xs
xsm
sm
md
lg

เซ็ปเป้ บิวติ ผู้นำ Trend Setter ด้านพลังสื่อสาร Beauty Standard ใหม่ ชี้ยุคนี้ความหลากหลายของคนคือความสวย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรุงเทพฯ - ผู้นำตลาดเครื่องดื่ม Functional Drink แบรนด์ "เซ็ปเป้" กางแผนโชว์กลยุทธ์ในการลุกขึ้น Rebranding ครั้งใหญ่ในรอบ 18 ปี ที่ไม่เพียงตอกย้ำความเป็น Trend Setter ด้านการเป็น Creative Category Functional Drink แต่ยังเป็น Trend Setter ด้านการสื่อสารตลาด ด้วยการสร้างแบรนด์เพื่อเจาะผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ในเรื่อง Beauty Standard ที่ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ทุกคนสามารถสวยในแบบฉบับของตัวเองได้อย่างเท่าเทียม การ Rebranding ครั้งนี้จึงมาพร้อมกับเปลี่ยนชื่อแบรนด์มาเป็น "เซ็ปเป้ บิวติ" การออกแบบฉลากขวดใหม่เพื่อสื่อถึงความสวยที่เป็นความหลากหลายทั้งรูปร่าง เพศ และสีผิว พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา "The Rejected Casts" ภายใต้แคมเปญ "สวยเรา ไม่ต้องสวยใคร" เพื่อฉีกค่านิยมความสวยในวงการบิวตี้ ด้วยการให้นักแสดงที่เคยถูกปฏิเสธ เพราะสวยไม่ตรงตาม Beauty Standard มาร่วมแสดงอยู่ในภาพยนตร์โฆษณาชุดดังกล่าว เป็นการประกาศจุดยืนเรื่องความสวยรูปแบบใหม่ของแบรนด์ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำ หรือ Trend Setter ด้านความสวยของไทย

ภายหลังจากการลุกขึ้นมา Rebranding ครั้งใหญ่สุดในรอบ 18 ปี "เซ็ปเป้" หรือ SAPPE ผู้นำตลาดเครื่องดื่ม Functional Drink เพื่อความสวยของไทย เริ่มตั้งแต่การปรับเปลี่ยนชื่อแบรนด์จาก "เซ็ปเป้ บิวตี้ ดริ้งค์" มาเป็น "เซ็ปเป้ บิวติ" (Sappe Beauti) การสื่อสารภาพลักษณ์ Brand Vision ขององค์กรและตัวผลิตภัณฑ์ว่าเป็นแบรนด์ Self Love ผ่านภาพยนตร์โฆษณาที่มีชื่อว่า The Rejected Casts’ ภายใต้แคมเปญ "สวยเรา ไม่ต้องสวยใคร" ในยุคที่นิยามของคำว่า Beauty Standard ของกลุ่มคนรุ่นใหม่คือ Gen Z เปลี่ยนไปไม่เหมือนกับคนรุ่นก่อนๆ ที่เป็น Gen Y และ Gen X อีกแล้ว

โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Z มองเรื่อง Beauty Standard ว่าทุกคนมีความสวยในแบบของตนเอง ไม่ว่าจะสวยแบบไหน ทุกคนสวยหมดและมีคุณค่าในแบบฉบับของตัวเอง ขณะที่กลุ่ม Gen Y และ Gen X คนที่ถูกเรียกว่าสวยจะต้อง ขาว ผอม เป็นลูกครึ่ง จมูกโด่ง ตาคม เท่านั้น ดังนั้น ในฐานะ SAPPE คือผู้นำตลาดที่เป็น Trend Setter ในเรื่องของการเป็น Creative Category กลุ่มเครื่องดื่ม Functional Drink เพื่อความสวยของไทย ซึ่งเมื่อ 18 ปีที่แล้วทำอย่างไรในการเจาะตลาดผู้บริโภคกลุ่ม Gen X และ Gen Y ในยุคสมัยที่ทุกคนยังไม่ค่อยรับรู้ว่า Functional Drink คือ เครื่องดื่มอะไร

