วันนี้ (18 มีนาคม 2567) นายสมชาย หอมกลิ่นแก้ว รองผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง เป็นประธานในการเปิดตัวศูนย์ทดสอบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) ที่มีเครื่องมือทันสมัย และใหญ่ที่สุดของประเทศไทย โดยศูนย์ทดสอบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) นี้สามารถรองรับการทดสอบอินเวอร์เตอร์ชนิด off grid, on grid และชนิด hybrid พิกัดสูงสุดถึง 60 kW โดย MEA ได้คิดค้นและพัฒนาแอปพลิเคชัน iNvernity ซึ่งเป็นแอปฯ เดียวในประเทศไทยที่ MEA พัฒนามาเพื่อผู้ดูแลการทดสอบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) และแอปพลิเคชันนี้รองรับทั้งแพลตฟอร์มของ Android, iOS และ Website เพื่อตอบโจทย์ความรวดเร็วในการบริการงานทดสอบ ลดขั้นตอนของการปฏิบัติงาน เพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านการตลาด เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดียิ่งขึ้น ณ อาคาร 21 การไฟฟ้านครหลวง เขตสามเสน
รองผู้ว่าการ MEA กล่าวว่า MEA ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ปัจจุบันมีการเติบโตของการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง MEA จึงดำเนินโครงการหลายๆ ด้านเกี่ยวกับการผลิต และจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า เล็งเห็นถึงความสำคัญของอินเวอร์เตอร์ (Inverter) ที่เป็นอุปกรณ์สำคัญในระบบผลิตไฟฟ้า จึงได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ทดสอบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) เพื่อให้มั่นใจว่าอินเวอร์เตอร์มีคุณภาพ เป็นไปตามมาตรฐานสากลของระบบจำหน่ายไฟฟ้าของประเทศไทย โดยเทคโนโลยี ประกอบด้วย
1. ชุดจำลองการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ การทำงานเสมือนแผงเซลล์แสงอาทิตย์กำลังสูงสุด 90 kW
2. ชุดจำลองโครงข่ายไฟฟ้า จำลองระบบจำหน่ายของการไฟฟ้าพิกัดสูงสุด 90 kW
3. ชุดจำลองโหลด จำลองการใช้ไฟฟ้าจากระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ พิกัดสูงสุด 60 kW
4. ชุดจำลองแบตเตอรี่ เมื่อผลิตแล้วไม่ได้ใช้ในเวลากลางวัน สามารถนำเข้าแบตเตอรี่ และนำมาใช้ในเวลากลางคืน รองรับอินเวอร์เตอร์ชนิด hybrid พิกัดสูงสุด 75 kW
5. ชุดทดสอบฮาร์มอนิก และ flicker รองรับกระแสได้สูงสุด 125 A เครื่องเดียวของไทย และเครื่องที่ 4 ของโลก นอกจากรองรับการทดสอบอินเวอร์เตอร์แล้ว ยังสามารถทดสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น แอร์ขนาดใหญ่ ที่ปัจจุบันต้องนำส่งทดสอบต่างประเทศเพียงอย่างเดียว
6. ชุดเครื่องมือวัด และเครื่องมือวิเคราะห์ทางไฟฟ้า รองรับกระแสสูงสุด 200 A ทันสมัยและแม่นยำที่สุดของประเทศไทย
นอกจากนี้ แอปพลิเคชัน iNvernity ยังสามารถเป็นจุดศูนย์กลางในการควบคุมระบบหรืออุปกรณ์อื่นๆ ของ MEA ซึ่งเป็นนวัตกรรมของ MEA อีกด้วย ภายในแอปพลิเคชันประกอบด้วย
1. Multi Gridcode testing รองรับการทดสอบอินเวอร์เตอร์ทั้ง MEA และ PEA Gridcode ที่เป็นความต้องการในตลาดอย่างครบถ้วน
2. Auto report generating รองรับการออกรายงานผลที่ได้จากการทดสอบบนแอปพลิเคชันแบบอัตโนมัติ เพื่อลดขั้นตอนและความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้
3. Multi Method testing รองรับการควบคุมการส่งคำสั่งเพื่อทดสอบหลายหัวข้อในครั้งเดียว เพื่อความสะดวกในการจัดการและบริหารการทดสอบนั้นๆ
4. Custom Method testing ระบบแก้ไขปรับแต่ง เพื่อรองรับการทดสอบแบบเฉพาะเจาะจง หรือการทดสอบใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
5. ระบบการแจ้งเตือนผ่าน Line แอปพลิเคชัน เพิ่มความสะดวกการติดตามสถานะการทดสอบ
จากระบบทั้งหลายเหล่านี้ทำให้ MEA สามารถดำเนินการทดสอบอินเวอร์เตอร์ได้รวดเร็วกว่าตลาดในปัจจุบันมากกว่า 50%
สำหรับผู้สนใจในบริการของศูนย์ทดสอบอินเวอร์เตอร์ของการไฟฟ้านครหลวง สามารถติดต่อที่ แผนกทดสอบอุปกรณ์ประหยัดพลังงานและอุปกรณ์ความปลอดภัย กองทดสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า ฝ่ายวิจัยและนวัตกรรมระบบไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง โทร. 0-2242-5173 หรือ MEA Call Center 1130 ตลอด 24 ชั่วโมง