เพจ "ข่าวสารเมืองปราการ v2" เผยคลิปชายพยายามข่มขืนสาวบนสถานีรถไฟฟ้า ยอมรับสารภาพเมา เพิ่งกินยาโรเช่-น้ำกระท่อม และเสพกัญชามาด้วย และภายในวันเดียวกันชายรายนี้ก่อเหตุถึง 2 ครั้ง
เมื่อวันที่ 7 พ.ค. เพจ "ข่าวสารเมืองปราการ v2" โพสต์คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นหญิงสาวรายหนึ่งกำลังขึ้นบันไดเลื่อนทางขึ้นรถไฟฟ้า สถานีเคหะสมุทรปราการ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ แล้วพบกับชายกำลังยืนสำเร็จความใคร่อยู่ด้านบน จากนั้นชายรายนี้พยายามจะโอบกอดลวนลามหญิงสาว
ล่าสุดทางเพจดังกล่าวได้โพสต์รายงานความคืบหน้าเพิ่มเติมว่า "เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 7 พ.ค. 67 พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ และฝ่ายสืบสวน ร่วมกันจับกุม นายสุทัศน์ หรืออาร์ม ช่วยรอด อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 408/2567 ลงวันที่ 7 พ.ค. 2567 ข้อหา “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายกระทำต่อหน้าธารกำนัล, กระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัลโดยกระทำการลามกอย่างอื่น, ทำร้ายร่างกาย, ลักทรัพย์” พร้อมของกลาง 1. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Redmi รุ่นโน้ต 13 สีขาว จำนวน 1 เครื่อง 2. เงินสดประมาณ 1,050 บาท 3. กระเป๋าสะพายข้าง สีเทา จำนวน 1 ใบ จับกุมได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 970 ม.6 ต.ท้ายบ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ
พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.วันที่ 7 ผู้เสียหาย อายุ 30 ปี พนักงานขายเครื่องสำอาง เดินทางเข้าแจ้งความต่อตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ว่าขณะที่ตนเองเดินขึ้นบันไดเลื่อนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส การเคหะสมุทรปราการ ถ.สุขุมวิท ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อเดินทางไปทำงานที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง ระหว่างนั้นพบเห็น ชายวัยรุ่น ซึ่งคือนายสุทัศน์ กำลังยืนช่วยตัวเองอยู่บริเวณทางเดินสถานี นายสุทัศน์ เห็นตนจึงเดินมุ่งตรงเข้ามาล็อกคอกดลงกับพื้น ก่อนที่จะลวนลามตนเองโดยการห้อมแก้มและพยายามถอดเสื้อผ้าของตนออก ระหว่างนั้นตนได้ร้องขอความช่วยเหลือและขัดขืน นายสุทัศน์จึงใช้มือชกที่หน้าตนเองหลายครั้ง จนมีคนเดินมาเห็นก่อนที่นายสุทัศน์ตกใจจึงรีบวิ่งลงบันไดเลื่อนขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ใต้สถานีหลบหนีไป พร้อมด้วยกระเป๋าสะพายและทรัพย์สินจำนวนหนึ่ง ต่อมาหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน จึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเข้าไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งบันทึกภาพพฤติกรรมของคนร้ายได้อย่างชัดเจน และทราบว่าผู้ก่อเหตุนั้นมีบ้านพักอยู่ท้ายบ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ ก่อนที่จะไปจับกุมตัวเอาไว้ได้ ตรวจสอบประวัติผู้ก่อเหตุพบว่ามีประวัติเกี่ยวกับคดีลักทรัพย์มา 2 ครั้ง โดยเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ด้านผู้ก่อเหตุยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนที่ทำลงไปเพราะเมาสารเสพติด (โรเช่) ซึ่งก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาเสพมาสิบเม็ด
