มูลนิธิวอชด็อกเผยความคืบหน้าคดีแมวถูกเยาวชนฆ่าขึงพืดคว้านท้องตรึงกางเขน ตำรวจเผยพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดอยู่ในสำนวนการสอบสวนแล้ว ยืนยันฝั่งผู้ก่อเหตุต้องชดใช้ค่าเสียหาย เศร้ากฎหมายทำอะไรไม่ได้มาก เหตุยังเป็นเยาวชน
จากกรณีเพจ "มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation - WDT" เผยภาพแมวถูกกรีดท้องจนตายและจับขึงพืดกับแผ่นไม้อัดอย่างน่าหดหู่ ต่อมามีรายงานว่าสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุสุดสยองในครั้งนี้ได้แล้ว โดยเจ้าตัวอ้างว่าป่วยจิตเวช และเป็นโรคซึมเศร้า เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งภาคอินเตอร์ในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเจ้าตัวรับสารภาพว่าลงมือกระทำตามในคลิปที่ปรากฏในสื่อโซเชียลจริง เพราะตนมีอาการซึมเศร้า ป่วยจิตเวช โดยให้การว่าแมวตัวที่ฆ่านั้นกัดแมวตัวเองตาบอด ด้วยความเสียใจจนคุมสติไม่ได้จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าวลงไป
ล่าสุดวันนี้ (22 เม.ย.) เพจ "มูลนิธิวอชด็อก" เผยความคืบหน้าคดีแม่แมวขนุนถูกเยาวชนฆ่าขึงพืดคว้านท้องตรึงกางเขน โดยได้ระบุข้อความว่า
"พ.ต.อ.อานุภาพ ไชยศิริ ผกก.สภ.บ่อหลวง เชียงใหม่ เผยความคืบหน้าของคดีทารุณกรรมแม่แมวขนุนอย่างโหดเหี้ยม
1. ผลชันสูตรและผลตรวจดีเอ็นเอ อยู่ในระหว่างการรอผลจากหน่วยงานที่ส่งตรวจ
2. พยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด หรือหลักฐานที่ผู้เสียหายต้องการทราบ อยู่ในสำนวนการสอบสวนในระหว่างการดำเนินคดีต่อผู้ต้องหา ผู้เสียหายสามารถนัดหมายและขอทราบจากพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้ตามสมควรที่เห็นว่าจะไม่ไปละเมิดกฎหมายในการดำเนินคดีกับเด็กหรือเยาวชน เพราะกฎหมายให้ความคุ้มครองเด็กและเยาวชน พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีอาจถูกร้องเรียนหรือฟ้อง กรณีที่เขาอาจมีส่วนที่ทำให้ข้อมูลของเด็กหรือเยาวชนเผยแพร่ออกไป เพราะเป็นคนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งของฝ่ายสืบสวนและสอบสวน
3. จะมีการประสานงานนัดหมาย การตกลงชดใช้ค่าเสียหาย จากผู้ปกครองของเด็กกับผู้เสียหายแน่นอน แม้ผู้ต้องหาจะเป็นเด็กหรือเยาวชน และกฎหมายทำอะไรไม่ได้มาก แต่ความเป็นธรรมต่อแม่แมวขนุน หรือเจ้าของ ก็จะต้องได้รับอย่างเต็มที่ที่สุด"