xs
xsm
sm
md
lg

“โจ๊ก เปลี่ยนสี” กลับไม่ได้ไปไม่ถึง วิ่งเกาะตระกูลชินฯ แต่เคยดำเนินคดี "หลานแม้ว"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“โจ๊ก” เปลี่ยนสีตามขั้วอำนาจ เคยรับใช้ “3 ป.” แบบถวายหัว พอ “ก้าวไกล” ชนะเลือกตั้งก็โดดเข้าเกาะ แต่เมื่อเกมพลิก “เพื่อไทย” ได้เป็นแกนนำรัฐบาล ก็หันมาประจบ เจอ “คุณหญิงอ้อ” โร่เข้าไปกราบ “ทักษิณ” ไปเชียงใหม่ก็ตามติดเป็นเงา แต่งานนี้ไม่รู้ตระกูลชินฯ จะไว้ใจหรือไม่ เพราะเคยดำเนินคดี “ฤภพ ชินวัตร” ช่วงการเลือกตั้งปี 62



ในรายการ  “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก”เมื่อวันศุกร์ที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการได้กล่าวถึงกรณ๊นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษเด็ดขาดในคดีทุจริตที่อยู่ระหว่างการพักโทษ เดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเยี่ยมบ้านเกิด ช่วงวันที่ 14-16 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งกลายเป็นเรื่องที่ตลกขบขันพอสมควร เมื่อมีนายกฯ 5 คนอยู่ในพื้นที่เดียวกัน คนแรกคือนายกฯ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ก็คือ นายเศรษฐา ทวีสิน คนที่สอง คือนายกฯ ทิพย์ ก็คือนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ คนที่สาม ก็คือ อุ๊งอิ๊ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ซอฟต์พาวเวอร์ ที่ถูกวางตัวไว้เป็นนายกฯ คนต่อไป คนที่สี่คือนายกฯ นอกทำเนียบคนแรกในประวัติศาสตร์ประเทศไทย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่เป็นนายกฯ แล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้เข้าทำเนียบฯ และคนสุดท้ายคือนายกฯ ตัวจริง ที่เคยรักษาตัวอยู่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เรียกว่านายกฯ ชั้น 14

ที่น่าสังเกตอย่างหนึ่ง มีทั้งข้าราชการ ไปแห่รับกันเต็มที่ กลายเป็นเรื่องที่คนนินทาหมาดูถูกเมื่อข้าราชการไปคารวะเคารพอดีตนายกฯ ที่ยังเป็นนักโทษอยู่ เพราะยังอยู่ในช่วงพักโทษ


นอกจากนั้นแล้ว มีอีกคนที่ต้องพุดถึงคือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ที่พไม่พลาดโอกาสในการเข้าใกล้ชิดผู้ใหญ่ เพื่อให้ผู้ใหญ่เห็นอกเห็นใจ หรือจะฝากฝังตัวเอง ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็ปฏิเสธว่าไม่มี แค่ไปทำหน้าที่ เพราะเป็นรอง ผบ.ตร.ฝ่ายกิจการพิเศษ ไปดูแลความปลอดภัย ที่ไปดูแลนายทักษิณ ไม่ได้ขอความช่วยเหลือเรื่องคดี

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์นั้นเป็นคนที่ชอบกระโดดเกาะผู้มีอำนาจ วันที่พรรคก้าวไกลได้คะแนนเสียงเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กระโดดโหนพรรคก้าวไกลเย เป็นคนที่แสดงความสนิทสนมกับนายรังสิมันต์ โรม วันงานศพบิดาของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล นั้น นายรังสิมันต์ โรม ก็ไป ในวันเผาก็ได้เป็นคนที่เชิญผ้าไตร นายรังสิมันต์ โรม นี่เองที่ได้เอาข้อมูล "ตั๋วช้าง" ไปอภิปรายในสภาฯ โดยได้ข้อมูลมาจากคอมพิวเตอร์ของ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยุเกตุ ที่เปรียบเสมือนเป็นเลขาฯ ส่วนตัวของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล


พอเปลี่ยนเกมการเมืองกลายเป็นพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาล พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็ไม่รีรอ ถ้าเป็นจิ้งจกก็เป็นสปีชีส์ที่พิเศษกว่าทุกสปีชีส์ของจิ้งจกในโลกนี้ เพราะว่าเปลี่ยนสีเร็วมาก

“ท่านผู้ชมจำได้ไหม มีอยู่วันหนึ่ง เป็นวันที่คุณหญิงอ้อ เข้ามาในงานกิจกรรมงานแสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน-วิ่ง-ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 9 เฉลิมพระเกียรติ ที่ท้องสนามหลวง คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตคู่ชีวิตของท่านนายกฯ ทักษิณ ชั้น 14 ได้ควงลูกสาว อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และว่าที่นายกฯ ซอฟต์พาวเวอร์ ออกงานครั้งแรก นักการเมืองทั้งหลายมาร่วมงานกันคึกคักในวันนั้น


“ท่านผู้ชมดูรูปนะครับ สุรเชษฐ์ หักพาล ไม่ยอมพลาดโอกาสอย่างนี้แน่นอน และเป็นที่จับตาดู ช่างภาพก็รู้อยู่แล้ว คุณหญิงพจมาน นั่งอยู่บนโซฟา ย่อตัวลงคุกเข่า ถ้ากราบเท้าได้ตอนนั้นก็กราบไปแล้วมั้ง แล้วยังมีการยกมือไหว้ น.ส.แพทองธาร อุ๊งอิ๊งตกใจ ต้องยกมือไหว้กลับทันที เพราะถือว่าอายุน้อยกว่ามาก” นายสนธิ กล่าว


