xs
xsm
sm
md
lg

“สมบัติ ธรธรรม” ตัวละครลับ ป.ป.ช.อุ้ม “โจ๊ก”?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เปิดพฤติกรรม "สมบัติ ธรธรรม" มือช่วย “บิ๊กโจ๊ก” ใน ป.ป.ช.สั่งปั้นบัญชีทรัพย์สินเท็จ ปกปิดแหล่งที่มา ช่วยยือเวลาชี้แจง แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ฝากคนรับราชการ จัดหาวัคซีนให้ลูกสาว เปิดหลักฐานแชต “รองคริษฐ์” กับ “เซียนอั้ง เมืองชล” จัดฉากถ่ายรูปคู่ตู้เซฟเก็บเงิน ประกอบบทจ่ายค่านายหน้าเช่าพระให้ “บิ๊กโจ๊ก”



ในรายการ  “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก”เมื่อวันศุกร์ที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการได้กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.ได้ชี้แจงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน โดยอ้างว่าได้เงินตอบแทนจำนวน 13 ล้านบาท จากการแนะนำให้ “เฮียอั๊ง เมืองชล” หรือ นายสมภพ ไทยธีระเสถียร รองนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทยได้เช่าพระจาก ร.ต.สมพร กุลวานิช อดีตผู้ว่าการจังหวัดหลายจังหวัด ที่ตนเองรู้จักสนิทสนม


ทั้งนี้ “เซียนอั๊ง” ได้อ้างว่า ในการจ่ายค่าแนะนำการเช่าพระ จะใช้แต่เงินสดเท่านั้น ไม่มีการทำหลักฐานใด ๆ ไว้ ทุกวันนี้ จึงต้องเตรียมเงินสดไว้ในตู้เซฟประมาณ 50 ล้านบาทเสมอ

แต่ปรากฏว่า เมื่อสัปดาห์ก่อน วันจันทร์ที่ 15 เมษายน 2567 ร.ต.สมพร กุลวานิช อายุ 89 ปี อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดหลายจังหวัด ได้เข้าแจ้งความที่ สน.บางยี่ขัน เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าไม่เคยรู้จักกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เป็นการส่วนตัว หลังมีถูกนำชื่อไปแอบอ้างในการสร้างพยานหลักฐานเท็จชี้แจงที่ไปที่มาทรัพย์สินของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก่อนหน้านี้


ร.ต.สมพร ยืนยันว่าไม่เคยพบเจอหรือรู้จักเป็นการส่วนตัวกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตามคำกล่าวอ้างของ เฮียอั้ง เมืองชล เซียนพระชื่อดัง ตามที่เคยปรากฏในสื่อ

คำให้การของ ร.ต.สมพร สอดคล้องกับข้อมูลของ พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ที่พบว่า มีการสมคบกับชี้แจงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จของ "สุรเชษฐ์ หักพาล" โดยมีผู้ที่กระทำผิดรวม 6 คน ด้วยกัน โดย 3 คนเป็นพนักงาน ป.ป.ช. ศึ่งมีตัวการสำคัญก็คือนายสมบัติ ธรธรรมอายุ 68 ปี ตำแหน่งอนุกรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิ ป.ป.ช.


โดยหลักฐานพบพฤติกรรม และความเกี่ยวข้องกับนายสมบัติดังนี้คือ

- มีส่วนเกี่ยวข้องในการร่วมกันทำเอกสารชี้แจงที่มาทรัพย์สิน ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ด้วยข้อมูลที่เป็นเท็จ

-ปกปิดแหล่งที่มาทรัพย์สินหลายกรณี อาทิ จัดแจงสร้างหลักฐานที่มาของเงินค่านายหน้าจากการซื้อขายพระเครื่อง เพื่อชี้แจงที่มาของอาวุธปืน

-ใช้ตำแหน่งในการสร้างเรื่องให้มีการ โต้-ตอบหนังสือให้ชี้แจง ของ ป.ป.ช.เพื่อยืดระยะเวลาช่วยเหลือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์


ทั้งนี้ จากแนวทางสืบสวนยังพบความเชื่อมโยงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่มีต่อกันระหว่างนายสมบัติกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หลังพบว่า ทางฝั่งของนายสมบัติ เคยได้รับความช่วยเหลือจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ในการช่วยเหลือพวกพ้องให้ได้รับตำแหน่งตามที่ต้องการ รวมถึงเคยได้รับการช่วยเหลือรับรองความประพฤติให้ลูกน้องของตน และช่วยจัดหาวัคซีนให้ลูกสาวของนายสมบัติ อีกด้วย

