โครงการดี ๆ ที่หลายคนรอคอยกลับมาอีกครั้ง สำหรับ “โครงการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม ปี 10” เรียลลิตี้ธรรมะเข้าถึงง่ายจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ และทรู คอร์ปอเรชั่น ที่มุ่งมั่นเผยแผ่พระพุทธศาสนา ปลูกความรู้ให้กับเยาวชนไทยผ่านการเรียนรู้ธรรมะและกิจกรรมพิเศษมากว่า 10 ปี โดยครั้งนี้กลับมาภายใต้แนวคิด “ความรักจักรวาล: รัก-เรียน-เพียร-ให้” บทเรียนที่รวมไว้ด้วยความหมายของรักแท้ ความเมตตา ความกตัญญู ตามหลักธรรมคำสอน โดยเปิดห้องเรียนธรรมะถ่ายทอดสดพร้อมกัน ณ สถานปฏิบัติธรรมธวีธรรม (ไร่แสงงาม) อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เริ่ม 18 เมษายนนี้
โครงการ “สามเณร ปลูกปัญญาธรรม” มาจากแนวคิดริเริ่มโดยนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และประธานกรรมการ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ที่มุ่งเผยแพร่ความรู้ คุณธรรม และจริยธรรมตามแนวทางพระพุทธศาสนา เพื่อให้เยาวชนคนรุ่นใหม่เรียนรู้และน้อมนำหลักธรรมไปปฏิบัติเพื่อพัฒนาตนเอง โดยนำเสนอผ่านการถ่ายทอดสดเรื่องราวชีวิตของ 12 เยาวชนตลอดระยะเวลา 31 วัน
“ในวาระที่ครบรอบ 10 ปี ผมอยากจะกล่าวถึงจุดเริ่มต้นของโครงการ ซึ่งผมมีโอกาสและความตั้งใจที่จะบวชให้กับคุณแม่ พร้อมกับลูกชายคนโตในวัย 3 ขวบ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมได้เข้าถึงพระพุทธศาสนาจริง ๆ และมีการบวชเรียน ซึ่งก็ต้องอยู่ในศีลของพระแล้วก็ได้เห็นสามเณรที่เป็นผู้ที่อยากรู้อยากเห็น เป็นผู้ที่มีข้อสงสัยมากมาย เป็นผู้ที่ต้องการได้รับคำตอบเกือบจะทุกเรื่อง ผ่านความเมตตาของพระผู้ใหญ่”
“เรารู้สึกได้ถึงเมตตา โอกาส และความโชคดี โชคดีที่ว่าคือเราได้เดินทางสู่ 13 ปีที่ได้ดำเนินโครงการนี้มาและได้ทำรายการเป็นปีที่ 10 ช่วงเวลาที่ผ่านมาก็เป็นช่วงเวลาที่เราได้มีโอกาสนำเสนอหลักธรรมให้กับน้อง ๆ สามเณร ซึ่งผมรู้สึกโชคดีเช่นเดียวกันที่น้อง ๆ สามเณรทุกรุ่นได้กลายเป็นผู้ที่มาเสียสละ เป็นสื่อกลางให้กับสังคมทั้งในประเทศเรา จนกระทั่งในต่างประเทศได้เข้าถึงหลักธรรม”
“ทั้งนี้ ขอใช้โอกาสนี้ขอบคุณต่อหลวงพ่อ ท่านเจ้าอาวาส พระพี่เลี้ยงที่เข้ามาอบรม ตลอดจนทีมงานผู้ที่เกี่ยวข้อง และแน่นอนคือพ่อ แม่ ผู้ปกครองทุกคนที่มีจิตใจสาธารณะ โอบอ้อมอารีหวังดีต่อลูก แล้วก็หวังดีต่อสังคมโดยรวม” นายศุภชัย กล่าว
ทั้งนี้ ความพิเศษของในวาระครบ 1 ทศวรรษ นายศุภชัย กล่าวว่า โครงการสามเณร ปลูกปัญญาธรรมนับเป็น 10 ปี ของการดำเนินโครงการผ่านความตั้งใจหลักคือการมุ่งมั่นมีส่วนร่วมทำนุบำรุงและดำรงให้พระพุทธศาสนาคงอยู่สืบไปอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ดี ความพิเศษในปีนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์และทรู คอร์ปอเรชั่น ตั้งใจสานต่อเพื่อบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และเพื่อบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
