เปิดประวัติ ทำความรู้จัก “อาจารย์เอ จักรพรรดิ” กว่าจะมีวันนี้เส้นทางไม่สวยหรู เคยผิดพลาดธุรกิจ ล้มละลายมาก่อน หลังบนบานศาลกล่าวเกิดปาฏิหาริย์ ลั่นวาจาขอเป็นตัวแทนของเทพไท้เทวาครูบาอาจารย์ในการสื่อสารเรื่องศรัทธากับผู้คน เตรียมสร้างสถานปฏิบัติธรรมและสถานที่สอนสัมมาชีพ พร้อมแจงประเด็นดรามา ลูกศิษย์ลูกหา ก้มหมอบกราบเกิดจากความรักความศรั ทธาที่มีต่ออาจารย์ ด้านลูกศิษย์กลั้นน้ำตาไม่อยู่ เล่าวินาทีชีวิตดำดิ่งแต่หลังจากมาเจออาจารย์แล้วชีวิตดีขึ้น
จากประเด็นดรามากรณีเพจอีซ้อขยี้ข่าว แชร์คลิปคนแห่หมอบกราบ “อาจารย์เอ จักรพรรดิ” พร้อมตั้งคำถาม ทำไมต้องหมอบกราบ? เขาคือใคร...อยู่วรรณะไหน? ซึ่งภาพจากคลิปเป็นชายรายหนึ่งในชุดสีฟ้านั่งรถหรูหรามีคนประกบดูแลใกล้ชิดคอยถือร่มให้อีกทั้งยังมีพรมปูรอรับจากรถท่ามกลางผู้คนที่นั่งพนมมือไหว้ต้อนรับบางรายมีพวงมาลัยมามอบให้ ภายหลังจากคลิปดังกล่าวนี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ทำเอาหลายคนสงสัยและอยากรู้ถึงประวัติความเป็นมาของคนดังกล่าวนี้ว่าเป็นใคร เหตุใดจึงมีผู้คนมารอกราบไหว้และมีลูกศิษย์เป็นจำนวนมาก
ล่าสุดวันนี้ (13 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. อาจารย์เอ จักรพรรดิ เปิดสำนักเทวาลัย ให้สื่อมวลชนได้ซักถามข้อเท็จจริง และได้มีการทำความรู้จักกับอาจารย์ พร้อมเปิดประวัติความเป็นมา รวมไปถึงชี้แจงประเด็นดรามาที่เกิดขึ้น โดยอาจารย์เอ จักรพรรดิเปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ตนเป็นอาจารย์และเป็นคนคนหนึ่งที่เกิดมาเหมือนคนทั่วไป เกิดจากครอบครัวชาวนา พ่อของอาจารย์มีตาข้างเดียวแล้วก็เลี้ยงอาจารย์มาอย่างดี ให้การศึกษามาโดยตลอด อาจารย์เกิดมาไม่ได้มีโอกาสในชีวิตมากมาย จึงพยายามที่จะทำงานทุกอย่างที่สามารถทำได้ ต่อสู้ชีวิตมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นพนักงานร้านเช่า VCD ตั้งโต๊ะขายโทรศัพท์ ขายเสื้อผ้า ร้านเสริมสวยต่างๆ แต่ที่คนรู้จักอาจารย์มากที่สุดน่าจะเป็นช่วงที่ขายสบู่นีออน