ทางฝั่งเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ได้ช่วยปั้นบัญชีทรัพย์สินให้ “โจ๊ก สุรเชษฐ์” ส่วน “โจ๊ก สุรเชษฐ์” ก็ตอบแทนด้วยการฝากคน รับรองคน เข้ารับราชการ ไปจนถึงขั้นจัดหาวัคซีนให้ลูกสาว

ยกตัวอย่างวิธีการช่วยเหลือของนายสมบัติ ธรธรรม ในการช่วยเหลือ “โจ๊ก สุรเชษฐ์” ให้เห็นภาพแบบชัด ๆ ตามข้อความในห้องแชตไลน์ระหว่าง พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ อดีต รอง ผกก.สส.สภ.สำโรงเหนือ ลูกน้องคนสนิท "โจ๊ก สุรเชษฐ์" กับ นายสมบัติ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.


นแชตไลน์ระบุ วันเวลา คือ วันที่ 20 กรกฎาคม 2566 เวลาประมาณบ่าย 3 กว่า ๆ ปรากฎข้อความและรายละเอียดดังนี้
พ.ต.ท.คริษฐ์ฯ โทรผ่านไลน์หา นายสมบัติฯ ใช้เวลาสนทนา 12 วินาที จากนั้น พ.ต.ท.คริษฐ์ฯ ส่งภาพให้กับ นายสมบัติฯ

พ.ค.ท.คริษฐ์ฯ ส่งข้อความให้ นายสมบัติฯ ระบุว่า :"70 ครับ" (จากการสนทนาและรูปภาพต่อไปเชื่อว่าตัวเลข 70 หมายถึงจำนวนเงินสด 70 ล้านบาท)

นายสมบัติฯ ส่งข้อความกลับมาว่า :"ตั้งอีกแบบดู"

นายสมบัติฯ โทรผ่านไลน์หา พ.ต.ท.คริษฐ์ โดยใช้เวลาสนทนา 1 นาที 12 วินาที

จากนั้น พ.ต.ท.คริษฐ์ฯ ก็ส่งภาพให้กับ นายสมบัติฯ เป็นภาพของ "เฮียอั้ง" ยืนถ่ายคู่กับตู้นิรภัยที่ภายในบรรจุเงินสดจำนวนมาก


พ.ต.ท.คริษฐ์ฯ ก็โทรผ่านไลน์หา นายสมบัติฯ อีกครั้งโดยใช้เวลาสนทนา 10 วินาที

นายสมบัติ ส่งข้อความตอบมาว่า :"เฮียอั้ง หันหน้ามาหน่อย","อีกรูป เอาเงินออกมาตั้งที่โต๊ะ"

ต่อมา พ.ต.ท.คริษฐ์ฯ ก็ส่งภาพให้กับ นายสมบัติฯ เป็นภาพของเฮียอั๊ง ยืนด้านหน้าตู้นิรภัย

นายสมบัติฯ ก็ส่งข้อความกลับมาว่า :"ถ่ายเซฟเปล่าว่าลึกเท่าไรด้วย"

พ.ต.ท.คริษฐ์ฯ ส่งภาพให้กับ นายสมบัติฯ เป็นภาพของ "เฮียอั้ง" ยืนด้านหน้าตู้นิรภัย

นายสมบัติฯ ตอบมาว่า :"70 ล้านใส่เซฟได้หมด ถ่ายรูปยังไงให้ดูได้"

นายสมบัติฯ โทรผ่านไลน์หา พ.ต.ท.คริษฐ์ฯ ใช้เวลาสนทนา 53 วินาที

พ.ต.ท.คริษฐ์ฯ ส่งข้อความให้ นายสมบัติฯ ว่า "เซฟลึก 60 เซนฯ กว้าง 1 เมตร สูง 150 เซนฯ"