มาวันนี้เช่นกันที่ คุณปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เปิดเผยว่า SAPPE คือผู้นำตลาดที่จะมาเป็นTrend Setter สื่อสารให้ผู้บริโภคกลุ่มที่มีอายุ 18-35 ปีขึ้นไป ได้รับรู้ว่า Beauty Standard ของคนรุ่นใหม่ที่เป็น Gen Z อายุระหว่าง 15-25 ปี เปลี่ยนไปและไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ดังนั้นการที่ "เซ็ปเป้ บิวติ" (Sappe Beauti) จะสามารถเข้าไปเจาะตลาดครองใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ ให้หันมาสนใจเครื่องดื่มแนว Functional Drink ในยุคที่ตลาดมีการแข่งขันสูงขึ้น มีเครื่องดื่มที่เป็นแนววาไรตีดริงก์หลากหลายให้เลือกมากขึ้นกว่าอดีต จำเป็นต้อง Rebranding ทั้งตัวผลิตภัณฑ์จาก เซ็ปเป้ บิวตี้ ดริ้งค์ มาเป็น "เซ็ปเป้ บิวติ" (Sappe Beauti) และการใช้วิธีสื่อสาร Branding ผ่านภาพยนตร์โฆษณาที่มีชื่อว่า "The Rejected Casts" ภายใต้แคมเปญ "สวยเรา ไม่ต้องสวยใคร"

เพราะนี่คือกลยุทธ์ที่เป็นหัวใจสำคัญของการเป็น Trend Setter ในตลาดกลุ่มเครื่องดื่ม Functional Drink ของ "เซ็ปเป้ บิวติ" (Sappe Beauti) ใหม่ ที่ต้องปรับตัวตามคนรุ่นใหม่ Gen Z ที่มองเรื่อง Beauty Standard ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ดังนั้น แนวความคิดของการทำภาพยนตร์โฆษณาที่มีชื่อว่า "The Rejected Casts" ภายใต้แคมเปญ "สวยเรา ไม่ต้องสวยใคร" ถือเป็นการฉีกค่านิยมความสวยในวงการบิวตี้ ด้วยการให้โอกาสนักแสดงที่เคยถูกปฏิเสธ เพียงเพราะพวกเขาสวยไม่ตรงตาม Beauty Standard มาร่วมแสดงอยู่ในภาพยนตร์โฆษณาชุดดังกล่าว

ที่ผ่านมา "เซ็ปเป้ บิวติ" เข้าใจในเรื่องนี้ จึงออกแคมเปญ "สวยเรา ไม่ต้องสวยใคร" เพื่อใช้เป็นกระบอกเสียงประกาศความเป็นแบรนด์ที่สนับสนุนให้ทุกคนรักตัวเอง และส่งเสริมความเท่าเทียมกัน เนื่องจากการทำ Insight Marketing พบว่ากลุ่มคน Gen Z จะมีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง แบรนด์นั้นต้องใส่ใจในเรื่องของสังคม สิ่งแวดล้อม มีความเสมอภาค และมีความจริงใจต่อผู้ซื้อด้วย

ดังนั้นภาพยนตร์โฆษณา "The Rejected Casts" ในแคมเปญ "สวยเรา ไม่ต้องสวยใคร" ภายใต้ผู้กำกับมากฝีมือ อย่าง "ต้อม เป็นเอก รัตนเรือง" จึงมีการถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับเบื้องหลังวงการการคัดเลือกนักแสดง โดยได้หยิบเรื่องจริงของ 7 แคสต์ ซึ่งตัวแทนเหล่า Gen Z หลากหลายเพศ มาตีแผ่สัมภาษณ์ประสบการณ์ไม่ผ่านแคสติ้งงานโฆษณา เพราะรูปร่าง สีผิว ใบหน้า ก่อนจะเฉลยออกมาโดย คุณปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ฯ ในฐานะตัวแทนของแบรนด์ที่เชื่อว่า ความหลากหลาย คือความสวย ไม่จำเป็นต้องเทียบกับใคร

นอกจากนี้ยังได้มีการนำภาพยนตร์โฆษณาชิ้นใหม่นี้ขึ้นบนบิลบอร์ดทั่วประเทศ เพื่อเป็นการประกาศจุดยืนเรื่องความสวยรูปแบบใหม่ของแบรนด์ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำ หรือ Trend Setter ด้านความสวยของไทย หวังช่วยจุดประกายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมและสังคม ดันเพดานความสวยให้กว้างและสูงขึ้น สนับสนุนให้วัยรุ่นยุคใหม่มั่นใจในตัวเอง และทุกคนสามารถสวยในแบบตัวเองได้อย่างเท่าเทียม

