คนสนิทนักการเมืองหญิงและสามีเผย ฝ่ายหญิงรู้จักพระมหาหนุ่มมา 2 ปีที่แล้ว ก่อนห่างหายกันไป กระทั่งหมอดูทักให้ไปตามพระหนุ่มกลับมา จึงได้ติดต่อกันอีกครั้ง จากนั้นพระหนุ่มนี้ได้พาไปสนทนาธรรมกับครูบาท่านหนึ่งและดูเรื่องอดีตชาติให้ บอกว่าเป็นเนื้อคู่กัน และพระหนุ่มมักจะพูดเสมอว่าฝ่ายหญิงคือเนื้อคู่ของเขา
จากกรณีที่แฟนเพจเฟซบุ๊กอีซ้อขยี้ข่าวได้โพสต์คลิปหลักฐานขณะพระมหาหนุ่มวัย 24 ปี และหญิงวัย 45 ปี อยู่ในห้องนอนตามลำพังในสภาพเปลือยกาย พร้อมระบุข้อความว่า “พระมหาหนุ่มวัย 24 ปี เสพเมถุนกับแม่บุญธรรมวัย 45 ปี ด้านสามีเกิดระแคะระคาย แอบขับรถจากกรุงเทพฯ กลับมาที่บ้านที่ต่างจังหวัด และได้ถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะถูกทั้ง 2 คนลุกจากเตียงวิ่งเปลือยเข้ามาทำร้ายร่างกาย พยายามเข้ามายื้อแย่งโทรศัพท์เอาไว้”
นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดระบุเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพระมหา กับนางเอ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นภรรยานักการเมือง และเป็นแม่นักแสดงคนหนึ่ง
ต่อมามีการเปิดอักษรย่อ ฝ่ายหญิง อดีตนักการเมืองหญิง ป. วัย 45 ปี เคยลงสมัคร ส.ส.สังกัดพรรคหนึ่ง แต่สอบตก ส่วนฝ่ายชาย เจ้าอาวาสหนุ่ม ห. วัย 24 ปี ทำเอาชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์กันสนั่นถึงการกระทำดังกล่าว และตามหาว่าเป็นใคร
ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 เม.ย. รายงานข่าวแจ้งว่า คนสนิทของนักการเมืองหญิงและสามี ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตนรู้จักกับทั้งคู่ตั้งแต่ก่อนที่จะหมั้นกันแล้ว โดยปกติแล้วฝ่ายชายเป็นคนกรุงเทพฯ มีหน้ามีตาในสังคม ส่วนฝ่ายหญิงมีหน้ามีตาอยู่ในจังหวัดทางภาคเหนือ ทั้งคู่เจอกันภายในงานพิธีแห่งหนึ่งที่วัด จากนั้นจึงได้มีการคุยกันเรื่อยมา และได้หมั้นกันเมื่อปี 2565 ตนก็ได้ร่วมงานหมั้นนั้นด้วย
หลังจากนั้นฝ่ายหญิงก็มีปัญหาเรื่องเงินมาตลอด มักจะให้ฝ่ายชายหาเงินมาให้ แต่ไม่เคยพอสักที ถึงขั้นฝ่ายชายไปกู้หนี้นอกระบบ ขายบ้าน ขายรถหลักล้าน ซึ่งฝ่ายชายรักผู้หญิงมาก เพราะคิดว่าในเมื่อเป็นคู่ชีวิตกันแล้ว เราก็ต้องช่วยเหลือกัน
ก่อนที่ฝ่ายชายจะจับได้ว่าภรรยามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระมหารูปนี้ คือก่อนหน้านี้ฝ่ายหญิงรู้จักกับพระรูปนี้มาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เพราะว่าเคยเป็นเจ้าอาวาสที่วัดแห่งหนึ่ง แต่ก็ห่างหายกันไปประมาณ 2-3 ปี กระทั่งมีหมอดูคนสนิทของผู้หญิงทักมาว่า ให้ไปตามพระรูปนี้กลับมา ก็เลยทำให้ทั้งคู่ได้กลับมาติดต่อกันอีกครั้ง