สำหรับประเด็นดรามากรณีเพจอีซ้อขยี้ข่าวแชร์คลิปคนแห่หมอบกราบ “อาจารย์เอ จักรพรรดิ” พร้อมตั้งคำถาม ทำไมต้องหมอบกราบ? เขาคือใคร...อยู่วรรณะไหน? นั้น อาจารย์เอ จักรพรรดิได้กล่าวชี้แจงว่า คลิปจากภาพที่มีการกราบไหว้ อย่างแรกอาจารย์ขออธิบายว่าอาจารย์ไม่เคยมีกฎระเบียบว่าทุกคนมาถึงแล้วต้องกราบไหว้อาจารย์ ต้องนั่งกับพื้น ต้องหมอบ หรือต้องคาน ลูกศิษย์ที่นี่จะทราบกันดี เคยมีคนบอกว่าไม่เหมาะสม อาจารย์ก็ระมัดระวังเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ที่ผ่านมา อาจารย์ไลฟ์สดแจ้งลูกศิษย์ว่าหากมาหาอาจารย์ยืนได้ตามปกติ ทุกคนที่มาถ่ายรูปกับอาจารย์ก็จะทราบดีว่าอาจารย์บอกเสมอว่าให้ยืนได้ แต่ท้ายสุดแล้วมันคือความรักความศรัทธาที่ลูกศิษย์มีต่ออาจารย์ อาจารย์เป็นคนคนหนึ่งที่มีครูบาอาจารย์เช่นเดียวกัน และเวลาอาจารย์เข้าหาครูบาอาจารย์อาจารย์ก็หมอบก็กราบ เป็นการให้ความเคารพและความรักมันไม่มีเหตุผล และไม่มีกฎกติกาใด และอาจารย์เข้าใจได้ดีว่าในภาพของคนที่มองเข้ามาอาจจะรู้สึกว่าเหตุใดทำไมถึงเป็นภาพแบบนี้ เกิดความคิดต่างๆ นานา อาจารย์เข้าใจทุกความคิดเห็นของทุกคน เพราะทุกคนมีความเชื่อ ความคิด มุมมองที่แตกต่างกันออกไป แต่ท้ายสุดแล้วอาจารย์เชื่อว่าไม่ว่าเรากำลังเชื่ออะไรอยู่ คิดอะไรอยู่ เราทุกคนอยากได้รับการเคารพในความเชื่อของตนเสมอ
สำหรับพรมแดงที่ปรากฏอยู่ในคลิป และมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าปูพรมแดงรอต้อนรับนั้น แท้จริงแล้วเป็นพรมเช็ดเท้า ส่วนพรมสีน้ำเงินนั้นปูไว้สำหรับให้ลูกศิษย์ลูกหาที่มาที่เทวาลัยแห่งนี้รู้สึกเดินสบายเท้าไม่ร้อน ร่มรื่น
ส่วนจะไปกำชับลูกศิษย์หรือไม่นั้น อาจารย์คงไม่ไปกำชับเพราะมันเป็นการแสดงออกถึงความรัก ถ้าไปห้ามนั่นหมายถึงกฎเกณฑ์ เพราะฉะนั้นเขาอยากแสดงออกความรัก เขาทำได้แต่ให้รู้ไว้ว่าอาจารย์ไม่ได้เรียกร้องให้ทุกคนจะต้องแสดงออกแบบนั้น อาจารย์ก็อยากจะบอกว่าเข้าใจได้กับประเด็นที่เกิดขึ้น อาจารย์ก็เป็นมนุษย์หนึ่งคนที่มีความชอบและไม่ชอบ เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เป็นเรื่องปกติ ดังนั้นเคารพในความคิดเห็นของทุกคนว่าอาจจะมีแตกต่างกันไปบ้าง ไม่เป็นไร แต่ก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาคอมเมนต์ที่ทำให้ตนได้กลับมาศึกษาตนเอง เข้าใจตนเองและถามกับตนเองว่าเราจะสามารถดีขึ้นได้อย่างไรบ้าง
สำหรับจุดเริ่มต้นของการมาเป็นอาจารย์เอ จักรพรรดิ อยู่ในช่วงที่อาจารย์เคยล้มละลายมาก่อน ผิดพลาดทางธุรกิจ ซึ่งอาจารย์ได้ไปบนบานศาลกล่าวกับครูบาอาจารย์ว่าหากสามารถผ่านพ้นช่วงวิกฤตนี้ไปได้ และได้ทุกอย่างกลับคืนมา จะดำรงตนในสายนี้ เป็นตัวแทนของเทพไท้เทวาครูบาอาจารย์ในการสื่อสารเรื่องศรัทธาต่างๆ เหล่านี้ให้กับผู้คนได้รู้จัก ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ที่อาจารย์ได้ไปที่ศาลล้มละลายกลาง แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้อาจารย์ได้ทุกอย่างกลับคืนมา
