xs
xsm
sm
md
lg

“ดอกหญ้า อีบุ๊ก” ชี้แจง หลังถูกแบนงานสัปดาห์หนังสือฯ ครั้งที่ 52

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บริษัท ดอกหญ้า อีบุ๊ก จำกัด ออกประกาศชี้แจง ประเด็นสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ประกาศไม่ให้มีกิจกรรมในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 52 

จากกรณีสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทยประกาศไม่ให้มีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ดอกหญ้า อีบุ๊ก จำกัด ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 52 หลังพบทำผิดระเบียบออกบูทและจองเวที พบก่อนหน้านี้ "อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ" ประกาศลาออกจากซีอีโอ และดอกหญ้า อีบุ๊ก ประกาศหยุดพักกิจการชั่วคราว

ล่าสุดวันนี้ (26 มี.ค.) เพจ “ดอกหญ้า อีบุ๊ก” ได้ออกชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว โดยได้ระบุข้อความว่า

“ประกาศชี้แจง กรณีที่สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จัดจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ยกเลิกกิจกรรมของ “ดอกหญ้าอีบุ๊ก” ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 52 และสื่อสารถึงเพื่อนนักเขียนทุกท่าน

กระผม นายณรงค์ศักดิ์ ตันติพินิจวงศ์ รักษาการบริษัท ดอกหญ้าอีบุ๊ก จำกัด ขอเรียนให้ทุกท่านทราบว่า หลังจากที่สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ออกแถลงการณ์ยกเลิกกิจกรรมต่างๆ ของดอกหญ้า พร้อมเหตุผลที่ดูเป็นความผิดร้ายแรง ก่อให้เกิดความไม่สบายใจ และเกรงว่าจะเกิดความเข้าใจผิด จึงขอชี้แจง ดังนี้

สืบเนื่องจากการเปิดตัวของ บริษัท ดอกหญ้าอีบุ๊ก จำกัด ในปลายปี 2566 พร้อมกับจัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุนวงการหนังสือให้ตื่นตัว และมีจุดมุ่งหมายที่จะสร้างนักเขียนหน้าใหม่ให้เกิดขึ้นในแวดวงอย่างจริงจัง จึงจัดการประกวดโครงการต่างๆ ได้แก่
1. การประกวดพล็อต “ดอกหญ้าท้าให้เขียน”
2. การประกวดพากย์เสียงนวนิยาย (audio book)
3. การประกวดนวนิยาย LGBTQ+
4. โครงการ WRITER COACH เชิญนักเขียนมืออาชีพมาดูแลต้นฉบับ ต่อยอดจากพล็อตให้เป็นนวนิยาย และแนะนำการเขียนให้แก่นักเขียนใหม่อย่างใกล้ชิด เพื่อผลักดันให้เกิดผลงานอย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ ยังได้ประกาศว่าจะจัดงานแถลงข่าว และมอบรางวัลในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 52

ต่อมา มีเหตุความไม่ลงตัวเรื่องการทำงานบางส่วนของผู้บริหาร รวมทั้งแพลตฟอร์มที่ทำไม่สำเร็จภายในเวลาที่กำหนด กอปรกับผู้บริหารที่ดูแลงานโดยภาพรวมทั้งหมดได้ยกเลิกการจองบูท และประกาศลาออกในเวลาต่อมา ทำให้กิจกรรมต่างๆ ชะลอตัวลง พร้อมกับข่าวลือต่างๆ ที่สร้างความสับสนให้แก่แวดวงนักเขียน และผู้เกี่ยวข้อง

ในขณะนั้น กระผมได้เข้ามารักษาการ พร้อมกับยืนยันที่จะรับผิดชอบโครงการต่างๆ ให้เดินหน้าต่อไป แม้จะอยู่ในช่วงที่ไม่มีรายได้จากการขายหนังสือก็ตาม ทั้งนี้ เพื่อให้นักเขียน-นักพากย์ที่ส่งผลงานเข้ามามีความมั่นใจถึงจุดมุ่งหมายเดิม และไม่เป็นการเสียกำลังใจที่ตั้งใจเขียนงานเพื่อส่งเข้าประกวดเวทีนี้

สำหรับกรณีการจองบูทของสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ขอชี้แจงว่า หลังจากที่บริษัททราบว่าได้มีการยกเลิกการจองบูทจากอดีตซีอีโอ ด้านบอร์ดผู้บริหารของดอกหญ้าอีบุ๊ก จึงให้อำนาจเต็มแก่กระผมในการเข้าไปเจรจากับสมาคมฯ อีกครั้ง เพื่อร้องขอบูทคืนทั้ง 17 บูท และพร้อมที่จะชำระเงินทันที แต่หลังจากผู้บริหารสมาคมฯ ประชุมกันแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ตัดสิทธิ์การออกบูททั้งหมด ซึ่งทางดอกหญ้าอีบุ๊กน้อมรับและเคารพในกติกาเป็นอย่างดี

