กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพสร้างปรากฏการณ์ส่งวีทีอาร์สื่อแนวใหม่ กระจายทุกแพลตฟอร์ม หวังยกระดับกลุ่ม LGBTQ+ ตอบโจทย์ทุก Generation
นางสาวเอมอร เสียงใหญ่ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า “ที่ผ่านมาประเทศไทยเปิดกว้างและยอมรับความหลากหลายทางเพศมากที่สุดประเทศหนึ่งในเอเชีย และกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ได้ผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมอย่างเต็มที่ การต่อสู้ที่ยาวนาน 23 ปี จากหลากหลายองค์กร หลากหลายกลุ่ม เพื่อยกระดับความเท่าเทียมทางเพศ
ณ วันนี้ เราได้ทําให้เห็นแล้วว่า คู่รักเพศเดียวกันในประเทศไทยจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลง ทางกฎหมายที่สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อสังคมไทยสู่ความเท่าเทียมทางเพศสภาพอย่างสมบูรณ์ รวมทั้งวิสัยทัศน์ของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพถือเป็นองค์กรในการส่งเสริม คุ้มครอง และสร้างหลักประกันสิทธิเสรีภาพ และสิทธิมนุษยชน สู่ความเป็นสากล
ครั้งนี้จึงได้ผุดโปรเจกต์ผลิตสื่อแนวใหม่ในรูปแบบของมิวสิกวิดีโอ หนังสั้นอารมณ์ขัน และสื่อรณรงค์ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนทุกเพศทุกวัย เข้าใจได้ง่ายกับทุกกลุ่ม Generation สร้างการรับรู้ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ และให้ประชาชนได้ตระหนักเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพในการคุ้มครอง ช่วยเหลือ เยียวยาในเบื้องต้น เพื่อให้ประชาชนได้รับการคุ้มครองและดูแลจากรัฐอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านสื่อวิดีโอ 3 เรื่อง ได้แก่
1. “รักที่เฝ้ารอ Love (Possible ?)” มิวสิกวิดีโอเพลง หนึ่งนาทีก็รอไม่ไหว เพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับสิทธิของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) ผ่านผลักดันร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ (ฉบับที่...) พ.ศ. .... หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภา โดยเป็นการถ่ายทอดผ่าน MV บรรยากาศ Feel Good ที่บอกเล่าเรื่องราวความรักความผูกพันที่ไม่ได้จํากัดด้วยเพศสภาพ ความสวยงามของความหลากหลายทางเพศ โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพหวังว่าความรักฯ ดังกล่าวจะได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการในเร็ววันนี้
2. “ผมไม่ไปได้มั้ยครับ?” หนังสั้นจําลองสถานการณ์เรื่องการคุ้มครองบุคคลทุกคน ตามพระราชบัญญัติป้องกัน และ ปราบปรามการทรมานและกระทําให้บุคคลสูญูหาย พ.ศ. ๒๕๖๕ ผ่านรูปแบบอารมณ์ขัน สะท้อนให้ทุกคนตระหนักว่า สิทธิในกระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องที่เราต้องช่วยกัน โดยนํากรณีตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาเล่าเรื่องราว ให้เห็นขั้นตอนในการจับกุม หรือควบคุมตัว อันเป็นการจํากัดเสรีภาพของบุคคล
3. “เห็นต่าง…โดยชอบธรรม” นําเสนอในรูปแบบวีทีอาร์สื่อรณรงค์ ให้ความรู้เรื่องของการชุมนุมที่สร้างสรรค์และถูกวิธี ดําเนินอยู่บนหลักระบอบประชาธิปไตย เพราะสิทธิเสรีภาพการชุมนุมโดยสงบเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่ประชาชนควรรู้ ทั้งหมดนี้คือภารกิจสำคัญของพวกเรา “คุ้มครองคน คุ้มครองสิทธิ สร้างวิถีชีวิตแห่งความเป็นธรรม”
ติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook Fanpage กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพและ TikTok กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ สายด่วนยุติธรรม โทร. 1111 กด 77 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที้ กรมคุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพ โทร. 09-5356-1519 หรือ โทร. 08-3989-9562