อีกทั้ง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เฉลิมพระเกียรติฯ รัชกาลที่ 10 เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จะทรงเจริญพระชนมพรรษา 92 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2567 สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี จะทรงเจริญพระชนมพรรษา 46 พรรษา ในวันที่ 3 มิถุนายน 2567 ตลอดจนร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์
นอกจากนี้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างเป็นล้นพ้นที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าไตรสำหรับพระอุปัชฌาย์ในพิธีบรรพชาสามเณรปลูกปัญญาธรรมปีที่ 10 ในวันที่ 21 เมษายนนี้
ปีนี้โครงการ “สามเณร ปลูกปัญญาธรรม” ปี 10 จัดสัญจรสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในสถานปฏิบัติธรรมธวีธรรม จ.นครราชสีมา โดยได้รับความเมตตาจากพระราชภาวนาวชิรญาณ วิ. (หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี) เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ เป็นพระอาจารย์ใหญ่ อบรมดูแลเหล่าสามเณรทั้ง 12 รูปตลอดการบรรพชา ภายใต้แนวคิด “ความรักจักรวาล : “รัก” ตนเองในทางที่ถูกต้อง – “เรียน” แนวทางการปฏิบัติตามหลักธรรม – “เพียร” ปฏิบัติธรรม เพื่อขจัดขัดเกลากิเลส – “ให้” ความรักต่อสรรพสิ่ง ฝึกการเป็นผู้ให้ที่บริบูรณ์
ซึ่งในปีนี้จะได้มีการเรียนรู้ธรรมะ “ทศบารมี คุณธรรมความดี 10 ประการ” ที่พระพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญ เป็นแบบอย่างที่สามเณรทั้ง 12 รูป จะได้บำเพ็ญปฏิบัติตามในตลอดการบรรพชา 1 เดือนเต็มจะได้เรียนรู้ผ่านเรื่องราว “ทศชาติชาดก” 10 อดีตชาติสุดท้ายก่อนมาประสูติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ ในแต่ละชาติบอกเล่าเรื่องราวการบำเพ็ญบารมีไว้ในแต่ละด้าน เช่น มหาชนกชาดก ทรงบำเพ็ญวิริยบารมี เวสสันดรชาดก ทรงบำเพ็ญทานบารมี เป็นต้น
รวมถึงสอดแทรกจัดกิจกรรมที่จะทำให้เจริญธรรมอย่างเข้าใจและสนุกยิ่งขึ้น ให้เหล่าสามเณรได้มีคุณธรรมในจิตใจ เติบโตอย่างผู้มีศีลธรรมและพร้อมเป็นผู้สร้างคุณงามความดีไปสู่สังคมในวงกว้างต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้รับความเมตตาจากพระเถระชั้นผู้ใหญ่ อาทิ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร และพระพรหมวชิรสุธี – เจ้าอาวาสวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก เป็นที่ปรึกษาฝ่ายสงฆ์ รวมทั้งได้รับเกียรติจาก พระเทพปวรเมธี ผู้รักษาการเจ้าอาวาส วัดมหาจุฬาลงกรณราชูทิศ พระไพศาล วิสาโลเจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต จ.ชัยภูมิ พระราชวัชรธรรมภาณี (สง่า สุภโร) เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์ พระเมธีวชิโรดม (ว. วชิรเมธี) ประธานมูลนิธิวิมุตตยาลัย รวมถึงพระวิทยากรกลุ่มธรรมะอารมณ์ดี
