แหล่งข่าวใน วปอ.แก้ตัวแทน “โจ๊ก” ให้ลูกน้องปลอมลายเซ็นซ้อมรับปริญญาและเข็ม วปอ.ไม่ผิด อ้างระเบียบที่กำหนดเป็นแค่ข้อตกลงภายใน ให้ส่งผู้แทนไปซ้อมได้ ถามกลับ ทำไมคนไปแทนไม่เซ็นชื่อตัวเอง มีฎีกาชัด ปลอมลายเซ็นแอบอ้างเป็นคนอื่นผิดกฎหมาย จี้ “สุทิน” - บิ๊ก วปอ.ทำอะไรสักอย่าง อย่าให้ลูกน้องปล่อยข่าวพล่อยๆ
ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก”เมื่อวันศุกร์ที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการได้กล่าวถึงกรณี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่เข้าซ้อมรับเข็มและซ้อมรับปริญญาของ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 65 เพราะตัวเองไม่อยู่ประเทศไทยในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2567 แต่ได้ส่งลูกน้องเข้าไปซ้อมแทนและปลอมลายเซ็นแอบอ้างว่าเป็น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เข้าร่วมซ้อมด้วยตัวเอง
ทั้งๆ ที่ วปอ. เป็นหลักสูตรสำคัญของประเทศ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานปริญญาบัตร ให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 10 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมาด้วย ทั้งนี้ ระเบียบในการรับพระราชทานปริญญาบัตรเขียนไว้ชัดเจนผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตรนี้ต้องเข้าร่วมการซ้อมย่อยอย่างน้อย 2 ครั้ง และต้องเข้ารับการซ้อมใหญ่จึงจะได้เข้าร่วมพิธีวันจริง
ต่อมาเมื่อ วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม 2567 พ.ต.อ.กฤษณะพงศ์ กัญจน์ชัยกิจ รองผู้บังคับการกองร้องทุกข์ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และ พ.ต.อ.พัลลภ สุภิญโญ รอง ผบก.สส.บช.ภ.2 กรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้ พ.ต.อ.พัลลภปลอมลายเซ็นแทนตนเองในการซ้อมพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 65 โดยตั้งข้อหาว่าเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
ทั้งนี้ ตั้งแต่มีข่าวเรื่องนี้แพร่สะพัดออกไปวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ไม่เคยออกมาชี้แจงใดๆแต่พอวันอังคารที่ 26 มีนาคม 2567 ภายหลังจากที่ พ.ต.อ.กฤษณะพงศ์ เข้าไปแจ้งความดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และลูกน้อง กลับมีข่าวแพร่ไปตามสำนักข่าวต่าง ๆ โดย พาดหัวว่า “วปอ. การันตี เอาผิด "บิ๊กโจ๊ก" ไม่ได้ ปมส่งลูกน้องปลอมลายเซ็นซ้อมพิธีพระราชทานปริญญาบัตรและรับเข็มพระราชทาน วปอ. รุ่นที่ 65 ชี้เป็นข้อกำหนดภายใน ใครไม่ว่างส่งผู้แทนมาได้”
อ่านพาดหัวข่าวเผิน ๆ อาจนึกว่า ผู้อำนวยการหลักสูตร วปอ. หรือ นายทหารใหญ่ในวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรออกมาให้ข่าว หรือ ให้สัมภาษณ์
แต่พอเข้าไปอ่านเนื้อข่าวกลับไม่มีชื่อ นายทหาร หรือ ผู้บริหารหลักสูตร วปอ. คนไหนที่ออกมาให้สัมภาษณ์ อ้างแต่เพียงว่าออกมาจากแหล่งข่าวจาก วปอ. ที่แก้ตัวแทน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ว่า การซ้อมพิธีดังกล่าวมีการแจ้งตารางการซ้อมไว้อย่างชัดเจน โดยนักศึกษาสามารถส่งตัวแทนมาแทนตนได้หากไม่ว่าง ซึ่งรวมถึงการซ้อมถ่ายรูปหมู่ด้วย
“การที่ พ.ต.อ.พัลลภ เซ็นชื่อแทน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นั้น เปรียบเสมือนการเซ็นเพื่อแสดงว่าเป็นตัวแทนมาฝึกซ้อมและถ่ายรูปแทน ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะนักศึกษาหลายคนที่ไม่ว่างก็ส่งตัวแทนมาแทนเช่นกัน แต่คนที่มาเซ็นแทนอาจจะพลาดที่ไม่ได้วงเล็บระบุว่าเป็นผู้แทน
“การส่งตัวแทนมาเป็นเพียงข้อกำหนดภายในเท่านั้น และไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ เนื่องจากเป็นการแจ้งและตกลงกันเองภายในระหว่างนักศึกษา อีกทั้งการที่ พ.ต.อ.พัลลภเซ็นแทนก็มิได้มีผลอันใดในทางกฎหมาย เพราะตามข้อกำหนดสามารถส่งผู้แทนมาดำเนินการแทนได้” แหล่งข่าวอ้าง
นายสนธิ กล่าวว่าประเด็นที่เป็นคำถามก็คือแหล่งข่าวจาก วปอ.ที่ว่านั้นคือใคร ? เป็นตัวแทน หรือผู้บริหารที่มีอำนาจของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรหรือไม่?
