“พิมพ์ภัทรา” สนับสนุนภาคเอกชนไทยสานต่อนโยบาย EV ของรัฐบาล เอ็ม กรุ๊ป โฮลดิ้ง ประเทศไทย จับมือ เจียหลิง กรุ๊ป และ ทาลาเรีย เพาเวอร์ เทค ประเทศจีน ขานรับผลิต E BIKE ตั้งไทยเป็นฐานส่งออกอาเซียน
เมื่อวันที่ 24 มี.ค. นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดงาน “เปิดประสบการณ์ความท้าทายครั้งใหม่ กับ TALARIA THAILAND” โดยในงานมีพิธีเซ็นสัญญาร่วมลงทุนระหว่าง บริษัท ทาลาเรีย อินดัสทรี (ประเทศไทย) จำกัด กับ บริษัท ฉงชิ่ง เจียหลิง-เจียเผิง อินดัสทรี จำกัด (ประเทศจีน) เพื่อผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (E-Bike) โดยมีผู้เข้าร่วมงานจากหลายประเทศ เช่น จีน ลาว เมียนมา รวมถึงนางจีรนันท์ วงษ์มงคล ประธานสมาคมธุรกิจไทยในกัมพูชา งานจัดขึ้นที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร
นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว. อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ประเทศไทยโชคดีที่มีการปรับตัวทางด้านเทคโนโลยีให้ทันยุคทันสมัย โดยเฉพาะเรื่องยานยนต์ไฟฟ้า ที่รัฐบาลมีมาตรการสนับสนุนการลงทุนมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จนถึงรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาตรการ EV 3.0 และมีการตอบรับในประเทศเป็นอย่างดีในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ยอดขายและกำลังซื้อเพิ่มขึ้นมากโดยเฉพาะปีที่แล้วยอดสูงเกือบ 70,000 คัน
รมว.อุตสาหกรรมกล่าววว่า ในส่วนของจักรยานยนต์ไฟฟ้า ก็เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่รัฐบาลให้การสนับสนุน และไม่ตอบสนองเฉพาะคนในประเทศเท่านั้น แต่ยังเปิดรับนักลงทุนต่างประเทศให้เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย และได้ทำงานกันมาถึง 2 รัฐบาล ในการเตรียมความพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกทางด้านพลังงานสะอาด โครงสร้างพื้นฐาน ทั้งขนส่งทางรถ ทางราง และทางอากาศ ตลอดจนมาตรการช่วยเหลือนักลงทุน ที่ทั้งนายกรัฐมนตรี บีโอไอ และกระทรวงอุตสาหกรรม เราทำไปพร้อมๆ กัน วันนี้เราจึงเห็นนักลงทุน โดยเฉพาะจากประเทศจีนเข้ามาตั้งฐานการผลิตมากขึ้นเรื่อยๆ จากความเชื่อมั่นดังกล่าว ท่านนายกฯ เศรษฐาคาดการณ์ว่าปีนี้การลงทุนน่าจะแตะถึง 1 ล้านล้านบาท ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีของการทำธุรกิจ ที่ยังคงรักษาโลกใบนี้ให้สวยงาม ส่งต่ออากาศบริสุทธิ์สะอาด และนวัตกรรมสีเขียวให้รุ่นลูก รุ่นหลานของเราต่อไป
นายหวัง ฟ่าน ประธานกรรมการ และหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ทาลาเรีย เพาเวอร์ เทค เมื่อ พ.ศ. 2563 กล่าวว่า ทาลาเรียมุ่งเน้นการผลิตและจำหน่ายจักรยานยนต์ผ่านการวิจัยและพัฒนาอย่างเข้มข้น สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในนครฉงชิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งในปัจจุบันถือเป็น “ซิลิคอนวัลเลย์” แห่งการผลิต E-Bike ทาลาเรียเป็นแบรนด์ที่มีอายุน้อยแต่มีพลวัตสูง ได้รับการรับรองจากผู้ค้าและผู้ขับขี่ยานพาหนะทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรปในเวลาอันรวดเร็ว กลายเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ การร่วมมือกับบริษัท เอ็ม กรุ๊ป โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) ถือเป็นการตั้งฐานการผลิตนอกประเทศขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อทำหน้าที่ดูแลตลาดผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของทาลาเรียในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“ในอนาคต ฐานการผลิตใหม่ของทาลาเรียจะกลายเป็นศูนย์กลางสำหรับนวัตกรรมและความเป็นเลิศด้านการผลิต และเป็นศูนย์กลางสำหรับการทำงาน การแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกัน พวกเรามีความคิดที่จะทำงานร่วมกับชุมชนในพื้นที่ สถาบันการศึกษา และองค์กรการวิจัย เพื่อสร้างเสริมวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้อนาคต” นายหวัง ฟาน กล่าว
