เลขาธิการสมาคมนักข่าวฯ เผย "ทนายตั้ม" บอก "ว." รับส่วยไม่เกี่ยวสมาคมฯ และไม่ใช่อุปนายกคนปัจจุบัน แต่เปิดเผยรายละเอียดไม่ได้ ให้ไปตรวจสอบภายในกันเอง เตรียมทำหนังสือถึงประธานสภาทนาย นำประเด็นไปตรวจสอบเพิ่มเติม ย้ำสมาคมฯ ไม่เกี่ยวข้องเว็บพนัน พร้อมให้ตรวจสอบ
เมื่อวันที่ 27 มี.ค. นายจีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง เลขาธิการและโฆษกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่าในวันนี้ (27 มี.ค. 67) ได้พบกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด และได้พูดคุยช่วงเวลาสั้นๆ ถึงการแถลงเส้นทางเงินจากเว็บพนันเชื่อมโยงนายตำรวจระดับสูงพาดพิงถึง "อุปนายก ว." และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
โดยนายษิทรายืนยันข้อมูลเส้นทางการเงินตามที่แถลง แต่ทั้งนี้การโอนเงินเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ และไม่เกี่ยวกับ นายวัฒนะชัย ยะนินทร อุปนายกฝ่ายสวัสดิการและสมาชิกสัมพันธ์ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งแต่อย่างใด แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ทั้งหมดเพื่อป้องกันการถูกฟ้อง แต่ต้องการให้สมาคมฯ ไปตรวจสอบภายในกันเองถึงรายชื่ออดีตอุปนายกเพื่อดำเนินการตามกระบวนการของสมาคมฯ
นายจีรพงษ์กล่าวอีกว่า ล่าสุดสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยได้ทำหนังสือถึง ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนักข่าวรับเงินจากแหล่งข่าว ที่สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติแต่งตั้ง เพื่อนำประเด็นดังกล่าวที่มีความเกี่ยวเนื่องกันนำไปพิจารณาเพิ่มเติม และสมาคมฯ พร้อมร่วมมือกับทุกฝ่ายในการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมต่อไป
ด้านนายวัฒนะชัย ยะนินทร อุปนายกฝ่ายสวัสดิการและสมาชิกสัมพันธ์ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนถึงกรณีมีชื่อย่อ "ว.แหวน" ที่ถูกพาดพิงกรณีเกี่ยวข้องกับการรับเงินเครือข่ายเว็บพนัน ว่า เพิ่งรับตำแหน่งอุปนายกฝ่ายสวัสดิการและสมาชิกสัมพันธ์ฯ ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีฯ เมื่อ 2 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งกรรมการสมาคมฯ มีทั้งหมด 15 คน ปรากฏว่าตรวจสอบแล้วมีตนที่มีชื่อ ว.แหวน เป็นอุปนายกเพียงคนเดียว ทำให้ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอุปนายกสมาคมนักข่าวฯ ที่รับสินบนจากเครือข่ายเว็บพนันตำรวจ ซึ่งไม่เป็นความจริง พร้อมให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน
นายจีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง เลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ในฐานะโฆษกสมาคมฯ กล่าวยืนยันว่า สมาคมนักข่าวฯ ไม่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินของเครือข่ายเว็บพนัน เนื่องจากสมาคมฯ ไม่ได้ใช้บัญชีของธนาคารกสิกรไทยในการทำธุรกรรม ตามที่มีการระบุ สมาคมฯ ใช้บัญชีของธนาคารไทยพาณิชย์ และไม่ใช้วิธีรับเงินสดเข้าสมาคมฯ การทำธุรกรรมจะใช้ระบบอินเทอร์เน็ตแบงกิ้งและเช็คเงินสดเท่านั้น
โฆษกฯ สมาคมกล่าวด้วยว่า กรณีที่ถูกพาดพิง ทางสมาคมฯ ได้ตรวจสอบบุคลากรภายในแล้วไม่พบความเกี่ยวข้องกับส่วนดังกล่าว และพร้อมให้ตรวจสอบเพิ่มเติมหากมีข้อสงสัยประการใด พร้อมกันนี้จะมีการทำหนังสือให้ "คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนักข่าวรับเงินจากแหล่งข่าว" ที่มีนายกสภาทนายความเป็นประธาน ซึ่งแต่งตั้งโดยสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นกรณีเกี่ยวเนื่องกัน ให้ตรวจสอบกรณีนี้เพิ่มเติม