xs
xsm
sm
md
lg

เบื้องลึก “รองเต่า” เปิดหน้าชน “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ต.มั่นใจน็อก พล.ต.อ.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เปิดเบื้องลึก รอง ผบช.ก.กล้าออกมายืนปักหลักชน “บิ๊กโจ๊ก” ปมคดีเว็บพนันมินนี่ สร้างความอุ่นใจให้ตำรวจชุดสอบสวน และดักทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ไม่ให้เล่นแผนสกปรก งานนี้ พล.ต.ต.มั่นใจมีหมัดเด็ดน็อก พล.ต.อ.ได้แน่นอน จับตาคดีเข้าสู่ภาคต่อ ข้อหาฟอกเงิน จากหลักฐานคดีเว็บพนันในเครือข่ายที่ถูกจับได้เมื่อปลายปีที่ผ่านมา พบเส้นเงินโยงถึงโดยตรง



ในรายการ  “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก”เมื่อวันศุกร์ที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการได้กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ “บิ๊กเต่า” กล้าออกมาสวน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กรณีการดำเนินคดีนายตำรวจผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายเว็บพนันมินนี่ ซึ่งงานนี้ต้องจับสัญญาณว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ต้องการสื่ออะไร

ทั้งนี้ การที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ซึ่งมียศต่ำกว่าคือเป็นพลตำรวจตรีแต่เป็นรุ่นพี่ คือ นรต.45 ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นั้นเป็นพลตำรวจเอกแต่เป็น นรต.47 โดดลงมาเล่นเกมนี้เต็มตัว เรียกว่าเปิดหน้าชก แลกหมัดกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แบบไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม นั่นหมายความว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ มั่นใจว่างานนี้มีหมัดเด็ดที่พร้อมปล่อย แบบไม่ต้องรอผลคะแนนจากกรรมการข้างเวที เรียกว่าเข้าทางเมื่อไหร่ พล.ต.ต.พร้อมปล่อยหมัดน็อก พล.ต.อ.ทันที

เกมที่มีเดิมพันสูงแบบนี้ เรียกว่าใครพลาดต้องตายกันไปข้างนึงงานนี้ไม่มีเสมอ ออกได้แค่ 2 หน้า “ไม่แพ้ก็ชนะ”


การที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ แสดงภาวะผู้นำออกมายืนหน้าแถว ปักหลักซดกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ งานนี้นี้ต้องการปลุกขวัญ สร้างความเชื่อมั่นให้กับชุดสอบสวน ไม่ต้องเกรงกลัวคำขู่ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ งานนี้เรียกว่าได้ใจไปเต็มๆ ชุดสอบสวนเดินหน้าทำคดีต่อได้ด้วยความมั่นใจว่า ผู้บังคับบัญชา พร้อมยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ไปตลอดทาง ที่สำคัญอย่าลืมว่าใครยืนอยู่ข้างหลัง “บิ๊กเต่า” ?

ประเด็นที่สำคัญที่สุด สังคมต้องการคำตอบอย่างยิ่ง มีพยานหลักฐานสามารถเอาผิดกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และ ทีมงาน อย่างแน่นอน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ถึงกับหลุดปากว่าเห็นหลักฐานแล้วรู้สึกเศร้าและสะเทือนใจ

การที่ชุดสอบสวนมอบให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ออกมาแถลงคดี เพราะรู้ดีว่า “บิ๊กโจ๊ก” วางแผนเล่นเกมสกปรก ดังคำท้าทายของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้ตัวใหญ่ ระดับ พล.ต.อ. ออกมา อย่าเป็น“อีแอบ”อันสื่อถึง พล.ต.อ.ระดับหัวแถว ของ สตช. เหมือนเป็นการขุดบ่อล่อปลา ซึ่งไม่แน่ใจว่าหมายถึงใคร หมายถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ หรือ พล.ต.อ.ธนา รอง ผบ.ตร.กันแน่

ถ้าหากว่า พล.ต.อ.คนดังกล่าว หมายถึง พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ ออกตัวเมื่อไหร่ก็เข้าทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่จะอ้างว่า พล.ต.อ.ธนา อิจฉา ต้องการเตะตัดขา ด้วย พล.ต.อ.ธนา ก็เป็นแคนดิเดต ผบ.ตร.ที่มาแรงคนหนึ่ง ด้วยสไตล์การทำงานที่เด็ดขาด ดุดัน ที่สำคัญพูดน้อยต่อยหนัก เรียกว่าเข้าตากรรมการ มีโอกาสเข้าวินสูง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะเล่นเกมใต้ดินตามที่ตัวเองถนัด ตามสาดโคลนใส่ พล.ต.อ.ธนา ว่าต้องการเตะตัดขาสกัดไม่ให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้เป็น ผบ.ตร. เนื่องจากเป็น รอง ผบ.ตร.ที่มีอาวุโสสูงที่สุด