ซึ่งการจัดโครงการฯ ครั้งนี้มี ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา พล.อ. ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นที่ปรึกษาฝ่ายฆราวาส ตลอดจนมีคณะผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้มีชื่อเสียงระดับประเทศมาร่วมรายการ อาทิ ครูเบิร์ด-บุญพงษ์ พานิช ผู้ก่อตั้งโรงละครเพื่อการพัฒนาทักษะการเรียนรู้แบบนักปราชญ์ หมอล็อต น.สพ.ภัทรพล มณีอ่อน นายสัตวแพทย์สัตว์ป่าคนแรกของไทย ร่วมด้วย เอ๊าะ-กีรติ เทพธัญญ์ แคน-อติรุจ กิตติพัฒนะ อัค-อัครัฐ นิมิตชัย และเซ้นต์-ศุภพงษ์ อุดมแก้วกาญจนาที่จะมาร่วมศึกษาธรรมะไปกับเหล่าสามเณร
และสุดพิเศษปีนี้จะได้พบกับการกลับมาของอดีตสามเณรทั้ง 10 รุ่น (รวมรุ่นนานาชาติ) ที่จะมาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ของแต่ละคน ที่เคยได้ร่วมโครงการพร้อมกับ 10 กิจกรรมสุดประทับใจที่จะถูกคัดสรรมาให้สามเณรได้เรียนรู้อีกครั้งอาทิ บวชต้นไม้ เรียนธรรมะผ่านการวาดทราย ฝึกสมาธิผ่านการปั้นดินเหนียว กระจกสะท้อนความดี นิทานธรรมจากสวนในขวด และสร้างงานศิลปะจากวัสดุเหลือใช้ รวมไปถึงการมุ่งเน้นเรื่องการฝึกปฏิบัติสมาธิอีกด้วย
“สุดท้ายนี้ ผมอยากจะฝากไปถึงเด็ก ๆ ที่เข้ามาสมัครแต่ยังไม่ได้รับการคัดเลือก ซึ่งเป็นจำนวนที่เยอะมากใน 10 ปีผ่านมา ซึ่งผมมองเห็นความตั้งใจอันดีของเด็ก ๆ และผมไม่อยากจะให้ละทิ้งความตั้งใจตรงนี้ไป แม้จะยังไม่ได้รับเลือก เพราะหลักธรรมคำสอนถือเป็นการเรียนรู้ที่ดีและเป็นการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา หรือทำด้วยตนเองได้ ทุกอย่างอยู่ที่ใจของเรา” นายศุภชัย กล่าวทิ้งท้าย
ในขณะเดียวกันมีการเปิดตัวว่าที่สามเณร โดยมีเยาวชนผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจำนวน 12 คน อายุระหว่าง 7-12 ปี จากผู้สมัครทั่วประเทศ 5,800 คน โดยแต่ละคนมีความตั้งใจและมุ่งมั่นในการศึกษาพระธรรม ซึ่งผู้ที่ผ่านการคัดเลือกประกอบด้วย 1. ด.ช.รุ่งรดิศ พันธุ์สวัสดิ์ (ชายเพชร) อายุ 9 ปี จ.สุราษฎ์ธานี “ผมตั้งใจจะบวชให้คุณพ่อที่เสียชีวิต และอยากให้แม่ได้มีความสุขที่ผมพัฒนาตัวเองและเป็นเด็กที่เข้มแข็งครับ” 2. ด.ช.กรณ์กวี ตั้งสกุลยิ่งเจริญ (อาโป) อายุ 7 ปี จ.นนทบุรี “ผมคิดว่าเป็นสามเณรไม่ยาก จะพยายามเป็นสามเณรที่ดีให้ได้เพราะอยากซนให้น้อยลงและมีสมาธิมากขึ้นครับ”3 .ด.ช.บดินทร์ จอมทึก (พีพี) อายุ 7 ปี จ.นครราชสีมา “ผมอยากทำสิ่งใหม่ ๆ และผมมีสนใจจะศึกษาธรรมะให้มากขึ้นและนั่งสมาธิให้เก่งขึ้นครับ”