อาจารย์เอ จักรพรรดิ เล่าว่า ที่ผ่านมาใช้ชีวิตขายของตามปกติ แล้วค่อยๆ เติบโตขึ้นมา และการที่จะมาเป็นอาจารย์นั้น อาจารย์เริ่มต้นจากตัวอาจารย์มีกลุ่มลูกศิษย์เล็กๆ กลุ่มหนึ่ง ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะเป็นที่รักของคนมากมาย แต่ทันทีที่เรารู้ว่ามีคนรักและศรัทธาในตัวเรามาก เราก็พยายามอยากจะเป็นคนที่ดีมากขึ้น ส่วนการร่ำเรียนศาสตร์วิชาต่างๆ จากครูบาอาจารย์นั้นขออนุญาตไม่เปิดเผย เพราะเป็นเรื่องที่ sensitive ไม่อยากให้เกิดการเชื่อมโยงใดๆ แต่ไม่ว่าอาจารย์จะร่ำเรียนมาจากไหนก็ตาม ส่วนตัวอาจารย์ทั้งหมดแล้วมันคือความเชื่อ มันคือที่พึ่งทางใจของผู้คน ที่มีความสบายใจได้มากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์
สำหรับการก่อตั้งเทวาลัยแห่งนี้ เกิดขึ้นจากความเชื่อที่อาจารย์เคยบนบานศาลกล่าวเอาไว้ ที่ว่าวันหนึ่งหากมีบุญมากพอ ขออนุญาตสร้างเทวาลัยขึ้นมาเพื่อให้คนได้มาสักการะและได้มีที่พึ่งทางใจ ส่วนตัวอาจารย์มองที่นี่เป็นบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านที่ใครบางคนที่ไม่มีใครรับฟังหรือไม่มองเขามีตัวตน ก็อยากให้เขาเข้ามาที่นี่แล้วรู้สึกสบายใจ เราทำให้เขาได้รับประโยชน์ให้เขาได้มีแรงกำลังในการต่อสู้ใช้ชีวิตต่อไปในอนาคต หากคนที่ติดตามอาจารย์จะทราบดีว่านอกเหนือจากการสร้างเป็นสถานที่ให้คนมากราบไหว้บูชาแล้ว อาจารย์ยังเตรียมที่จะก่อสร้างเป็นสถานปฏิบัติธรรมและสถานที่สอนสัมมาอาชีพ เพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสเรียนรู้ ได้มีการมาแบ่งปันอาชีพกัน ซึ่งอยู่ระหว่างการออกแบบและจะเริ่มก่อสร้างในเร็ววันนี้
ส่วนกิจกรรมหรือพิธีกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นที่เทวาลัยแห่งนี้ อาจารย์เป็นชาวพุทธ เคารพคุณพระศรีรัตนตรัย มีองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่ยึดมั่น แต่เราได้รับอิทธิพลความเชื่อมาจากพราหมณ์ฮินดูมาแต่โบราณ ดังนั้นการทำพิธีกรรมต่างๆ มันก็ย่อมมีอยู่บ้าง เช่น มีทำพิธีพระลักษณ์หน้าทอง คเณศชยันตี พิธีคเณศจตุรถี ที่ทำให้ใครรู้จักอาจารย์มากขึ้น โดยที่ไม่เรียกเก็บค่าครู หรือค่าทำพิธีกรรมกับลูกศิษย์ลูกหา อาจารย์อยากให้ทุกคนที่เดินเข้ามาที่เทวาลัยแห่งนี้อย่างน้อยที่สุดคุณจะได้รับรอยยิ้มความรู้สึกดีๆ ออกไปแค่นั้นเอง
