มเวลาบุฟเฟต์เบียร์จาก 1 ชั่วโมงครึ่งเป็น 2 ชั่วโมง" เรารีบตอบกลับในตอนนั้นทันทีว่า "ไม่โอเค" คุณให้เราเข้าห้องพักช้าไป 3 ชั่วโมง ไหนจะห้องที่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับการทำความสะอาดจนครบทุกห้อง และไหนจะการที่เราเปิดไปเจอพนักงานของคุณนอนอยู่ในห้องพักของเราอีก ทุกคนคิดว่าแค่การเพิ่มระยะเวลาบุฟเฟต์เบียร์ให้เราครึ่งชั่วโมงนั้นมันเพียงพอแล้วเหรอ

คุยกันไปคุยกันมาก็ยังไม่ได้ข้อสรุป ทางผู้จัดการเลยแจ้งว่าให้เราไปรอที่ห้องพักก่อน เดี๋ยวจะขอประชุมสรุปกับทางเจ้าของโฮมสเตย์ว่าจะรับผิดชอบทางเรายังไงได้บ้าง แล้วถ้าสรุปได้แล้วจะโทร.แจ้งเราอีกทีหนึ่ง
ระหว่างที่เรากลับไปรอคำตอบจากผู้จัดการในห้องพัก ผู้จัดการได้โทร.มาแจ้งว่า "เรื่องที่เสนอเราว่าจะเพิ่มเวลาบุฟเฟต์เบียร์เมื่อกี๊ ขอระงับไว้ก่อน ยังไม่คอนเฟิร์มนะคะ เดี๋ยวสรุปกับทางเจ้าของยังไงจะแจ้งกลับมาอีกทีค่ะ"

จนมาถึงช่วงรับประทานอาหารเย็นก็ยังไม่มีสายจากผู้จัดการที่บอกว่าจะโทร.มาแจ้งว่าตกลงจะชดเชยทางเรายังไงบ้าง เราเดินไปที่จุดรับประทานอาหารพร้อมกับรอว่าจะมีพนักงานคนไหนเดินมาคุยหรือชี้แจงเกี่ยวกับการชดเชยบ้างมั้ย แต่ก็ไม่มีโผล่มาสักคน พอรับประทานอาหารเสร็จ เราต้องเดินเข้าไปตามเรื่องการชดเชยจากผู้จัดการเอง ซึ่งได้รับคำตอบกลับมาว่า "ได้ประชุมทุกฝ่ายแล้ว ทางที่พักเราไม่สามารถชดเชยอะไรให้ได้เลยนอกจากข้อเสนอเดิมที่บอกกับเราเมื่อตอนบ่าย คือเพิ่มเวลาบุฟเฟต์เบียร์อีกครึ่งชั่วโมง..."

ณ เวลานั้นตอนที่เรารู้ว่าทางโฮมสเตย์จะชดเชยให้เราด้วยการเพิ่มเวลาบุฟเฟต์เบียร์ สมาชิกในกรุ๊ปของเราส่วนใหญ่ได้รับประทานอาหารกันเสร็จและแยกย้ายกันกลับห้องพักเรียบร้อยแล้ว ก็คือสรุปได้ว่าถ้าเราไม่เดินไปถาม ทางผู้จัดการและทางโฮมสเตย์ก็คงจะปล่อยเบลอ ไม่ชดเชยและรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น เพราะถ้าตั้งใจจะรับผิดชอบจริงๆ ไม่ว่าการชดเชยจะมีแค่ขยายเวลาบุฟเฟต์เบียร์หรืออย่างอื่นเพิ่มเติม ก็ควรที่จะต้องโทร.มาแจ้งตามที่บอกกับเราไว้ หรือถ้าไม่โทร.ก็ควรจะต้องเดินมาแจ้งเราในตอนที่เรามาถึงจุดกินข้าวแล้ว

นี่ยังไม่ได้ลงรายละเอียดเรื่องเล็กๆ น้อยๆอย่างเรื่องน้ำดื่มที่ขอแล้วขออีก ขอยังไงก็ยังได้รับไม่ครบทุกห้อง แอร์ที่ห่างไกลเหลือเกินจากคำว่าเย็น ทีวีที่แขวนไว้ให้เราเกิดคำถามในใจว่าจะเอามาแขวนทำไมเพราะมันดูไม่ได้ อาหารที่กินแล้วสมาชิกกรุ๊ปเรา 90% กลับบ้านมาท้องเสียกันถ้วนหน้า และวันสุดท้ายยังมีหน้ามาขอให้เรารีบเช็กเอาต์เพราะต้องเตรียมรับลูกค้ากรุ๊ปถัดไป

ถึงตรงนี้แล้ว มีลูกบอกลูก มีหลานบอกหลาน ใครอยากลองไปพักจะพกความสวยไปอย่างเดียวไม่ได้ ต้องสวย 50 ดวง 50 เท่านั้น! บางคนอาจจะได้รับความรู้สึกดีๆ กลับไป แต่กับเราชีวิตนี้ทั้งชีวิตจะไม่ไปเหยียบอีก

ขอบคุณทางโฮมสเตย์ที่สร้างความ เดือดดาลและเหลืออดให้กับทางเราจนนาทีสุดท้าย พวกเราจะจำทริปท่องเที่ยวประจำปีทริปนี้แบบไม่รู้ลืม และจนเฮือกสุดท้ายของชีวิตก็จะกระซิบเบาๆ ออกมาว่า... "หนีไป"

คลิกอ่านโพสต์ต้นฉบับ


กำลังโหลดความคิดเห็น