นายสนธิ กล่าวอีกว่า จริงๆ แล้วพฤติกรรมของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นั้น ถ้าจะทำให้พอดีๆ ก็ไม่เสียหาย ตัวเองมียศถึงพลตำรวจเอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถ้าจะไปทักทายคุณหญิงอ้อ ซึ่งบิดาของคุณหญิงอ้อ คือ พล.ต.ท.เสมอ ดามาพงศ์ ที่บิดาของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เป็นคนขับรถให้ตอนที่ท่านไปดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ถึงจะเป็นลูกสาวของอดีตเจ้านายเก่าพ่อ ความที่เป็นพลตำรวจเอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าไปยืนตัวตรงแล้วโค้งคำนับอย่างสง่าผ่าเผยและงดงาม ก็พอแล้ว ยกมือไหว้และโค้งคำนับ ไม่ต้องไปคุกเข่า แทบจะกราบเท้าคุณหญิงอ้อ มันเกินไป เพิ่งกระโดดหนีจากนายรังสิมันต์ โรม และพรรคก้าวไกลมา พอเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ก็เปลี่ยนตัวเองทันทีเลย

แต่ก่อนหน้านั้น ในยุคที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยที่ 3 ป.ยังอยู่ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562 เมื่อครั้งที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังเป็น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ในฐานะรอง ผบช.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ได้ดำเนินคดีกับนายฤภพ ชินวัตร ลูกชายของนายพายัพ ชินวัตร น้องชายแท้ๆ ของนายทักษิณ ชินวัตร ในข้อหานำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์


ขณะนั้นนายฤภพ เป็นรองหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ พรรคอะไหล่ของพรรคเพื่อไทย ขณะที่ คสช.ตั้งพรรคพลังประชารัฐขึ้นมา นายทักษิณจึงตั้งพรรคไทยรักษาชาติเพื่อเก็บคะแนนเอา สส.ปาร์ตี้ลิสต์ และส่งลูกหลานของชินวัตรไปขับเคลื่อนพรรคไทยรักษาชาติ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2562 บัญชีเฟซบุ๊กแฟนเพจของพรรคไทยรักษาชาติ แพร่ภาพสด ในหัวข้อว่า "ภัยเงียบที่ทำร้ายคนกรุงเทพมหานคร" ซึ่งนายฤภพ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับค่าฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพมหานครตามจุดต่าง ๆ ซึ่ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ขณะนั้นอ้างว่าเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าค่า PM 2.5 ไม่เป็นจริงตามที่ได้ระบุไว้ จึงต้องดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว


แต่มาวันนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พยายามเป็นเงาตามตัวนายทักษิณ ชินวัตร แสดงความเคารพนอบน้อมที่สุดกับคนตระกูลชินวัตร ที่กุมอำนาจรัฐอยู่ จนประชาชนคนทั่วไปที่เขาเห็นภาพนี้รับไม่ได้

“คุณสุรเชษฐ์ เพราะคุณครองยศระดับสูง พลตำรวจเอก แล้วย้อนไปอดีต ไม่นานมานี้เอง ไม่กี่ปี วันที่แก๊ง 3 ป. คุณก็รับใช้ 3 ป. อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู พอเขาแถลงเรื่องฝุ่น PM 2.5 คุณก็เอาเรื่องบ้าๆ นี่ไปดำเนินคดีเขา เพื่อให้เห็นว่าคุณได้ทำงานให้เต็มที่แล้ว” นายสนธิกล่าว


อีกประการหนึ่ง ตอนที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ดำเนินคดีกับนายฤภพ ชินวัตร นั้น ก็มีตำแหน่งเป็นรองศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ดูแลกรณีการกระทำผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ การก่ออาชญากรรมทางออนไลน์ แต่พอวันนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เข้ามาเกี่ยวข้องกับลูกน้องเรื่องเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์หลายๆ แห่ง ทั้งเครือข่ายมินนี่ เครือข่าย BNK Master เชื่อมโยงกับกรณีการฟอกเงินพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็ออกมาแถลงข้างๆ คูๆ ว่าไม่เคยดูแลควบคุมไซเบอร์ และเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของเว็บพนัน ตามที่แถลงเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 โอ้อวดว่าเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของเว็บพนัน


“คุณสุรเชษฐ์ ครับ คนที่รู้ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ฟังแล้วได้แต่หัวเราะ เพราะทุกวันนี้คุณพูดอะไรก็โกหกไปหมด อะไรก็โกหกได้ แต่สิ่งหนึ่ง คุณสุรเชษฐ์ คุณจำเอาไว้นะ คุณโกหกอย่างไรก็โกหกไม่ขึ้น ลบอย่างไรก็ลบไม่ออก นั่นคือกรรมที่คุณกระทำไว้ ผมรู้ว่าคุณอยู่สายมู เดี๋ยววันหลังผมจะเปิดมาว่าคุณไปแก้เคล็ดกับใครบ้าง ไปวัดไหนบ้าง ใช้พระอาจารย์คนไหนบ้าง

“คุณสุรเชษฐ์ เชื่อผมสิ คุณไม่ต้องไปหาสายมู สายนู่นสายนี่ คุณไม่ต้องบวชต้องอะไร คุณรู้หรือเปล่า พ่อแม่ครูอาจารย์ผมบอกว่า คนเราหนีกรรมไม่ได้หรอก และนี่คือข้อเท็จจริง
“ นายสนธิ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น