xs
xsm
sm
md
lg

ดิ้นจนโป๊ะ ความลับ “โจ๊ก” โผล่ ม่ายสาว “ก้อย รัตนา”- คอนโด 100 ล้านริมถนนวิทยุ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สุรเชษฐ์” ร้องเรียนไม่มีหูรูด กลายเป็นเปิดเผยเรื่องลับของตัวเอง สปอตไลต์จับไปที่ “ก้อย รัตนา” ม่ายสาวพราวเสน่ห์ รุ่นพี่ที่เคารพ เจ้าของบริษัทผูกขาดรับทำ Visa On Arrival ที่สนามบินในยุค “โจ๊ก” ยิ่งใหญ่ใน สตม. โยงไปถึงคอนโดหรูราคากว่า 100 ล้านย่านถนนวิทยุ ที่ใช้ชื่อ “เสี่ยแต๋ม อุดร” เป็นผู้ครอบครอง



ในรายการ  “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก”เมื่อวันศุกร์ที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการได้กล่าวถึง กรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.ได้ทำหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข กรรมการ ป.ป.ช.โดยได้อ้างชื่อพยาน 2 คน คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และนางรัตนา บุรพรัตน์ซึ่งทำให้สังคมสงสัยว่า นางรัตนา บุรพรัตน์ นั้น เป็นใครกันแน่ ทำไมพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงหยิบขึ้นมาอ้างเป็นพยาน


ในหนังสือร้องเรียนส่งถึง กรรมการ ป.ป.ช. ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ลงวันที่ 17 เมษายน 2567 นั้น อ้างว่า นางรัตนา บุรพรัตน์ เป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่เคารพ และเป็นเพื่อนร่วมรุ่น วปอ.58 กับนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข โดยเป็นคนนัดหมายพานายสุชาติมาพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่คอนโดมิเนียมสุดหรูราคาห้องนึงก็นับร้อยล้านบาทขึ้นไป คือ 98 ไวเลส คอนโดมิเนียม ถนนวิทยุ ให้ตัวเองช่วยพาไป พล.อ.ประวิตร อีกที

สำหรับ นางรัตนา ชื่อเล่นว่า ก้อย ประวัติเคยเป็นภรรยาของ “เสธ.เอ๊กซ์” พล.อ.ฐิติวัจน์ กำลังเอก ลูกชายของ พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก อดีตผู้บัญชาการทหารบก โดย “เสธ.เอ๊กซ์” เคยดำรงตำแหน่ง สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง (สปท.) และลงเล่นการเมืองเป็นรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา


“ก้อย” กับ “เสธ.เอ๊กซ์” มีลูกด้วยกัน 3 คน ก่อนเลิกรากันมาเป็นแม่ม่ายทรงเครื่อง ปัจจุบันอยู่ในช่วงวัย 50 ปี

ว่ากันว่าหลังจากเลิกรากับ “เสธ.เอ๊กซ์” ก่อนจะมาเป็น “เพื่อนรุ่นพี่ที่เคารพ” ของ “โจ๊ก สุรเชษฐ์” ก้อยก็เคยสนิทสนมกับเพื่อนเพศชายเรียงลำดับดังต่อไปนี้ โดยมีทั้งชาวต่างชาติ และตำรวจอีก 2 นาย คือ ชาวญี่ปุ่น ตามด้วย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพตำรวจชื่อหน่อง ชื่อจริงคือ ปิยะวัฒน์ บุญยืน ซึ่งเกษียณอายุไปแล้ว และปัจจุบันสนิทสนมที่สุดกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล

“ก้อย รัตนา” เป็นกรรมการบริษัท 2 แห่งในปัจจุบัน คือ บริษัท วีซ่า คอนเซปต์ จำกัด และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อาร์ แอนด์ เอส อินเตอร์เนชั่นแนล เทรดดิ้ง


โดยเฉพาะ บริษัท วีซ่า คอนเซปต์ เป็นกิจการรับทำวีซ่าด่วน หรือ Visa On Arrival หรือ VOA ให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเมืองไทย

ซึ่งบริษัทของ “ก้อย รัตนา” ได้สัมปทานผูกขาดเจ้าเดียว จากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ สตม. ในยุคที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เรืองอำนาจที่ สตม.ถึงขนาดได้ห้องทำงานใน สตม.ทำเป็นออฟฟิศบริษัท

เป็นช่วงเวลาที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พลอยอู้ฟู่ตามกิจการ Visa On Arrival หรือ VOA ไปด้วย นอกเหนือจากที่มาของรายได้อื่นๆ ช่วงที่รู้จักกับมินนี่ เจ้าแม่เว็บพนัน รวมถึงการเป็นมือไม้ให้ พล.อ.ประวิตร ดูแลบัญชีรายชื่อการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ


นำมาสู่การมีห้องพักสุดหรู แพงระยับ อย่าง 98 ไวเลส คอนโดมิเนียม สนนราคาตารางเมตรละ 5 แสนถึง 1 ล้านบาท ราคาแตกต่างกันขึ้นกับวิวห้อง ราคาขายแต่ละห้อง จึงมีตั้งแต่ 100-150 ล้านบาท !


อย่างไรก็ตาม ว่ากันว่า ชื่อผู้ครอบครองห้องพัก ณ 98 ไวเลส คอนโดมิเนียม กลับเป็นชื่อ “เสี่ยแต๋ม อุดรฯ” หรือ นายชินรัตน์ วัฒนกูล อีกแล้ว ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่เป็นเจ้าของบ้าน 5 หลัง ของ “โจ๊ก สุรเชษฐ์” ในโครงการอเวนิว ซิกตี้ ซอยวิภาวดี 60 หลังสโมสรตำรวจ ซึ่งตำรวจบุกเข้าตรวจคนเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566


ด้วยเหตุนี้ การทำหนังสือร้องเรียนแบบไม่มีหูรูด ไม่ดูตาม้าตาเรือ ของ “โจ๊ก สุรเชษฐ์” จึงกลายเป็นการเรียกสปอตไลต์ให้สาดจ้ามาที่เรื่องลึก ๆ ลับ ๆ อย่างกรณีก้อย รัตนา และ98 ไวเลส คอนโดฯทั้ง ๆ ที่ 2 อย่างนี้ควรถูกสงวนไว้เป็นความลับส่วนตัวเสียมากกว่า

ทั้งนี้ หาก “ก้อย” นางรัตนา บุรพรัตน์ จะเดินหน้ามาเป็นพยานให้บิ๊กโจ๊ก ยืนยันเรื่องการล็อบบี้แต่งตั้งกรรมการ ป.ป.ช.“ก้อย รัตนา” ก็จะกลายเป็นพยานที่ไร้น้ำหนัก ไม่น่าเชื่อถือแต่อย่างใด ด้วยสายสัมพันธ์ใกล้ชิดอย่างที่กล่าวอ้างว่าเป็น “เพื่อนรุ่นพี่ที่เคารพ” ซึ่งย่อมจะให้การช่วยกันเอง อย่างแน่นอนที่สุด


ที่สำคัญ นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข กรรมการ ป.ป.ช.คนถูกร้อง ย่อมไม่ตกหลุมพรางตื้น ๆ หรือ ติดกับดัก ง่าย ๆ อย่างนี้ของ “โจ๊ก สุรเชษฐ์” แน่ ๆ เพราะถ้าหากนายสุชาติออกมาโต้แย้งคำโกหก หรือ โป้ปดมดเท็จของ “โจ๊ก สุรเชษฐ์” ว่าไม่เป็นความจริงอย่างไรบ้าง ก็จะทำให้ “นายสุชาติ” กับ “โจ๊ก สุรเชษฐ์” กลายเป็นคู่ขัดแย้งกันไปโดยปริยาย และเมื่อมีเรื่อง “โจ๊ก สุรเชษฐ์” เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายสุชาติก็จะต้องถูกกันออกจากคณะพิจารณาไต่สวนเรื่อง “โจ๊ก สุรเชษฐ์” ตามเป้าประสงค์ในการออกมาเคลื่อนไหวแบบหมาบ้ากัดไปทั่ว ครั้งนี้ ไปโดยปริยาย


กำลังโหลดความคิดเห็น