นายลี่ ซื่อ หลิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทาลาเรีย อินดัสทรี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณรัฐบาลไทยที่มีนโยบายส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ใช้พลังงานสะอาด รวมถึงมีมาตรการอุดหนุนผู้บริโภคสำหรับซื้อยานยนต์ไฟฟ้าในราคาไม่แพง ทาลาเรียประเทศไทยตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2566 อยู่ในบางกอกฟรีเทรดโซนซึ่งได้รับเป็นเขตอุตสาหกรรมโดยกระทรวงอุตสาหกรรม อีกไม่นานนี้ทาลาเรียจะมีศูนย์จำหน่ายและบริการ 300 แห่งทั่วกลุ่มประเทศอาเซียน สามารถส่งผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าในระยะเวลา 10-15 วันเท่านั้น
“ทาลาเรียมีการวิจัยและพัฒนาโดยผสมผสานเทคโนโลยีจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ทันสมัยที่สุดเข้ากับกระบวนการผลิตที่ทันสมัยที่สุดจึงได้อีไบค์ที่มีน้ำหนักเบา สมรรถนะสูง ความคล่องตัวสูง และเร้าใจในทุกพื้นผิวการขับขี่ โดยอีไบค์ที่ได้พัฒนาออกมาใหม่ล่าสุดมี 2 รุ่นใหญ่ๆ ได้แก่ Sting และ xXx ซึ่งทั้ง Sting และ xXx จะมีรุ่นย่อยลงไปอีกหลายรุ่น ทั้งหมดผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO9001 มาตรฐาน CE และ E-mark ของยุโรป รวมถึงมาตรฐานความปลอดภัย UL ของสหรัฐอเมริกา” นายลี่ ซื่อ หลิน ระบุ
นายเกอ ฟง ประธานกรรมการ บริษัท ฉงชิ่ง เจียหลิง-เจียเผิง อินดัสทรี จำกัด (ประเทศจีน) กล่าวว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมาบริษัทได้ทุ่มเทให้กับการค้นคว้าวิจัย พัฒนา และผลิตรถจักรยานยนต์ที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก เราพร้อมแบ่งปันผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการทำงานร่วมกับบริษัทที่มีฐานการตลาดในประเทศจีนรวมถึงทั่วโลก การร่วมมือกันสามารถเกิดขึ้นได้เพราะการพัฒนาร่วมกันระหว่างทั้งสองฝ่ายมาโดยตลอด ทำให้เกิดโครงการความร่วมมือเชิงลึกมากมาย และเกิดพันธมิตรความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายในที่สุด
นางสาวภิญญ์ชยุตม์ อัครกุลศานต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม กรุ๊ป โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งได้ร่วมลงทุนและเป็นหนึ่งในกรรมการบริหาร บริษัท ทาลาเรีย อินดัสทรี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เอ็มกรุ๊ปทำธุรกิจโดยยึดโมเดลเศรษฐกิจ BCG นั่นคือเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว จึงได้ลงทุนในการทำธุรกิจยานพาหนะที่ใช้พลังงานสะอาดกับบริษัททาลาเรียของจีน เพราะเทคโนโลยี EV ของจีนนั้นเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก ในส่วนของ E-Bike หรือจักรยานยนต์ไฟฟ้านั้นในประเทศไทยมีให้เห็นตามท้องถนนบ้างแล้วแต่จักรยานยนต์ประเภทออฟโรดที่มีน้ำหนักเบานั้นยังแทบไม่มี และทาลาเรียที่ส่งออกจักรยานยนต์ไฟฟ้าประเภทนี้ไปทั่วโลกคือคำตอบที่ลงตัวที่สุดในการร่วมลงทุน
“เราต้องการเป็นผู้นำในการส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ขับขี่ชาวไทยหันมาใช้จักรยานยนต์ไฟฟ้ากันให้มากขึ้น เพื่อคุณภาพของสุขภาพร่างกาย เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม” นางสาวภิญญ์ชยุตม์ กล่าว และเสริมว่า เอ็มกรุ๊ปยังมีบริษัทเกี่ยวกับจุลินทรีย์ชีวภาพเพื่อการเกษตรและบริษัทเกี่ยวกับการกำจัดของเสียและแปรรูปสิ่งของเหลือใช้เพื่อส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมอยู่แล้วด้วย
สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของทาลาเรียประเทศจีน ใน พ.ศ. 2566 มียอดจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา 13,542 คัน แคนาดา 10,732 คัน อิตาลี 9,785 คัน เยอรมนี 9,468คัน ฝรั่งเศส 8,704คัน สหราชอาณาจักร 8,594 คัน และประเทศในสหภาพยุโรปอื่นๆ 3,632 คัน ตะวันออกกลาง 431 คัน แอฟริกาตะวันตก 248 คัน ประเทศในอเมริกาใต้ 206 คัน ซึ่งถือว่าได้รับความนิยมอย่างมากจากทั่วโลก