การที่แหล่งข่าวอ้างว่า “คนที่มาเซ็นแทนอาจจะพลาดที่ไม่ได้วงเล็บระบุว่าเป็นผู้แทน,เป็นการตกลงกันเองภายในระหว่างนักศึกษา,เซ็นแทนก็มิได้มีผลอันใดในทางกฎหมาย” พูดแบบนั้นเหมือนพูดพล่อย ๆ เพราะในระเบียบของ วปอ.ที่ลงนามโดย น.อ.เนติภัทร ภัทร์กุลชัย ผอ.กพศ.วปอ.สปท.กำหนดชัดเจนว่า “นักศึกษาที่จะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรฯ จะต้องเข้ารับการซ้อมย่อย อย่างน้อย 2 ครั้ง และต้องเข้ารับการซ้อมใหญ่ทุกคน”
ยิ่งไปกว่านั้น การลงลายมือชื่อคนอื่นถือเป็นความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร และมีโทษทางกฎหมายทั้งจำทั้งปรับ แม้เจ้าของลายเซ็นนั้นจะยินยอมแล้วหรือไม่ก็ตาม ซึ่งระดับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และ พ.ต.อ.พัลลภ จะไม่รู้เชียวหรือ แล้วถ้าบริสุทธิ์ใจ ทำไม พ.ต.อ.พัลลภ ไม่เซ็นชื่อตัวเอง แล้ววงเล็บว่า “แทน” ?
“ท่านผู้ชมครับ ท่าน ผอ. วปอ. ครับ เราไม่ต้องไปเรียน วปอ. หรอก ไปถามนักศึกษา นิสิต ที่เรียนนิติศาสตร์ตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็ได้ว่าการลงลายมือชื่อแทน หรือการเซ็นชื่อแทนกันนั้นถูกกฎหมายหรือเปล่า
“คุณไปดูฎีกาที่ 1020/2517 และ 1572/2557 ดู เพราะฉะนั้นแล้ว การที่สุรเชษฐ์ หักพาล ให้คนอื่นลงชื่อแทนตน ย่อมมีความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้ผู้ปลอมขึ้นซึ่งเอกสาร และเมื่อสุรเชษฐ์ หักพาล ได้นำมาแจ้งและใช้ต่อพนักงานวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ทั้งๆ ที่ไม่ได้เข้าร่วมซ้อมจริง ประชาชนทั่วไปย่อมเข้าใจได้ว่า สุรเชษฐ์ หักพาล ได้เข้าร่วมซ้อมย่อยจริง ย่อมทำให้ประชาชนอื่น และวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) เสียหาย
“ท่านผู้ชมครับ ผมอยากจะเตือนไปถึง วปอ. และคุณสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และประธานคณะกรรมการสภา วปอ. และ พล.ท.สมยศ ฉันทวรลักษณ์ ผู้อำนวยการ วปอ. อีกครั้ง พวกคุณต้องออกมาเทกแอกชัน ไปปล่อยข่าว ให้ลูกน้องคุณปล่อยข่าวแบบนี้ ทำให้คนเข้าใจว่า วปอ. มาพูดพล่อยๆ ไม่ได้ เพราะหลักสูตร วปอ. นั้นมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เป็นสถาบันการศึกษาชั้นสูงของประเทศ ก็คุณมีระเบียบเอาไว้แล้ว แล้วไม่ทำตามระเบียบ แล้วคุณมาบอกว่าทำแทนกันได้ คุณจะบ้าหรือเปล่า” นายสนธิกล่าว