4. ด.ช.กันตวัฒน์ เศรษฐวงศ์ (ฮัน) อายุ 9 ปี กรุงเทพฯ “อยากบวชให้คุณตาคุณยายครับ และเป็นการฝึกตัวเองทั้งในเรื่องความอดทนและความกล้าแสดงออก” 5. ด.ช.รัชชานนท์ จินตกสิกรรม (ข้าวใหม่) อายุ 9 ปี จ.ปทุมธานี “ผมอยากทำสิ่งดี ๆ เพื่อพ่อแม่ อยากให้พ่อแม่ได้บุญและมีความสุข ผมจะพยายามปรับเปลี่ยนตนเองให้ดีขึ้นครับ” 6. ด.ช.อมตะ สุดวิเวก (แตงไท) อายุ 10 ปี จ.นครราชสีมา “การบวชเป็นสามเณรเป็นความตั้งใจตั้งแต่ยังอยู่อนุบาลครับ ผมอยากบวชให้ปู่และย่า อยากให้ปู่และย่าได้เห็นผ้าเหลือง” 7. ด.ช.ปรมะ โกสุมสุรังค์ (ข้าวเจ้า) อายุ 9 ปี กรุงเทพฯ “ผมเคยบวชมาแล้วครั้งหนึ่งและอยากบวชอีก เพราะชอบและอยากเรียนรู้ธรรมะเพิ่มขึ้นครับ”
8. ด.ช.กอบุญ รุธิรโก (อู๋) อายุ 10 ปี กรุงเทพฯ “ติดตามรายการแล้วรู้สึกชอบครับ เชื่อว่า ถ้าได้บวชจะได้เรียนรู้ธรรมะ ฝึกสมาธิ และฝึกตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้นครับ” 9. ด.ช.สารัฐ เจริญวงศ์ฤกษ์ (สารัฐ) 7 ปี จ.ร้อยเอ็ด “ผมฟังธรรมะจากท่าน ว กับแม่ทุกเช้าและอยากลองบวช อยากรู้ว่าธรรมะคืออะไร มั่นใจครับว่า ผมอยู่ได้แน่นอน” 10. ด.ช.ธนเดช ธรรษพิทยะ (ภูผา) อายุ 7 ปี กรุงเทพฯ “การบวชครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีที่ผมจะได้เรียนรู้และอบรมนิสัย เพื่อที่จะได้เป็นคนดีและมีวินัยมากขึ้นครับ” 11. ด.ช.ภทรกร หิรัญโชติ (กร) อายุ 10 ปี จ.นครปฐม “ผมคิดว่า การบวชจะทำให้ผมรู้บทสวดมนต์มากขึ้น มีสติ และสมาธิสำคัญที่สุดคือได้รู้คำสอนในพุทธศาสนาเพิ่มขึ้นครับ” และ 12. ด.ช.กวีพัฒน์ ช่างทำ (สกาย) อายุ 10 ปี จ.สุโขทัย “มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา อยากศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างลึกซึ้ง”
ด้านตัวแทนผู้ปกครอง นายพีระพงศ์ หิรัญโชติ พ่อของน้องกรหรือ ด.ช.ภทรกร หิรัญโชติ 1 ใน 12 สามเณร กล่าวว่า ครอบครัวตนติดตามโครงการ “สามเณร ปลูกปัญญาธรรม”มาหลายปี เห็นเด็กแต่ละคนมีการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ซึ่งปกติลูกชายตนเองไม่ได้มีความสนใจพระพุทธศาสนาเป็นพิเศษ เป็นไปตามวัยของเขา แต่จะเป็นพ่อแม่ที่สร้างให้น้องดู ปลูกฝังน้องเรื่อย ๆ และข้อดีคือโรงเรียนที่น้องเรียนอยู่มีพระไปสอน จากนั้นน้องเลยมีความสนใจมากขึ้น ตนเลยแนะนำโครงการนี้ให้ ซึ่งอยากให้ลูกชายตนได้มีโอกาสมาศึกษาพุทธศาสนาด้วยตนเอง
“คุณพ่อและคุณแม่ภูมิใจมาก เพราะว่าเป็นสิ่งที่ดีที่น้องจะได้เรียนรู้ มีพื้นฐานที่ดี ยิ่งสังคมเดี๋ยวนี้มันค่อนข้างที่จะเร็ว ทุกอย่างเปลี่ยนไปได้เร็ว เรามองว่า การที่เสริมให้น้องมีพื้นฐานที่แข็งแรงจะเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิตและความสุขในอนาคตของเขา ซึ่งเรามองว่า สิ่งแรกที่อยากให้น้องได้เลยคือ มีสมาธิ มีสติกับตัวเองมากขึ้นจะได้รู้ว่า กำลังทำอะไรอยู่ คิดรอบคอบมากขึ้นแล้ว และยิ่งกว่านั้นคือหวังให้เขาสามารถนำหลักพุทธศานาไปใช้ในการปฏิบัติ เพื่อเอาตัวรอดในโลกใหม่นี้ได้”