สำหรับพิธีพระลักษณ์หน้าทอง ค่าพิธี 9 บาท ซึ่งการทำพิธีทางอาจารย์ได้ลงทุนจำนวนเงิน 10 กว่าล้านบาท เพราะทุกอย่างในการทำพิธีเป็นทองคำหมด แต่ที่ร่ำเรียนมาครูบาอาจารย์ได้บอกว่าหากเรียนไปแล้วจะหารายได้จากส่วนนี้ไม่ได้ซึ่งอาจารย์ก็พร้อมที่จะเรียนและเก็บค่าพิธี 9 บาทเท่านั้น ซึ่งมันก็ทำให้ทุกคนที่ไม่มีปัจจัยหรือทรัพย์มากพอต้องการที่พึ่งทางใจเขาสามารถเข้ามาทำพิธีได้ และทุกครั้งที่ทำพิธีอาจารย์จะให้เกียรติลูกศิษย์เสมอ มีทีมงานคอยบริการมีน้ำอาหารจัดให้หมด นอกเหนือจากนี้ยังมีกลุ่มลูกศิษย์หลายคนที่อยากทำพระลักษณ์หน้าทองแต่เขาไม่มีกำลังทรัพย์ และไม่สะดวกในการเดินทางตัวอาจารย์เองก็ทำพิธีพระลักษณ์หน้าทองสัญจร ครั้งแรกทำในจังหวัดขอนแก่น ทำไปประมาณ 2,000 กว่าคน ครั้งต่อไปจะไปทำที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 18 มีนาคมที่จะถึงนี้
ส่วนพิธีศิวราตรี ไม่ได้คิดค่าครู ค่าพิธีใดๆ ค่าใช้จ่ายของไหว้ทุกอย่างอาจารย์เตรียมไว้ให้หมด แต่บางพิธีที่จัดขึ้นอย่างเช่น วันที่ 13 เมษายน จะเป็นงานพิธีเสาร์ 5 คิดค่าครูพอเป็นธรรมเนียมแค่ 299 บาท เพราะทุกครั้งที่อาจารย์จัดงานพิธี อาจารย์จะไม่อยากให้เดือดร้อนคนในชุมชน จะไปเช่าที่จอดรถด้านนอก และต้องมีรถรับส่งลูกศิษย์เสมอในการเข้ามาทำพิธีจนกว่าพิธีจะจบ มีเครื่องไหว้สักการะ ทั้งพวงมาลัย ธูปเทียนของไหว้ต่างๆ เตรียมไว้ให้ลูกศิษย์ รวมถึงอาหารเช้าต่างๆ ด้วย อีกทั้งในงานวันดังกล่าวครูบาอาจารย์มาเยอะ ต้องให้เป็นพิธีธรรมเนียมปฏิบัติ 299 บาท
ในส่วนค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่อาจารย์ใช้ในการทำพิธีกรรมและค่าใช้จ่ายต่างๆ แม้ว่าจะไม่ได้มีการเรียกเก็บค่าพิธีกับทางลูกศิษย์นั้น เกิดจากรายได้ที่มา 2 ส่วน คือ รายได้จากวัตถุมงคล 2 อย่าง คือ ตะกรุดปรับฐานดวง และปี่เซียะจักรพรรดิ ถ้าคนติดตามเพจก็จะทราบดี และเรามีมูลนิธิที่จะช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส ส่วนพิธีกรรมต่างๆบางครั้งเป็นทรัพย์ส่วนตัวของอาจารย์ที่จะสนับสนุนเข้าไปด้วย
