สมาชิกในกลุ่มผู้บริโภค สุดเซ็งเจอน้องกบปะปนมาในอาหาร ร้องเรียนไปยังผู้ผลิดทำได้แค่พูดขอโทษ พร้อมมอบผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพก็คือผักสลัดของโรงงาน เป็นการปลอบใจ
วันนี้ (20 เม.ย.) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในกลุ่ม "พวกเราคือผู้บริโภค" หลังตนเองซื้อสลัดผักจากร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง แล้วหลังจากที่รับประทานไปได้สักพัก ก็ได้เห็นลูกกบอยู่ในสลัดผักด้วย จึงได้แจ้งไปยังร้านสะดวก ก่อนที่ทางร้านจะติดต่อผู้ผลิดให้รับทราบและทำได้เพียงขอโทษ คืนเงินและมอบผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเป็นการขอโทษ ทั้งนี้ ผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า
"ทานสลัดผัก นอกจากได้วิตามินแล้ว ยังได้โปรตีนจากน้องกบด้วยนะครับ เรื่องจริงที่เกิดขึ้น แต่ยังไร้ความรับผิดชอบจากเจ้าของบริษัทครับ เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2567 ผมซื้อสลัด จากร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ที่อยู่ใกล้คอนโดที่พัก มารับประทาน เวลาประมาณ 19.34 น โดยปกติแล้ว ผักที่อยู่ในกล่อง จะเต็ม กล่อง ผมจึงใช้วิธีการ รับประทานโดย ค่อยๆเทน้ำสลัดลงไปเป็นชั้น แล้วรับประทานเป็นชั้นๆจากข้างบนลงไปข้างล่าง แต่ด้วยว่าข้างล่างนั้น น้ำสลัดลงไปไม่ถึง พอถึงก้นกล่อง จึงใช้วิธีการคลุก ผสม ให้น้ำสลัดที่ติดอยู่บริเวณขอบ ของภาชนะ ได้เคลือบที่ตัวผัก เมื่อคลุกเคล้า จึงเห็นวัตถุแปลกปลอม ที่อยู่ในผัก พบว่า เป็นลูกกบ จึงได้ทำการถ่ายภาพ และแจ้งไปยัง Call Center ของ ร้านสะดวกซื้อ ทาง Call Center แจ้งกลับมาว่า รับเรื่องและจะส่งต่อ และจะแจ้งบริษัทผู้ผลิต
แต่เนื่องจากว่า วันที่ผมรับประทานอยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทางบริษัท หยุดการผลิต ในช่วงเทศกาล ผมได้ถามว่า แล้วชีวิตผม ต้องหยุด ตามเทศกาลด้วยหรือไม่ พนักงานจึง เร่งดำเนินการ ส่งเรื่องให้อย่างเร่งด่วน หลังจากนั้น 1 ชั่วโมงต่อมา ได้มีพนักงานจากสาขาใหญ่ ของร้านสะดวกซื้อติดต่อกลับมา แล้วแจ้งว่า ได้ส่งอีเมล ไปหาบริษัทผู้ผลิต แต่เนื่องจากวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ โรงงานผลิต ได้ปิดทำการ ต้องใช้เวลา 7-14 วัน ถึงจะทราบผล ผมก็เลยถามว่า ร้านสะดวกซื้อ ปิดใหม่ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ถ้าหลานไม่ปิด ร่างกายผม ก็ปิดไม่ได้เช่นกัน เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต ใครจะรับผิดชอบ และพนักงานคนนี้ ก็พูดประมาณว่า การชดใช้ในเบื้องต้น จะขอคืนเงินค่าสินค้า ราคา 40 กว่าบาท ให้ก่อน
สรุปแล้ว ชีวิตผม มีค่าแค่ 40 กว่าบาทเท่านั้นหรือ ผมไปยื่นคำขาด ขอทราบผลการติดตาม ภายใน 24 ชั่วโมง ถ้าหากเลยเวลาจากนี้ไป ผมจะร้องเรียนสื่อ หลังจากนั้นในตอนเช้า ก็มีพนักงานอีกคนนึง จากสาขาใหญ่ เป็นผู้รับเรื่อง ติดต่อกลับมา ว่าทางบริษัททราบเรื่องแล้ว แล้วกรณีนี้ เป็นกรณีเคสแรก ที่เกิดขึ้น ทางบริษัท รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก จึงจะขอเข้าพบ ในวันศุกร์ ที่ 20 เมษายน 2567 เวลา 10.00 น ผมได้ตอบตกลง และได้มาพบกัน ในวันที่นัดหมาย ทางบริษัท ได้ชี้แจง กระบวนการผลิต ว่าในล็อตสินค้า ที่ลูกค้ารับประทาน เป็นช่วงเวลาที่สินค้าส่งมาจากจังหวัดเชียงใหม่ แล้วก่อนหน้านี้ เกิดพายุ ฤดูร้อน ทำให้ฝนตก น้องอาจจะ กระโดดมาเล่นน้ำฝน แล้วติดมากับผักที่ส่งมา
แต่ทางบริษัท ได้มีการทำความสะอาด ตามระบบ มีการหั่น ตัดแต่งตามขนาด ที่ สาขาใหญ่ของร้านสะดวกซื้อกำหนดไว้ แล้วมีการปั่นแห้ง เพื่อให้น้ำ ออกจากตัวสินค้าให้มากที่สุด แล้วก็บรรจุด้วยมือ วางผลัดเปลี่ยนเป็นชั้นๆก่อนจะปิดผนึก ซึ่งถ้าฟังจากกระบวนการทั้งหมดแล้ว สิ่งแปลกปลอมไม่น่าจะอยู่ทนมาได้ แต่เนื่องจาก พนักงานที่ทำการผลิต เพิ่งรับเข้ามาใหม่ จึงทำให้กระบวนการผลิต ผิดพลาด ทางบริษัทได้แจ้งว่ามีการตักเตือนพนักงานไปเรียบร้อยแล้ว ในวันนี้ก็เลยจะมาขอโทษลูกค้าและจะมอบผลิตภัณฑ์ เพื่อสุขภาพ ก็คือผักสลัดของโรงงาน ซึ่งผมบอกตามตรงเลยว่า ผมไม่กล้ารับประทานอีกแล้ว เพราะ ความรู้สึกฝังใจ กับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คงยาก ที่จะเยียวยา แต่ทางบริษัทและโรงงานผู้ผลิต ก็บอกว่า ทางเรามีนโยบายในการขอโทษและมอบผลิตภัณฑ์เท่านั้น ส่วนเรื่องเยียวยาหรือชดใช้ค่าเสียหายต่างๆทางบริษัทไม่มีนโยบายครับ
เรื่องนี้ก็สรุปจบตรงที่ว่า ผมคือผู้บริโภคที่อยู่ปลายทาง แต่ต้นทางกระบวนการผลิตผลิตมายังไง เราไม่สามารถทราบได้ และผลเสียที่เกิดขึ้นก็ไร้ซึ่งความรับผิดชอบที่เหมาะสม มีเพียงคำขอโทษ และผลิตภัณฑ์ในบริษัท เท่านั้นที่จะปิดปากผู้บริโภค"