“สำหรับการบวชของน้อง คุณพ่อไม่มีความกังวลเลยเพราะน้องค่อนข้างที่จะมีความมั่นใจในตัวเอง เรียนรู้สิ่งใหม่ได้เร็ว ยอมรับกฎกติกาของสังคม น้องเป็นคนที่พร้อมเรียนรู้ตลอดเวลา ซึ่งคุณพ่อเองก็บอกให้น้องเปิดใจกับโลกใหม่ ๆ ให้เรียนรู้ ให้เจอคนใหม่ ๆ พ่อมั่นใจว่า น้องกรทำได้แน่นอน”
“สุดท้ายนี้ ก็อยากเชิญชวนทุกคนมาเรียนรู้ในโครงการนี้ เชื่อว่า โครงการนี้จะเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ที่เราอาจจะไม่มีโอกาสเรียนในโรงเรียน เวลา 1 เดือนนั้นถือเป็นช่วงเวลาที่จะได้อยู่กับตัวเองและสู้กับตัวเอง”
ซึ่งตัวแทนทั้ง 12 นี้จะมีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่หลักธรรมและคำสอนนั้นออกไปในรูปแบบรายการธรรมะเรียลลิตี้ โดยจะมีการถ่ายทอดสดเรื่องราวการศึกษาและฝึกปฏิบัติธรรมที่ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมให้งอกงามในจิตใจ ระหว่างวันที่ 18 เมษายน – 18 พฤษภาคมนี้
ร่วมเรียนรู้หลักธรรม พร้อมเป็นกำลังใจ ชื่นชมความสดใส น่ารัก และความมุ่งมั่นของเหล่าสามเณรน้อย รับชมกิจวัตรของสามเณรได้ทางช่องเรียลลิตี้ ทรูวิชั่นส์ เอชดี ช่อง 119 หรือ 333 และช่องเรียลลิตี้ ทรูวิชั่นส์ ช่อง 60 หรือ 99 และ TrueID รวมทั้งออกอากาศช่วงไฮไลท์ประจำวันทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และช่องทรูปลูกปัญญา ทรูวิชั่นส์ ที่เปิดเป็นฟรีทูแอร์ให้ทั่วประเทศ สามารถรับชมรายการผ่านอุปกรณ์และจานรับสัญญาณระบบอื่น ๆ
พร้อมรับชมรายการผ่านทางออนไลน์ได้ที่ https://www.truelittlemonk.com รวมถึงอีกหนึ่งช่องทางพิเศษ..เตรียมเต็มอิ่มกับรายการสามเณรปลูกปัญญาธรรม ปี 10 ตลอด 24 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่
- เวลา 6.00 – 21.00 น. ถ่ายทอดสดกิจวัตรประจำวันและการปฏิบัติธรรมทุกวัน
- เวลา 21.00 – 21.45 น. ผู้ที่พลาดชมช่วงระหว่างวัน สามารถรับชมช่วงไฮไลท์ประจำวันที่จะประมวลเหตุการณ์และเรื่องเด่นในแต่ละวัน สามารถรับชมในระบบ 2 ภาษา โดยมีผู้บรรยายเสียงภาษาอังกฤษ เพื่อกลุ่มผู้ชมชาวต่างชาติ
- เวลา 21.45 – 22.15 น. พบกับรายการ “ถามธรรม ตอบธรรม” พูดคุยถึงตอบคำถามธรรมะจากผู้ชมทางบ้าน ผ่านมุมมองธรรมะจากคณะพระอาจารย์ และวิทยากรสอนธรรมะ
- เวลา 22.15 – 6.00 น. พบกับรายการธรรมะต่างๆ ได้แก่ พุทธสุภาษิต คติธรรม บรรยายธรรม นิทานธรรม เพลงธรรม พร้อมฉายช่วงไฮไลท์ประจำวันซ้ำ
ทั้งนี้ สามารถติดตามข่าวสารของโครงการได้ที่ https://web.facebook.com/truelittlemonkthailand?_rdc=1&_rdr หรือโทร. 02-858-8339 (ในวันและเวลาทำการ)