ส่วนประเด็นที่สังคมมองว่าอาจารย์เอ จักรพรรดิ จากพ่อค้าออนไลน์ แล้วผันตัวมาเป็นบุคคลที่คนกราบไหว้ ตรงนี้ อาจารย์ยอมรับว่าเคยเป็นพ่อค้าออนไลน์ แล้วเคยเป็นพ่อค้าขายเสื้อผ้า เคยติดหนี้รายวัน เคยเป็นพนักงานประจำ เคยมาหลายอย่างมาก แต่ทั้งหมดถือเป็นประสบการณ์ในชีวิต ซึ่งมันเป็นอดีตและเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนที่เกิดมาบนโลกนี้เพื่อค้นหาความสุขให้กับตนเอง ค้นหาสิ่งที่เรารัก แน่นอนในประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมามันอาจจะมีสิ่งที่เราทำดีบ้าง ทำร้ายบ้าง ที่เราภาคภูมิใจบ้างหรือเสียใจในตัวเองบ้าง แต่ไม่ว่าเหตุการณ์ไหนที่มันเกิดขึ้นในอดีตก็ตาม ตนเชื่อว่าทุกคนขับเคลื่อนและพยายามทำปัจจุบันให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนเป็นคนคนหนึ่งที่เคยผิดพลาดมาหลายเรื่อง สำเร็จมาหลายเรื่อง แต่วันนี้อยากเป็นคนที่ดีขึ้นเท่านั้นเอง แค่ให้โอกาสตัวเองได้ลุกขึ้นมาดีขึ้นเท่านั้นเอง
ขณะเดียวกัน ในวันนี้ทีมข่าวยังได้สอบถามกับลูกศิษย์ลูกหาประชาชนที่เดินทางมาไหว้สักการะองค์เทพต่างๆ ถึงพลังศรัทธาที่มีต่อตัวอาจารย์เอ จักรพรรดิ โดยคุณดา และคุณแพท เดินทางมาจากสมุทรปราการและใจกลางเมืองกรุง บอกกับทีมข่าวว่า อาจารย์เอ จักรพรรดิ เป็นอาจารย์ที่ดีที่สุด ไม่เคยเรียกร้อง ลูกศิษย์ทุกคนจะทราบกันดี ลูกศิษย์ให้กันด้วยความเต็มใจ ต้องคนที่สัมผัสเท่านั้นจะรู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร ส่วนตัวไม่ได้โกรธสังคมที่ดรามาต่ออาจารย์ เพราะเข้าใจได้ว่าคนเราไม่ได้คิดเหมือนกันหมด แต่หากคุณได้มาสัมผัสอาจารย์ด้วยตนเองแล้วคุณจะรู้ว่าอาจารย์เป็นคนแบบไหน เป็นคนที่น่ารักมีแต่ให้ มีหลักการในการดำเนินชีวิต ให้กำลังใจ ให้อาชีพ มีแต่พลังบวก
ทั้งคุณดาและคุณแพทถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ต่างเล่าประสบการณ์ชีวิตที่ก่อนหน้านี้เคยดำดิ่งมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ แต่หลังจากได้มาพบกับอาจารย์เอ จักรพรรดิแล้วชีวิตดีขึ้น ให้คำสอน ให้ความช่วยเหลือทุกคนและพร้อมที่จะมอบชีวิตให้กับอาจารย์ด้วย ส่วนประเด็นดรามาที่เกิดขึ้นก็อยากจะฝากบอกสังคมว่าใครก็ตามที่ไม่รู้จักอาจารย์เราที่แท้จริงก็อย่ามาพูดแบบนี้ อย่ามาทำให้อาจารย์เราเสียหาย อยากให้เข้ามาสัมผัสก่อนว่าอาจารย์เราเป็นคนแบบไหน ไม่ใช่อยากจะพูด หรืออยากจะเขียนอะไรไปเพราะคำพูดหรือคำเขียนของพวกคุณทำร้ายคนได้