แต่ด้วยไม่ทราบโดยสุจริตใจว่ามีกฎห้ามทำกิจกรรมใดๆ ภายในงาน ด้วยที่ผ่านมา แม้จะไม่มีบูทโดยตรง แต่สายส่ง สำนักพิมพ์ นักเขียน ฯลฯ ก็สามารถร่วมเปิดตัวหนังสือ หรือจัดกิจกรรมบนเวทีกลางได้ หากได้รับการพิจารณาและอนุมัติจากสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ

ทางดอกหญ้าอีบุ๊กเองก็ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาเช่นนั้น เนื่องจากดอกหญ้าอีบุ๊กมีพันธมิตรซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ที่จะร่วมผลิตหนังสือเป็นรูปเล่มและจัดจำหน่าย ควบคู่ไปกับแพลตฟอร์มอีบุ๊ก ซึ่งสำนักพิมพ์ดังกล่าวได้อาสาเป็นผู้จองพื้นที่เวทีกลาง พร้อมชำระเงินค่าจองพื้นที่อย่างถูกต้อง เพื่อสนับสนุนกิจกรรมของดอกหญ้าใน 3 ช่วงเวลา ได้แก่
1. ประกาศและมอบรางวัลการประกวดเขียน “พล็อตนวนิยาย”
2. เสวนา “พล็อตแบบไหนที่ตลาดต้องการ และทำเงิน"
3. เสวนา “เปิดสูตรการพากย์ให้ปัง มีรายได้ และโดนใจผู้ฟัง”

พร้อมกันนี้ ยังได้ระบุรายชื่อผู้ร่วมเสวนาอย่างชัดเจน ซึ่งเพจของสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ก็ได้นำรายการไปลงในตารางเผยแพร่ โดยที่มิได้ทักท้วงแต่อย่างใด และทางดอกหญ้าอีบุ๊กเองยังนำช่วงเวลาที่จัดงานดังกล่าวลงในเพจของดอกหญ้าอย่างเปิดเผยด้วยเช่นกัน

กล่าวโดยสรุป ดอกหญ้าอีบุ๊กจึงมิใช่เป็น “ผู้ปิดบังอำพราง ใช้วิธีหลบเลี่ยง โดยอ้างชื่อให้สมาชิกสำนักพิมพ์อื่นจองเวทีกลางในการจัดกิจกรรมแทน อันสะท้อนความไม่โปร่งใสและไม่ตรงไปตรงมา” ตามที่ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใด

การแถลงการณ์ของสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ อาจก่อให้เกิดการเข้าใจผิด เสื่อมเสียชื่อเสียง และทำให้นักเขียนขาดความเชื่อมั่นต่อองค์กร แต่ดอกหญ้าอีบุ๊กยังคงรู้สึกเป็นมิตรกับสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ และไม่ต้องการมีข้อบาดหมางใดๆ การชี้แจงครั้งนี้ก็เพื่อให้ทราบถึงความบริสุทธิ์ใจ และความตั้งใจที่อยากจะเข้ามาร่วมเป็นหนึ่งในการพัฒนาแวดวงการอ่านการเขียนไปด้วยกัน ซึ่งหากทางสมาคมฯ ต้องการจะให้ทางดอกหญ้าฯ เข้าไปชี้แจงเพิ่มเติม หรืออยากให้รับฟังส่วนที่อาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน กระผมยินดีเสมอ

ขณะเดียวกัน ดอกหญ้าอีบุ๊กยังประสงค์ที่จะดูแลความรู้สึกของนักเขียนที่มาร่วมกิจกรรม เพราะหลายท่านดีใจและภูมิใจที่จะเข้ารับรางวัลต่างๆ บางท่านเตรียมเดินทางมาจากต่างจังหวัด และหลายท่านต้องทิ้งภารกิจส่วนตัว เพื่อมาร่วมงานอย่างภาคภูมิใจ

กระผมขอเรียนยืนยันกับเพื่อนนักเขียนทุกท่านว่า แม้จะไม่มีการประกาศผลรางวัล ณ เวทีกลางในงานสัปดาห์หนังสือครั้งนี้ แต่เราจะหาสถานที่ที่ดีที่สุด เพื่อเป็นเกียรติให้กับทุกท่านอย่างแน่นอน โปรดติดตามข่าวสารทางเพจดอกหญ้านะครับ

นายณรงค์ศักดิ์ ตันติพินิจวงศ์
วันที่ 26 มีนาคม 2567”

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท ดอกหญ้า อีบุ๊ก จำกัด ที่ได้ลาออกไปก่อนหน้านี้ ได้ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงอีกมุมหนึ่ง โดยได้ระบุข้อความว่า

“ขอแจ้งให้ทราบอีกครั้งเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องของแวดวงผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 52
ผมได้ยื่นใบลาออกจากทุกตำแหน่งในบริษัท ดอกหญ้า อีบุ๊ก จำกัด ตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ. 2567และไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ อีกต่อไปกับการกระทำของ "ตัวแทน" ของบริษัท ดอกหญ้า อีบุ๊ก จำกัด ที่ไปทำให้สมาคมฯ เกิดความสับสน ไม่ชัดเจน ไม่โปร่งใสตามแถลงการณ์ของสมาคมฯ วันนี้ (25 มี.ค.)