เมื่อช่วงต้นเดือน ก.พ.พระรูปนี้ได้มาทำพิธีที่บ้านของฝ่ายหญิง โดยในพิธีนั้นมีสามีผู้หญิงอยู่ด้วย พระรูปนี้อ้างว่าเป็นการทำพิธีเพื่อเรียกเงินเรียกทอง ให้ธุรกิจดีขายที่ดินได้ จากนั้นพระรูปนี้ได้มาบอกผู้หญิงให้พาไปทำบุญที่วัดต่างๆ พาไปสนทนาธรรมกับครูบาท่านหนึ่งและท่านได้ดูเรื่องอดีตชาติให้ พระรูปนี้มักจะพูดเสมอว่าฝ่ายหญิงคือเนื้อคู่ของเขา แต่ในตอนนั้นตัวของสามียังไม่ได้ระแคะระคายอะไร
ต่อมาพระรูปนี้ยังพาไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ พยายามพูดหว่านล้อมเพื่อให้ฝ่ายชายรับพระรูปนี้เป็นลูกบุญธรรมต่อหน้าพระองค์ใหญ่ ด้วยความที่ฝ่ายชายเป็นคนเชื่อเรื่องธรรมะมาก จึงได้พูดขึ้นมาว่า จะรับพระรูปนี้เป็นลูกบุญธรรม
หลังจากที่ทุกคนได้ทำบุญกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้ไปค้างคืนที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง จากนั้นมีคนเห็นว่าฝ่ายหญิงยืนกอดกับพระรูปนี้อยู่ แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไร
กระทั่งวันรุ่งขึ้นที่ทุกคนออกไปซื้อของกันหมด เหลือเพียงแค่พระรูปนี้กับฝ่ายหญิงที่อยู่กันที่รีสอร์ต เมื่อกลับมาเห็นว่าผู้หญิงกับพระอยู่ด้วยกันสองคนในห้อง แล้วล็อกประตูด้วย เมื่อฝ่ายหญิงเห็นว่าทุกคนกลับมาหมดแล้ว ก็อ้างว่า "สวดมนต์อยู่ ไม่อยากให้ใครรบกวน" แต่ในตอนนั้นสามีก็ยังไม่ระแคะระคายอะไร เพราะเชื่อใจผู้หญิงคนนี้มาก
ต่อมาช่วงเดือน มี.ค. ฝ่ายชายไม่ได้กลับบ้านที่ต่างจังหวัดเท่าไหร่ เพราะต้องทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ แล้วส่งเงินมาให้ภรรยา ซึ่งในช่วงเดือนนั้นสังเกตเห็นว่าพฤติกรรมของภรรยาเปลี่ยนไป โทร.หารับสายบ้างไม่รับสายบ้าง และมีคนใกล้ชิดให้ข้อมูลว่าพระรูปนี้ได้เดินทางมาหาภรรยาที่บ้านในช่วงกลางคืนบ่อยครั้ง บางครั้งฝ่ายหญิงเป็นคนออกไปหาพระรูปนี้ที่วัดด้วย
ส่วนเหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 มี.ค. ฝ่ายชายได้รับข้อมูลจากคนสนิทว่า พระรูปนี้ได้มานอนค้างที่บ้าน โดยนอนอยู่ในห้องนอนของฝ่ายชายและภรรยา ตอนนั้นโกรธมาก จึงรีบขับรถมาที่บ้านในจังหวัดสุโขทัย จากนั้นก็เปิดประตูห้องนอนไปพบว่าพระรูปนี้นอนเปลือยกายอยู่บนเตียงกับภรรยาของตัวเอง และในห้องก็พบสบง จีวรและสายรัดประคด ถอดอยู่ปลายเตียงด้วย ทำให้ฝ่ายชายรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพเอาไว้
ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้ ฝ่ายหญิงก็พยายามอธิบายกับสามีว่า "น้ำห้องพระไม่ไหล เลยมาอาบน้ำห้องของเขา" แต่ภาพที่เห็นคือทั้งคู่นอนเปลือยกายกอดกันอยู่ สุดท้ายทั้ง 2 คนก็เลิกรากันไป โดยฝ่ายชายทั้งเสียใจและโกรธมาก เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ และไม่คิดว่าพระจะมาทำพฤติกรรมแบบนี้ด้วย