ขณะเดียวกันการที่ “อีแอบ” จากคำยั่วยุของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เดินเกมหงายไพ่ บิ๊กเต่า ออกมาเดิมพันงานนี้จึงถือว่า เดินเกมระดับเซียนเรียกพี่ ไม่งั้นมีหวังเข้าทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้สวนหมัดได้แบบเต็มๆ

วิเคราะห์คำสั่งที่ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ออกมากำชับเรื่องการแถลงข่าวล่าสุด ดูเหมือนเป็นการหย่าศึกระหว่าง “บิ๊กโจ๊ก” กับ “บิ๊กเต่า” แต่ถ้าวิเคราะห์ในเนื้อหาแล้วก็จะเห็นว่า คนที่ต้องหยุดแถลงข่าวรายวันเห็นจะไม่พ้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แต่เพียงฝ่ายเดียว


เพราะตัวเองไม่มีอำนาจหน้าที่ ที่ผ่านมาการที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกมาแถลงข่าวรายวัน ก็ไม่ได้ทำเพื่อองค์กรหรืองานในหน้าที่รับผิดชอบ แต่เพื่อแก้ต่างให้ตัวเองซะมากกว่า แค่อาศัยเครื่องแบบ และ สโมสรตำรวจเป็นที่แถลงข่าว

ผิดกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นโฆษกชุดสอบสวน ยังมีอำนาจหน้าที่ในการแถลงข่าวได้

นอกจากนี้หากวิเคราะห์คำสั่งของ ผบ.ตร. ให้ 8 ลูกน้อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไป ศปก.ตร. โดยแม้จะให้ขาดจากตำแหน่งเดิม แต่ก็ต้องเรียกว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยังคงคอนเซ็ปต์“ต่อเฟรนด์ลี่”ไม่มีเปลี่ยนแปลง

ศึกนายพลสีกากี “บิ๊กเต่า จรูญเกียรติ” เปิดหน้าชน “บิ๊กโจ๊ก หวานเจี๊ยบ” คงจะพอมองออกแล้วว่า ใครจนมุมในเกมนี้


เรื่อง “คดีเครือข่ายเว็บพนันมินนี่” ที่ลูกน้องบิ๊กโจ๊ก 8 คน โดนแจ้งข้อหากันแบบยกก๊วน หรือแม้กระทั่งตัวเจ้านายเองอย่าง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ก็กำลังจะหลบเลี่ยงไม่ให้ถูกดำเนินคดีอาญา จนหาที่พิงอาญา ป.ป.ช. หรือพยายามดึงคดีไปให้ดีเอสไอทำคดี เพื่อซื้อเวลา

แต่คดีกำลังเข้าสู่ภาคต่อไป ที่จะมาถึงในช่วงสัปดาห์หน้านี้ พวก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะเจอแจ้ง “ข้อหาฟอกเงิน” ซึ่งบอกได้ว่า คดีฐานความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินนั้นเป็นคดีอาญาหนัก และความผิดข้อหาฟอกเงิน เป็นอำนาจของตำรวจชุดสอบสวนในคดีนี้ เต็ม 100%

โดยกรณีฟอกเงินนี้ ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจตรวจสอบสำนวนคดี ไม่มีอำนาจเรียกสำนวนไปทำเอง

หลักฐานพยานเอาผิดข้อหาฟอกเงินปรากฎในเส้นเงินชัดเจน จากคดีเว็บ VENUS Master เตาปูน ที่บริหารโดย “น.ส.พิมพิไลย” โดยมีการจับกุมไปเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา และพบการโอนเงินจาก “บัญชีม้า” ของ น.ส.พิมพิไลย เข้า “บัญชีม้า” ของ “รองคริษฐ์” ตำรวจคนใกล้ชิด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และที่สำคัญคือมีเส้นเงินที่เชื่อมโยงเข้าถึงตัว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์โดยตรงด้วย

คาดว่าเจอไม้เด็ดนี้ทั้งแก๊งตายเรียบ ตั้งแต่นายตำรวจระดับชั้นประทวนไปจนถึงระดับพลตำรวจเอก เลยทีเดียว!


กำลังโหลดความคิดเห็น