ขอย้อนไปช่วงกลางเดือน ม.ค. 2567 การได้สิทธิ์จองบูท 17 บูทจากที่ร้องขอเช่าบูทไป 25 บูทมาจาก "ผู้บริหารท่านหนึ่ง" ของบริษัท ดอกหญ้า อีบุ๊ก จำกัด ที่ไปแสดงตัวกับสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทยว่าเป็น "ตัวแทนผู้มีอำนาจ" ในบริษัท ดอกหญ้า อีบุ๊ก จำกัด

ทั้งๆ ที่ผมในฐานะ "ซีอีโอ" ได้ให้ความเห็นแย้งไปแล้วในกลุ่มผู้บริหารดอกหญ้าว่ามากเกินกว่าความพร้อมของบริษัทฯ ที่ยังอยู่ในช่วงพัฒนาแพลตฟอร์ม e-Book ที่ล่าช้ากว่ากำหนด จำนวนบูทที่มากที่สุดไม่ควรเกิน 6 บูท

แต่ด้วยตำแหน่ง "ซีอีโอ" ในช่วงนั้น จึงต้องทำหนังสืออย่างเป็นทางการลงนามโดยซีอีโอถึงสมาคมผู้จัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ยืนยันการจอง 17 บูท พร้อมนำเสนอแผนการแสดงสาธิตการใช้แพลตฟอร์มอีบุ๊กและจัดวางหนังสือประเภทไหนบ้าง

รวมทั้งต้องจัดหา "เงินค่าบูท" จำนวน 760,420 บาทจากบุคคลอื่นที่ไม่ได้มาจากบริษัท ดอกหญ้า อีบุ๊ก จำกัด มาชำระให้ทันตามกำหนดวันสุดท้าย 2 ก.พ. 2567 เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์และเสียชื่อเสียง ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาคาบเกี่ยวกับการระดมทุนจาก "ผู้ลงทุนรายใหม่" มาลงทุนแทน "ผู้ลงทุนรายเดิม" ที่ไม่ประสงค์จะลงทุนต่อไป

ต่อมาเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2567 แผนการระดมทุนจากผู้ลงทุนรายใหม่ไม่สำเร็จ ผมได้แจ้งลาออกจากทุกตำแหน่งเพื่อเปิดโอกาสให้ "ผู้บริหารท่านหนึ่ง" ในบริษัทฯ มารับช่วงบริหารต่อไป

ในขณะเดียวกัน ผมได้ตัดสินใจทำหนังสือถึงสมาคมฯ เพื่อขอยกเลิกการจองบูท 17 บูทและขอเงินจำนวนดังกล่าวคืน เพื่อยุติความสับสนที่ได้รับการแจ้งจากทางสมาคมฯ มาเป็นระยะๆ

ทั้งนี้เพราะภายในบริษัท ดอกหญ้า อีบุ๊ก จำกัด เกิดความสับสนมากเช่นเดียวกันว่า "ผู้บริหารท่านนั้น" ยังต้องการบูท 17 บูทหรือไม่ และจะสามารถนำเงินค่าบูท 17 บูทมาชำระคืนได้หรือไม่ โดยสมาคมฯ มีกำหนดวันที่ 19 ก.พ.จับฉลากผู้ขอเช่าบูทว่าจะอยู่ตำแหน่งไหนบ้าง จึงอยากให้ทางดอกหญ้ายังยืนยันต้องการ 17 บูทหรือไม่
วันที่ 17 ก.พ. 2567 ผมได้ยื่นใบลาออกจากทุกตำแหน่งอย่างเป็นทางการ แล้วติดตามเรื่องการขอเงินค่าบูท 17 บูทคืนจากสมาคมฯ ซึ่งต่อมาทราบว่ากรรมการของสมาคมฯ ได้ลงมติให้คืนเงินทั้งหมดเพื่อยุติปัญหาความสับสน จนกระทั่งวันที่ 28 ก.พ. 2567 ทราบว่าทางสมาคมฯ ได้โอนเงินคืนทั้งหมดคืนเจ้าของเงินดังกล่าว
เรื่องราวระหว่างบริษัท ดอกหญ้าอีบุ๊ก จำกัด กับสมาคมฯ หลังจากวันที่ 17 ก.พ.อื่นใดนอกจากนี้ ผมไม่ได้ทราบและไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องใดๆ เลย

จึงเรียนเพื่อทราบผ่านสื่อสาธารณะ
อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ
วันที่ 25 มี.ค.2567 เวลา 19.09 น.”
กำลังโหลดความคิดเห็น