นี่คือการสมคบกันจัดฉากชี้แจงบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สินอันเป็นเท็จ ถึงขนาดเอาเงินออกมากอง 60-70 ล้านบาท แล้วก็อ้างว่าเซียนพระชื่อ “อั๊ง เมืองชล” เก็บเงินสดไว้ในตู้เซฟเยอะขนาดนี้เพื่อเอามาซื้อขายพระเครื่อง ด้วยเหตุนี้จึงสามารถจ่ายค่าแนะนำ ค่านายหน้าให้ “โจ๊ก สุรเชษฐ์” เป็นเงินสด (ที่ต้องอ้างว่า เป็นเงินสด เพราะตรวจสอบเส้นทางการเงินไม่ได้) คิดเป็นเงินนับสิบล้านบาท

นี่เป็นแค่ข้อมูลหลักฐานส่วนน้อย เป็นแชตไลน์ครั้งเดียววันเดียว หลักฐานการกระทำผิดพวกนี้มีอีกเป็นกระตั๊ก ๆ แต่ทำไม “โจ๊ก สุรเชษฐ์” ไม่ชี้แจงเรื่องทรัพย์สิน และข้อสงสัยพวกนี้สักหน่อย เอาแต่มุ่งเป้าไปที่การโจมตีกรรมการ ป.ป.ช. ที่ไม่เข้าข้างตัวเองเพียงอย่างเดียว คนเดียว?

“แล้วผมก็จะถามต่อไปถึงสื่อมวลชนหลายแห่งที่รับเงินรับทองสุรเชษฐ์เอาไว้ ไม่มีใครสนใจจะถามเรื่องพวกนี้กับสุรเชษฐ์บ้างหรือ หรือจะปล่อยให้สุรเชษฐ์พล่ามอยู่ฝ่ายเดียว พ่นข้อมูลหลอกลวงตัวเองและหลอกลวงพวกคุณไปเรื่อยๆ” นายสนธิ กล่าว

สำหรับเรื่อง นายสมบัติ ธรธรรม เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ตัวละครคนสำคัญ ยังไม่จบแค่นี้ เพราะถ้าหากลองย้อนไปค้นหาข่าวเก่าสักหน่อย ก็จะพบว่า นายสมบัติ ธรธรรม คนนี้ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ธรรมดา ๆ หรือเป็นแค่อนุกรรมการ หรือ แค่ผู้ทรงคุณ ป.ป.ช. ทั่ว ๆ ไป แต่เมื่อปีที่แล้ว ในเดือนกันยายน ปี 2566 ยังเคยได้เกือบได้รับเลือกเป็น กรรมการ ป.ป.ช. มาแล้วด้วย !


ย้อนไปเมื่อ 7-8 เดือนที่แล้ววันที่ 4 กันยายน 2566 ในการประชุมวุฒิสภา มีวาระการพิจารณาให้ความเห็นชอบ บุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แทน พลเอก บุณยวัจน์ เครือหงส์ กรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบ 70 ปีบริบูรณ์ โดยผู้ได้รับการเสนอชื่อ คือ นายสมบัติ ธรธรรม อาชีพทนายความและที่ปรึกษากฎหมายอิสระ

ทว่า ผลการลงมติในวันนั้น นายสมบัติ ไม่ผ่านการเห็นชอบ เพราะต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งคือ 125 เสียงของจำนวนวุฒิสภาทั้งหมด แต่ผลการลงมติ มีเสียงเห็นชอบนายสมบัติแค่ 110 เสียง, ไม่เห็นชอบ 84 เสียงงดออกเสียง 26 เสียงถือว่าไม่ผ่านความเห็นชอบ

“ท่านผู้ชมคิดดูก็แล้วกัน ถ้าวันนั้นวุฒิสภาผ่านความเห็นชอบสมบัติ ธรธรรม ให้เป็นกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเกือบไปแล้ว ขาดแค่ 15 เสียง จะครบ 125 เสียง วันนี้สุรเชษฐ์ หักพาล จะตีปีกเหิมเกริมไปได้ถึงขนาดไหน

“นี่แค่คนๆ เดียวนะครับ ระดับเจ้าหน้าที่แค่คนเดียวใน ป.ป.ช. ยังไม่พูดถึงคนอื่นอีกเรื่อยไปจนถึงระดับรองเลขาธิการ เลขาธิการ กรรมการ และประธาน ป.ป.ช. ว่าลึกๆ แล้วอยู่ภายใต้อาณัติการดูแลของนักการเมืองคนไหน ทหารคนไหน ตำรวจคนไหน หรือผู้ยิ่งใหญ่คนไหนที่สามารถชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ได้” นายสนธิ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น