ขณะเดียวกัน ทางด้านตัวผลิตภัณฑ์ ‘เซ็ปเป้ บิวติ’ ก็ได้มีการออกแบบฉลากขวดใหม่ให้โดนใจ Gen Z มากขึ้น โดยได้นักออกแบบชื่อดัง "สมชนะ กังวารจิตต์" เจ้าของสตูดิโอ Prompt Design ผู้กวาดรางวัลการออกแบบบรรจุภัณฑ์มาแล้วทั่วโลก มาร่วมออกแบบฉลากใหม่ให้ ‘เซ็ปเป้ บิวติ’ ทั้ง 4 สูตร ในคอนเซ็ปต์ ‘โอบกอดตัวเอง’ (Embrace Yourself) ด้วยการใช้ "ดอกไม้ที่มีความหมายสื่อถึงความรักที่ให้กับตัวเอง" มาเป็นองค์ประกอบสำคัญในการออกแบบ ได้แก่
1. สูตรคอลลาสกิน (Collaskin) ขวดชมพู ใช้ดอกคาร์เนชันแทนสัญลักษณ์ของความรักอย่างบริสุทธิ์ใจ
2. สูตรเอส-ลิม (S-lim) ขวดเขียวอ่อน ใช้ดอกลิลลีแทนสัญลักษณ์ของความรักอย่างอ่อนหวาน อ่อนโยน
3. สูตรบิวติท็อกซ์ (Beautitox) ขวดเขียวเข้ม ใช้ดอกทานตะวันแทนสัญลักษณ์แห่งความรักที่ให้กำลังใจ
4. สูตรบิวติ อายส์ (Beauti Eyes) ขวดสีแดง ใช้ดอกเบญจมาศแทนสัญลักษณ์ของความรักที่มีชีวิตชีวา สดใส
ซึ่งแต่ละขวดจะมีรูปคนที่มีความหลากหลายทั้งรูปร่าง เพศ และสีผิว อยู่บนฉลาก

นับเป็นการสื่อสารภาพลักษณ์ใหม่ ที่ชูจุดขายในแต่ละสูตรเพื่อให้สอดคล้องไปกับ Rebranding ครั้งใหญ่สุดของบริษัทในการเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่ม Gen Z มากขึ้น ทั้งในเรื่องของวิธีการสื่อสารตลาดผ่านแคมเปญภาพยนตร์โฆษณาดังกล่าว และการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์ในมุมมองคำว่า Beauty Standard ในยุคใหม่นี้ที่เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เพื่อตอกย้ำให้เห็นว่า 18 ปีที่ผ่านมา เซ็ปเป้ หรือ SAPPE คือผู้นำตลาดที่เป็น Trend Setter ในเรื่องของการ Creative Category กลุ่มเครื่องดื่ม Functional Drink และปัจจุบันเซ็ปเป้ยังเป็นผู้นำ Trend Setter ด้านพลังสื่อสารการตลาด Beauty Standard ว่าทุกคนสามารถสวยในแบบของตัวเองได้อย่างเท่าเทียมกัน

อย่างไรก็ดี ฉลากใหม่ทั้ง 4 สูตร เริ่มวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้ ที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ทุกสาขาและร้านค้าทั่วไป ทั่วประเทศ ราคา 20 บาท หรือสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ Line: @sappeonline และ Shopee: Sappe Official Store หรือติดต่อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Facebook: Sappe Beauti Drink และ Tiktok: Sappeonline

ปัจจุบันภาพรวมตลาด Functional Drink ในปี 2566 ที่ผ่านมามีมูลค่า 7,000 ล้านบาท กลุ่ม Casual Healthy Drink มีมูลค่า 1,300 ล้านบาท เติบโต 1% โดย 2 เดือนแรกของปี 2567 มีการเติบโตอยู่ที่ 3% ขณะที่ผลการดำเนินงานของเซ็ปเป้ในปี 2566 บริษัทมีรายได้จากการขาย 6,052.6 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนยอดขายจากการส่งออกและในประเทศ 81:19 โดยคาดว่าปี 2567 จะมีอัตราการเติบโต 20-25% จากปีก่อน
















กำลังโหลดความคิดเห็น