เฟซบุ๊ก Chula BAKA อธิบายคอนเซ็ปต์อัญเชิญพระเกี้ยวบนรถกอล์ฟ บอกของที่แต่งรกๆ ด้านบนรถคือสัญลักษณ์ ตัวแทนแห่งองค์ความรู้ของศาสตร์แขนงต่างๆ ใช้พลาสติกใช้แล้วมาใช้ซ้ำ อ้างความยั่งยืน
วันนี้ (2 เม.ย.) จากกรณีที่การแข่งขันฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ 2024 ซึ่งจัดขึ้นโดยองค์การบริหารสโมสรนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อบจ.) นำโดย น.ส.ธนพร คูชัยยานนท์ นายก อบจ. และองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) นำโดย นายคุณากร ตันติจินดา นายก อมธ. เมื่อวันที่ 31 มี.ค. กลายเป็นที่วิจารณ์ถึงรูปแบบการจัดงานที่เปลี่ยนไป ทั้งการนำจอแอลอีดีแปรอักษรแทนการใช้นิสิตหรือนักศึกษาของแต่ละสถาบัน รวมไปถึงการอัญเชิญพระเกี้ยวไปกับรถกอล์ฟคันเล็กๆ แทนการแบกเสลี่ยง พร้อมตกแต่งด้านบนแบบรกๆ ถูกวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสมนั้น เฟซบุ๊ก Chula BAKA โพสต์ข้อความอธิบายดังนี้
"พระเกี้ยว เป็นสัญลักษณ์สำคัญที่ชาวจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยภาคภูมิใจ สืบเนื่องจากชื่อของมหาวิทยาลัยที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้พระราชทานกำเนิดมหาวิทยาลัย
โดยขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ 2024 ในครั้งนี้ เหล่านิสิตได้ตั้งใจเป็นอย่างยิ่งในการคัดสรรสัญลักษณ์ ตัวแทนแห่งองค์ความรู้ของศาสตร์แขนงต่างๆ มารายล้อมในขบวนอัญเชิญพระเกี้ยว อันประกอบไปด้วย
• เข็มฉีดยาและขวดชมพู่ ตัวแทนของ วิทยาศาสตร์สุขภาพและวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี
• หนังสือเล่มหนา ตัวแทนของ สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์
• ไม้ฉากเรขาคณิต ตัวแทนของ คณิตศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์
• เกียร์ ตัวแทนของวิศวกรรมศาสตร์
• สเลตฟิล์ม ตัวแทนของนิเทศศาสตร์
• ดัมบ์เบล ตัวแทนของวิทยาศาสตร์การกีฬา
• จานสี ตัวแทนแห่งศาสตร์ศิลปะ
โดยสัญลักษณ์เหล่านี้ที่อยู่รายล้อมพระเกี้ยวกำลังถูกขับเคลื่อนด้วยรถไฟฟ้า เปรียบเสมือนองค์ความรู้ที่อยู่คู่กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้พัฒนาวงการต่างๆ ในประเทศไทยและในระดับโลก ในทุกยุคสมัย ขณะเดียวกันก็ได้กลับมาโอบอุ้มให้มหาวิทยาลัยก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงแข็งแรง สอดรับกับพันธกิจของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอีกด้วย
นอกจากนี้ อีกสิ่งประดับตกแต่งขบวนที่ทุกท่านเห็นได้ก็คือ “อะตอม” ที่สื่อถึงส่วนประกอบเล็กๆ ที่เมื่อรวมกันจะกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เปรียบเสมือนความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของนิสิต บัณฑิต และบุคลากรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ร่วมแรงร่วมใจไปสู่การเป็นสถาบันเสาหลักที่ยั่งยืนของประเทศ
อีกทั้งขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวในครั้งนี้ยังถูกตกแต่งด้วยดอกไม้จากพลาสติกที่ใช้แล้ว นำกลับมาใช้ซ้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างสอดคล้องกับแนวคิดของงานนั่นคือ Unity to Sustainability และร้อยเรียงเป็น “พวงดอกกล้วยไม้ที่ผลิบาน” ดั่งโบราณว่า “กล้วยไม้มีดอกช้า ฉันใด การศึกษาเป็นไป เช่นนั้น แต่ดอกออกคราวไร งามเด่น การศึกษาปลูกปั้น เสร็จแล้วแสนงาม”
ทั้งนี้ ทางคณะผู้จัดงานน้อมรับฟังทุกความคิดเห็น และยินดีนำไปปรับปรุงเพื่อพัฒนาต่อยอดให้ดียิ่งขึ้นในอนาคตต่อไป"