xs
xsm
sm
md
lg

“โซเด้นท์” คลินิกทันตกรรมแนวคิดใหม่ คว้า 4 รางวัลระดับประเทศ ชูจุดเด่นคลินิกทันตกรรมที่ทัชใจ โตพุ่ง 5 เท่าใน 2 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรุงเทพฯ ประเทศไทย - 1 เมษายน 2567 - คลินิกทันตกรรมโซเด้นท์ (Sodent Dental Clinic) ผู้ให้บริการด้านทันตกรรมครบวงจร ตอกย้ำความสำเร็จอีกครั้งหลังเพิ่มยอดขาย 5 เท่าใน 2 ปี และเพิ่มจำนวนจาก 1 เป็น 4 สาขา แบ่งเป็นแบรนด์คลินิกทันตกรรม 'โซเด้นท์' ที่มุ่งเน้นการทำตลาดแบบ Masstige จำนวน 3 สาขา และแบรนด์คลินิกทันตกรรมเฉพาะทางเจาะกลุ่ม Prestige จำนวน 1 สาขา คว้ารางวัล รางวัล Dental Aesthetic Clinic of the Year 2023 (ประเทศไทย) จาก Global Health Asia-Pacific, ArokaGO Star Award  รางวัล Thailand Top SME Award 2023 และล่าสุด Invisalign Platinum Provider 2023 ชูจุดเด่นด้านเทคโนโลยี และการส่งมอบประสบการณ์การทำฟันรูปแบบใหม่ เผย 3 กลยุทธ์เพิ่มคุณค่าธุรกิจทันตกรรม


ทันตแพทย์ นำโชค พรมโสภา ผู้อำนวยการคลินิกทันตกรรมโซเด้นท์ กล่าวว่า “โซเด้นท์เกิดขึ้นบนความตั้งใจที่จะให้การรักษาโดยใส่ใจความต้องการของคนไข้เป็นศูนย์กลาง และมองว่าการรักษาไม่ได้เริ่มต้นที่เก้าอี้ทำฟันของคุณหมอเท่านั้น แต่กระบวนการต่างๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน โซเด้นท์เลยถูกออกแบบด้วยหลัก Sensory Experiences เพื่อสร้างประสบการณ์การทำฟันที่แตกต่าง ทั้งรูป รส กลิ่น และเสียง เริ่มต้นตั้งแต่การตกแต่งด้วยโทนสีสว่าง เสียงเพลงที่สื่อถึงความเป็นมิตร กลิ่นหอมผ่อนคลาย ที่ทำเรื่องทันตกรรมให้เข้าใจง่ายและทัชใจกลุ่มเป้าหมายในกลุ่ม Zennial และ Gen Z ซึ่งเราตั้งใจเป็นคลินิกที่มอบประสบการณ์ทางทันตกรรมที่ดีเพื่อเติมเต็มรอยยิ้มและความมั่นใจให้คนไข้กล้าเข้ามาคุยกับเรามากขึ้น เราเลยให้ความสำคัญกับความใส่ใจและการบริการ ซึ่งรางวัลเหล่านี้ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของเรา เรารู้สึกเป็นเกียรติและขอขอบคุณลูกค้า พันธมิตร และบุคลากรของเราทุกคนที่มีส่วนร่วมในความสำเร็จของโซเด้นท์”

กลยุทธ์หลักที่โซเด้นท์เลือกใช้มี 3 ข้อ คือ การสร้างแบรนด์ การยกระดับนวัตกรรมและการเข้าถึงการรักษา และให้ความสำคัญต่อบุคลากรและการบริการ โดย 1. การสร้างแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน โดยสร้าง Emotional Value นำเสนอแบรนด์ที่ทำให้การทำฟันเป็นมากกว่าการรักษา แต่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับคนไข้ พร้อมกับสื่อสารในรูปแบบที่ตอบโจทย์ผู้รับบริการหลากหลาย ทั้งการสร้างคอนเทนต์บนช่องทางออนไลน์, แคมเปญสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ การจัด Workshop ในหัวข้อที่อยู่ในกระแสความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ไปจนถึงการจัดอีเวนต์ที่ไม่ได้สื่อสารเรื่องฟันเพียงอย่างเดียว อย่างการจัดประกวดเต้น Cover “Sodent Sodance” การจัดมินิคอนเสิร์ต หรือการจัด Thank you Party เพื่อย้ำจุดยืนเรื่องการสนับสนุนความมั่นใจและเปลี่ยนลูกค้าประจำให้เป็น Advocacy ของแบรนด์ 

2. การยกระดับนวัตกรรมและการเข้าถึงบริการ เช่น เครื่องสแกนช่องปาก 3 มิติ, การออกแบบห้องทันตกรรมโดยใช้หลักการ Modified AIIR (ห้องความดันลบ) เทียบเท่ามาตรฐานห้องผ่าตัด นอกจากนี้ยังใช้ระบบการจัดการข้อมูลแบบดิจิทัล 100% เข้าถึงข้อมูลการรักษาได้ไม่ว่าจะเข้ารับบริการที่สาขาใดก็ตามทั้งยังให้บริการที่เชื่อมต่อระหว่างแพตฟอร์ม Digital และ Physical เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเข้าถึงบริการของคลินิกได้อย่างไร้รอยต่อ ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เชื่อมทุก touchpoint ให้คนไข้ได้ประสบการณ์ที่ดีขึ้น เช่น การนัดหมายออนไลน์, บริการปรึกษาเบื้องต้นไปจนถึงการตรวจประเมินในช่องทางออนไลน์ 

