ร่วมค้นหาแนวทางการทำงานที่ยั่งยืนในอนาคต ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในที่ทำงานและสุขภาวะที่ดีกับผู้นำทางธุรกิจชั้นแนวหน้าในเวทีเสวนา JustCo Future of Work ผู้นำทางธุรกิจ และผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายอุตสาหกรรมได้มาร่วมพูดคุยกันในงาน JustCo Future of Work Forum ครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อค้นหาแนวทางในการรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตของยุคการทำงานแบบไฮบริด เจาะลึกถึงบทบาทความสำคัญของการออกแบบพื้นที่ทำงาน เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมและสุขภาวะที่ดีของพนักงาน
เมื่อวันที่ 28 ก.พ. JustCo (จัสโค) ได้มีการจัดงาน Future of Work Forum ที่สาขา OCC (One City Centre) เป็นครั้งแรก โดยภายในงานได้รวบรวมเหล่านักธุรกิจชั้นแนวหน้ารวมถึงผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรมมาร่วมพูดคุยค้นหาแนวทางการทำงานแบบไฮบริดแห่งอนาคต มีการนำเสนอข้อมูลเชิงลึกต่างๆ ที่สำคัญเกี่ยวกับการนำรูปแบบการทำงานแบบไฮบริดที่มีความยืดหยุ่นไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนทุกยุคทุกวัย และร่วมพูดคุยกันในเรื่องความสำคัญของการออกแบบพื้นที่ทำงานเพื่อสุขภาวะที่ดีของพนักงาน
เวทีเสวนา Future of Work Forum ครั้งแรกของ JustCo นี้มุ่งเน้นไปที่ประเด็นสำคัญในยุคการทำงานแบบไฮบริด โซลูชันที่ยั่งยืนเพื่อเตรียมรับมือกับบริบทของแรงงานในอนาคตที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยเวทีอภิปรายแรกพูดคุยเกี่ยวกับ "Bridging the Gap: Gen Z, Technology, and the Rise of Hybrid Work" เจาะลึกถึงวิธีที่ธุรกิจต่างๆ สามารถผสมผสานความต้องการและความชอบของคนรุ่นใหม่เข้ากับรูปแบบการทำงานแบบยืดหยุ่นได้อย่างราบรื่น
เวทีอภิปรายนี้รวบรวมผู้นำในอุตสาหกรรม นักธุรกิจระดับแนวหน้าไว้มากมาย ทั้ง คุณ วิมลนิตย์ เลิศพิทักษ์กิจ ผู้จัดการทั่วไป บริษัทจัสโค ประเทศไทย, คุณซีเค เจิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟาสต์เวิร์ค เทคโนโลยีส์ จำกัด, คุณสจวท เจ ราช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเอฟคิว (ประเทศไทย) จำกัด และคุณชุติพัทธ์ ตั้งกุศลจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกดเจ็ตสตอรี่ จำกัด ร่วมพูดคุยถึงความจำเป็นในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและพื้นที่ทำงานหลากหลายส่วน เพื่อส่งเสริมการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่น่าดึงดูด เชื่อมโยงพนักงานทุกกลุ่มทุกวัยเข้าด้วยกัน
คุณวิมลนิตย์ เลิศพิทักษ์กิจ ผู้จัดการทั่วไป บริษัทจัสโค ประเทศไทย ได้กล่าวไว้ว่า "การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมมีความสำคัญมากกว่าที่เคยเป็นมาโดยเฉพาะในยุคการทำงานแบบไฮบริด ธุรกิจต่างๆ ในช่วงหลังภาวะโรคระบาดกำลังมองหาโมเดลการทำงานแบบไฮบริดและโซลูชันพื้นที่ทำงานที่ยืดหยุ่น เพื่อดึงดูดพนักงานในหลากหลายสายอาชีพและช่วงวัย โดยเฉพาะการให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมสมดุลชีวิตกับการทำงานที่มากขึ้น ทำให้การสร้างความสัมพันธ์ภายในสถานที่ทำงานทวีความสำคัญยิ่งขึ้น ในฐานะผู้ให้บริการพื้นที่ทำงานแบบยืดหยุ่นชั้นนำของเอเชีย เรามีความภาคภูมิใจในการนำเสนอพื้นที่ทำงานที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับทุกสไตล์การทำงานและจัดพื้นที่ที่ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์เหมือนอย่างเวทีเสวนาในครั้งนี้"
เวทีอภิปรายที่สอง ได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับ "Beyond Aesthetics: Design and Wellness at the Workplace" การออกแบบที่คำนึงถึงมากกว่าแค่ความสวยงาม ส่งผลอย่างไรต่อความเป็นอยู่ และประสิทธิภาพในการทำงาน โดยการพูดคุยนี้จะมุ่งเน้นไปที่บทบาทอันแสนสำคัญของการออกแบบพื้นที่ทำงานเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน โดยเวทีนี้ประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญและนักธุรกิจชื่อดังอย่าง คุณกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RML หรือ (บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน), คุณธริดา คล้ายประชา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โคคูโย อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด และคุณณิชารีย์ พงษ์สมบูรณ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ย๊าฟ ดีไซน์ จำกัด มาร่วมพูดคุยกันถึงวิธีการสร้างสรรค์พื้นที่ทำงานที่จะช่วยส่งเสริมสุขภาพ ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน และสนับสนุนรูปแบบการทำงานที่หลากหลาย เพื่อเสริมสร้างการพัฒนาของพนักงานในยุคการทำงานแบบไฮบริด บทสนทนาที่น่าสนใจเหล่านี้ นำเสนอแนวคิดอันมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่ต้องการปรับสภาพแวดล้อมการทำงานขององค์กรและสร้างวัฒนธรรมที่ยั่งยืน รองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตสำหรับคนทุกเพศทุกวัย
คุณกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RML หรือ (บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรีและอัลตราลักชัวรี กล่าวว่า “ปัจจุบันคนให้ความสำคัญต่อพื้นที่ทำงานที่ส่งเสริมสุขภาวะที่ดี (Well-Being) มีเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องความสะดวกสบายและสุขอนามัย เช่น เทคโนโลยีไร้สัมผัส ระบบกรองอากาศ MERV 14 ที่กรองฝุ่น PM 2.5 ได้ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อยู่บนทำเล CBD ใจกลางเมือง ที่เดินทางสะดวกทั้งระบบขนส่งมวลชนและรถยนต์ส่วนตัว รวมทั้งเป็นพื้นที่ที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน ตอบโจทย์แนวทางการทำงานแบบไฮบริดและวิถีการทำงานของคนรุ่นใหม่ อีกทั้งคำนึงถึง Sustainability โดยพื้นที่ทำงานควรตั้งอยู่ในอาคารที่มีรางวัลรับรองตามมาตรฐานสากลด้านความยั่งยืน เช่น LEED และ Fitwel ตลอดจนมีพื้นที่สีเขียว และมีพื้นที่สำหรับแฮงก์เอาต์ ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่ เพื่อให้พนักงานได้พักผ่อนหย่อนใจ นัดพบปะสังสรรค์กับเพื่อนหลังเลิกงาน สร้างสมดุลระหว่างการพักผ่อนกับการทำงานที่เหมาะสมด้วย”
JustCo ในฐานะผู้ให้บริการพื้นที่การทำงานที่ยืดหยุ่นชั้นนำของเอเชียได้ตระหนักดีถึงความสำคัญของการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันในพื้นที่ทำงาน ดังนั้น JustCo จึงได้ออกแบบพื้นที่แห่งการสร้างสรรค์ การสร้างปฏิสัมพันธ์ และส่งเสริมการทำงานร่วมกันเพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านี้ นับตั้งแต่ที่โลกเข้าสู่ยุคของการทำงานแบบไฮบริด สุขภาวะของพนักงานกลายเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมากขึ้น ดังนั้นธุรกิจต่างๆ จึงหันมาให้ความสำคัญต่อแนวทางการจัดสรรพื้นที่ทำงานที่มีคุณภาพ เพื่อที่จะรักษาและดึงดูดพนักงานให้กลับมาทำงานในพื้นที่ทำงานหรือออฟฟิศอีกครั้ง
และเพื่อตอบสนองเทรนด์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป JustCo จึงได้เปิดตัวพื้นที่ทำงานระดับพรีเมียมที่มีความยืดหยุ่นไปทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิก ไปแล้วกว่า 50 แห่งใน 8 เมืองท่องเที่ยวหลัก โดยมีสาขาใหม่ล่าสุดที่ใจกลางกรุงเทพมหานครฯ ได้แก่ JustCo สาขา OCC ที่รวบรวมทุกอย่างไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะการส่งเสริมสุขภาพที่ดีในที่ทำงาน การสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน นอกเหนือจากนี้ยังมอบความสะดวกสบายด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับโรงแรม และเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติอันสวยงามที่จะช่วยส่งเสริมสุขภาวะที่ดีในที่ทำงานให้แก่พนักงานทุกคน อีกทั้งผู้ใช้งานยังสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ทำงานของ JustCo ในการสร้างเครือข่ายและขยายขอบเขตการทำงานร่วมกันกับธุรกิจอื่นๆในวงกว้าง และงานเสวนา JustCo Future of Work Forum จะเป็นดั่งพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้ามามีส่วนร่วมเพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่มีประโยชน์ร่วมกัน
คุณวิมลนิตย์ เลิศพิทักษ์กิจ ผู้จัดการทั่วไป บริษัทจัสโค ประเทศไทย ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “เนื่องจากธุรกิจในปัจจุบันได้หันมาให้ความสำคัญต่อประโยชน์ที่ได้รับจากการทำงานในรูปแบบไฮบริดทั้งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม พื้นที่ทำงานแบบ co-working และพื้นที่ทำงานที่ยืดหยุ่นจึงกลายเป็นแนวทางที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจทั่วทุกมุมโลก และมีแนวโน้มสูงที่จะกลายเป็นแนวทางหลักในการดำเนินธุรกิจ JustCo พร้อมเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับทุกธุรกิจในการสร้างการเติบโตการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ การสร้างเครือข่าย และมุ่งหน้าไปสู่ความสำเร็จ”