สอบสวนนายสุทัศน์ ซึ่งมีอาการคล้ายคนเมา ซึ่งช่วงแรกปฏิเสธเสียงแข็งว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรแค่ยืนเกาขาเท่านั้น แต่หลังจากตำรวจเค้นสอบปากคำอยู่สักพักจึงรับสารภาพว่าตนเองเป็นพนักงานอยู่ร้านยางรถยนต์ ก่อนเกิดเหตุกินยาโรเช่ไปหลายเม็ดรวมทั้งน้ำกระท่อม และเสพกัญชามาด้วย จึงทำให้เมา ขี่รถจักรยานยนต์ไปที่สถานีรถไฟฟ้าและช่วยตัวเอง แต่ระหว่างนั้นเห็นผู้เสียหายเดินมาพอดี จึงเข้าไปกอด ทำไปโดยไม่รู้ตัว
ผู้เสียหายกล่าวว่า วันนี้ตนกำลังเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปบนบีทีเอส แต่ด้วยบันไดมันสูงมากเห็นผู้ก่อเหตุยืนกำลังช่วยตัวเองอยู่ ตนก็ทำใจดีสู้เสือรีบเดินผ่านแต่ไม่ทันคนร้ายประชิดตัวด้านหน้าแล้วล็อกคอลวนลาม ตนเองก็ต่อสู้ขัดขืนตะโกนให้คนช่วยบริเวณนั้นห่างจากจุดตรวจไม่กี่เมตร รปภ.บอกว่าก่อนหน้านี้มีผู้หญิงมาแจ้งว่ามีเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อน แต่ก็ยังไม่มีใครมาจัดการ ตนตกใจมากคนร้ายมันกอดหอม จับตนนอนคว่ำจะถอดกางเกงตนจึงร้องแล้วคนร้ายก็ชกต่อยที่ใบหน้า ชักมีดขึ้นมาขู่หากร้องอีกจะใช้มีดแทงให้ตาย จังหวะมีผู้ชายคนหนึ่งกำลังเดินขึ้นบันไดบีทีเอสมาพอดีคนร้ายจึงตกใจปล่อย คนร้ายจึงคว้ากระเป๋าพร้อมทรัพย์สินมีเงินสดหนึ่งพันกว่าบาท โทรศัพท์มือถือ ผู้เสียหายวิ่งหนีไป ผู้เสียหายกล่าวทิ้งท้าย จริงๆ บีทีเอสตนมองว่าเป็นที่ที่ปลอดภัย ตรงที่ตนโดนกระทำเป็นจุดที่มีคนพลุกพล่านอยู่ห่างจากจุดขายบัตรไม่ไกลแล้วเป็นกลางวันด้วย แล้วถ้าเป็นกลางคืนไม่รู้จะเป็นอย่างไร
นางจริญญา อายุ 55 ปี แม่ของผู้เสียหาย กล่าวว่า หลังทราบข่าวตนรู้สึกเป็นห่วงลูกมาก ตนมองว่าบีทีเอสไม่ปลอดภัย อยากให้เขารับผิดชอบให้มากกว่านี้ เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น ถ้าคนร้ายมีอาวุธลูกตนคงไม่ได้อยู่ตรงนี้ เพราะลูกตนร้องขอความช่วยเหลือเสียงดัง แต่ไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือ
ส่วนผู้เสียหายอีกราย (ไม่ขอเปิดเผยชื่อ) บอกว่า ตนโดนผู้ก่อเหตุรายเดียวกันนี้ก็เหตุพยายามจะข่มขืนบนสะพานลอยเคหะสมุทรปราการ ปลุกปล้ำตนเองและพยายามจะถอดกางเกง แต่โชคดีที่กางเกงตนเป็นกางเกงยีนส์มีตะขอ แต่โชคดีจังหวะนั้นมีคนขึ้นมาช่วยตนไว้ ผู้ก่อเหตุจึงขี่รถจักรยานยนต์หนีไป และวนกลับมาบอกว่า “ถ้าไม่มีคนมึงโดนเย็…แน่” ตนจึงบันทึกคลิปไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเดินทางเข้าแจ้งความต่อตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ"