ชาวบ้านต่างจังหวัดเดือดร้อน การแสกนหน้าของบัตรประชารัฐ พื้นที่ห่างไกลต้องเหมารถเข้าตัวอำเภอมารูดบัตรเดือดร้อนมาก ทั้งแก่ ทั้งไม่มีเงินเหมารถ ทั้งผู้ป่วยติดเตียง ถามรัฐบาลพอแก้ไขอะไรได้ไหม ด้านชาวเน็ตจวกยับ ซื้อของ 300 ยังกับ 3 หมื่น เงื่อนไขยุ่งยาก ทีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปล่อยผ่านสบายๆ
วันนี้ (15 มี.ค.) จากกรณีที่กรมบัญชีกลาง ได้เปลี่ยนวิธีการรับชำระค่าสินค้าและบริการ ผ่านสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ด้วยวิธีการสแกนใบหน้าควบคู่กับการใส่รหัสคู่บัตรประชาชน (PIN Code) 6 หลัก มีผลตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา เพื่อให้การรับชำระค่าสินค้าและบริการผ่านสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐจากแอปพลิเคชันถุงเงิน ที่มีร้านค้าและผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการกว่า 1 แสนร้านค้า เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและโปร่งใส
เฟซบุ๊ก "เฮียบรรจง" ของนายบรรจง ชีวมงคลกานต์ ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง โพสต์ข้อความที่มาจากลูกเพจ ระบุว่า "เฮียบรรจงคะ รบกวนฝากเรื่องนี้หน่อยค่ะ การแสกนหน้าของบัตรประชารัฐ เข้าใจว่ามันเป็นการยืนยันตัวตน แต่ตอนนี้ชาวบ้านตามต่างจังหวัด คือพื้นที่แบบไกลจริงๆ คือฟีลแบบต้องเหมารถเข้าตัวอำเภอมารูดบัตรประชารัฐอ่ะ เดือดร้อนกันมาก ปกติเค้าจะฝากบัตรมารูดกันทีละหลายๆ ใบ แต่พอต้องแสกนหน้า บางคนแก่มากๆ มาไม่ได้เลย แก่ก็เรื่องนึง ไม่มีเงินเหมารถมาก็เรื่องนึง อีกประเภทคือผู้ป่วยติดเตียงซึ่งก็มีไม่น้อย ไม่สามารถมาแสกนหน้าที่ร้านค้าได้จริงๆ แบบนี้รัฐพอแก้ไขอะไรได้ไหม
รวมถึงมีเรื่องที่แอปฯ ถุงเงิน พออัปเดตเวอร์ชั่นในแสกนหน้าแล้ว โทรศัพท์เวอร์ชั่นเก่าใช้ไม่ได้เลย ร้านค้าต้องไปซื้อโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ มาเพื่อให้รองรับอีก เมื่อวานยืนดูทุกขั้นตอน บางคนแสกนหน้าไม่ผ่านก็มี ทั้งๆ ที่เป็นบัตรของตัวเอง ฝากเรื่องนี้หน่อยนะคะ (พอดีเราเป็นเซลล์ เมื่อวานเข้าร้านค้า เค้าบ่นกันทุกร้านเลยค่ะ คนที่มารูดบัตรก็บ่นเหมือนกัน เพราะมีแต่ผู้สูงอายุมาจากนอกตัวอำเภอทั้งนั้นเลย)"
ด้านชาวเน็ตต่างแสดงความคิดเห็นดังนี้
- เราจะต้องทำอย่างไรคะ เมื่อวานไปซื้อของเป็นบัตรของลูกชาย ซึ่งเขาไม่สามารถไปซื้อด้วยตัวเองไม่ได้ เพราะปกติฉันซึ่งเป็นแม่ไปเอาให้เขาประจำ เราใช้นามสกุลเดียวกัน เขาให้สแกนหน้าเจ้าของบัตร เริ่มยุ่งยากแล้วค่ะ เราเป็นแม่ไม่ได้เอาของลูกไปใช้ฟรีๆ เราแค่ไปเอาของมาให้เขา ซึ่งเขาไปเอาด้วยตัวเองไม่ได้ ขอความกรุณาเถอะค่ะ
- โคตรยุ่งยาก คนแก่บางคนเค้าก็เดินไม่สะดวก จากให้ลูกหลานมากดบัตรได้ กลายเป็นต้องมาเอง ลำบากเค้าอีก ร้านค้าที่รับเวลาคนมากดบัตรจากคนหนึ่งมา 2-3 บัตร กลายเป็นคนมากดบัตรคนละใบ กลายเป็นความาวุ่นวายของร้านค้า เบื่อพวกนั่งโต๊ะคิดโครงการ ไม่เคยรู้เลยว่าหน้างานมีปัญหาขนาดไหน
- จะมีเงื่อนไขอะไร สงสารคนแก่ หรือคนที่อยู่ไกลร้านหน่อย ไม่มีการเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการ ค่าของใช้ ก็เพิ่มขึ้น 300 ซื้อข้าว 1 ถุงก็จะหมดเงินแล้ว ยังมีเงื่อนไขให้ยุ่งยากไปอีก รบกวนคนที่มีอำนาจในการเสนอเงื่อนไขต่างๆ ดูว่าคนใช้งานจริงยุ่งยากมั้ย
- กว่าจะได้ใช้เงินสามร้อย มันช่างยากลำบากเหลือเกิน คนแก่ คนพิการ ที่ไม่มีลูกหลานดูแล ได้แต่อาศัยพึ่งพาเพื่อนบ้านจะทำยังไงกัน
- ทีกับคอลเซ็นเตอร์ (หมายถึง แก๊งคอลเซ็นเตอร์) กลับปล่อยผ่านแบบสบายๆ
- เงินแค่ 300 แต่ทำขั้นตอนยังกะ 30,000 ใช้สมองส่วนไหนคิดขั้นตอนนี้ออกมา
- คนแจกเงินเป็นคนมีอันจะกิน ออกกฎเพื่อเอื้อนายทุน
- คงคิดจะตัดงบคนจน
- แล้วคนที่เดินไม่ได้ คนป่วยที่ให้ญาติไปสแกนให้ ต้องทำไง หรือท่านๆ รัฐมนตรีต้องให้เข็นเตียงไปสแกน 300 มีค่ามากนะคะสำหรับเค้าเหล่านี้
- นี่แหละคือปัญหาระบบราชการไทย มักทำอะไรให้มันยุ่งยาก แต่ไม่สามารถป้องกันมิจฉาชีพได้
- ลำบากมาก ก็เลิกแจกไปเถอะ