และ 3. การให้ความสำคัญและพัฒนาการบริการและพนักงานอย่างต่อเนื่อง เพราะบุคลากรคือหัวใจสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนและสร้างความแตกต่างให้การบริการของโซเด้นท์ ซึ่งปัจจุบันจะมีทั้งการอบรมภายในและภายนอกเพื่อสร้างความเข้าใจ และต่อยอดศักยภาพของพนักงานให้เติบโตไปกับองค์กร พร้อมกับสร้าง Employee Brand และ Employee value Proposition ผ่านชื่อเรียกตำแหน่ง ที่สะท้อนคุณค่าที่คลินิกอยากส่งมอบ อย่าง ตำแหน่ง “Smile Creator” เพื่อให้ทุกคนโฟกัสว่า ไม่ใช่แค่มาทำงานด้าน Customer Service แต่มาเพื่อสร้างรอยยิ้มให้ทุกคน

ทันตแพทย์ นำโชคกล่าวปิดท้ายว่า “โซเด้นท์มุ่งมั่นที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อมอบบริการทันตกรรมที่มีคุณภาพสูงสุดและประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับคนไข้ แผนงานในอนาคต โซเด้นท์ตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มอีก 2 สาขาในกรุงเทพฯ และภาคตะวันออก ภายในปี 2569 นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจโดยจับเทรนด์ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติในรูปแบบ Dental Tour พร้อมทั้งรุกตลาด Personal Care ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพช่องปาก และแบรนด์จัดฟันใส เพื่อสร้าง S-Curve ใหม่ และเพิ่มความหลากหลายในพอร์ตการลงทุน”


รายละเอียดเกี่ยวกับรางวัลระดับประเทศที่ “โซเด้นท์” คลินิกทันตกรรม ได้รับ

รางวัล ArokaGO Star ระดับ 5 ดาว (https://www.arokago.com/providers/sodent-dental-clinic) จากสมาคมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพไทย (TMWTA) ซึ่งมอบแก่ผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่ตรงตามมาตรฐานคุณภาพการให้บริการและความปลอดภัย โดยรางวัล ArokaGO Star ระดับ 5 ดาว เป็นรางวัลที่มอบให้กับสถานพยาบาลที่มีคุณภาพมาตรฐานสูง มีความปลอดภัยและให้บริการที่มีคุณภาพ รางวัลนี้พิจารณาจากเกณฑ์ด้านมาตรฐานด้านสถานที่ตั้ง อาคาร อุปกรณ์ บุคลากร กระบวนการให้บริการ ความปลอดภัย และคุณภาพการให้บริการ โดยคลินิกทันตกรรมโซเด้นท์ ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายสาขา

รางวัล Thailand Top SME Award 2023 จากบริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยความร่วมมือของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) มอบให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่มีความโดดเด่นในด้านการบริหารจัดการ โดยรางวัล Thailand Top SME Award 2023 เป็นรางวัลที่มอบให้กับผู้ประกอบการ SMEs ที่มีความโดดเด่นในการบริหารจัดการองค์กรในด้านต่างๆ เช่น กลยุทธ์ทางการตลาด นวัตกรรม เทคโนโลยี การบริหารทรัพยากรบุคคล การบริหารการเงิน และการบริหารความเสี่ยง

รางวัล Invisalign Platinum Provider 2023 จาก Align Technology Thailand โดยรางวัลนี้เป็นรางวัลที่มอบให้กับคลินิกทันตกรรมมีคนไข้เข้ารับบริการจัดฟันใสอย่างน้อย 50 เคส มีทีมทันตแพทย์ที่ได้รับ Invisalign certified Doctor และมีคุณภาพได้มาตรฐานระดับสากล

รางวัล Dental Aesthetic Clinic of the Year in Thailand 2023 จาก GlobalHealth Asia-Pacific คลินิกทันตกรรมโซเด้นท์ ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายประเทศมอบให้กับคลินิกทันตกรรมที่มีผลงานโดดเด่นด้านทันตกรรมความงาม โดยรางวัล Dental Aesthetic Clinic of the Year in Thailand เป็นรางวัลที่มอบให้กับคลินิกทันตกรรมที่มีความเชี่ยวชาญด้านทันตกรรมความงาม มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ยอมรับในระดับสากล


ข้อมูลเพิ่มเติม

- ประเทศไทยมีทันตแพทย์เพียง 0.02-0.03% ต่อจำนวนประชากร หรือก็คือทันตแพทย์ 1 คนต่อคนไข้ 4,000 คน

- ปัจจุบันอุตสาหกรรมทันตกรรมในประเทศไทยมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 6 พันล้านบาท

- เม็ดเงินของตลาดทันตกรรมอยู่ในภาคเอกชนกว่า 94%

- Global Wellness Institute คาดว่าปี 2568 มูลค่าธุรกิจ Wellness ทั่วโลกจะสูงถึง 7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

- การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทยโตต่อเนื่อง โดยปี 2566 อยู่ที่ 3.1 แสนล้านบาท และอาจมากถึง 7.6 แสนล้านบาทในปี 2570

- การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health Tourism) ทำรายได้ให้กับประเทศไทย 15-16% ของการท่องเที่ยวโดยรวม และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูง ซึ่งสามารถแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มเดินทางมาเพื่อรับการบำบัดรักษาโรคทั่วไป (General) 2) กลุ่มเดินทางมาเพื่อทำศัลยกรรมความงาม (Cosmetic Surgery) และ 3) กลุ่มที่เดินทางมาเพื่อการทำทันตกรรม (Dental Treatment)




กำลังโหลดความคิดเห็น