หลังจาก 1 ใน 5 ผู้ต้องหาคดีครอบครองปรปักษ์บ้านอากู๋ ย่านรามอินทรา 58 ฆ่าตัวตายเสียชีวิตในบ้านพักตัวเอง ต่อมา ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เผยตนได้แจ้งให้อากู๋ทราบแล้วอากู๋ถึงกับช็อกและขอแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิต
วันนี้ (26 ก.พ.) รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 07.30 น. น.ส.ภานุมาศ สามัคคี 1 ใน 5 ผู้ต้องหาคดีครอบครองปรปักษ์บ้านอากู๋ ย่านรามอินทรา 58 แยก 6-2 เขตคันนายาว กรุงเทพฯ ใช้ผ้าขนหนูผูกคอกับประตูห้องน้ำ ฆ่าตัวตายในบ้านพักตัวเอง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาวอยู่ระหว่างเข้าตรวจสอบเพื่อสรุปสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง
ด้านเฟซบุ๊ก "ทนายคลายทุกข์" ของทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ โพสต์ข้อความระบุว่า "ผมได้แจ้งให้อากู๋ทราบแล้วอากู๋ถึงกับช็อกและขอแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของผู้บุกรุก และขออโหสิกรรม #จากทนายเดชา"
สำหรับคดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากบ่าวสาวคู่รักรายหนึ่งไปร้องเรียนนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ ระบุว่าถูกเพื่อนบ้านบุกรุกบ้านที่พ่อซื้อเก็บไว้ ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยรามอินทรา 58 แยก 6-2 และตั้งใจให้เป็นของขวัญแต่งงาน โดยผู้บุกรุกเข้ามาพูดคุย บอกว่ายินยอมย้ายออก แต่ขอเรียกเก็บค่าต่อเติมบ้าน เจ้าของบ้านตัวจริงไปแจ้งความไว้ที่ สน.โคกคราม ข้อหาบุกรุก ลักทรัพย์ ทำให้เสียทรัพย์ ปรากฏว่าเรื่องยังไม่จบ เพราะผู้บุกรุกกลับมาอยู่ซ้ำ ติดป้ายอ้างได้สิทธิครอบครองปรปักษ์ทั้งที่เรื่องยังไม่จบ หนำซ้ำมีการนำป้ายมาติดหน้าบ้านเปิดเป็นร้านขายไก่ทอด ติดหน้าบ้านระบุข้อความอ้างว่าได้กรรมสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์ตามกฎหมาย
นอกจากนี้ยังพบว่าผู้บุกรุกกลับใช้เบอร์โทรศัพท์ใครก็ไม่รู้มาขึ้นป้าย ร้อนถึงเจ้าของเบอร์ตัวจริงที่เป็นนักศึกษาอยู่ภาคใต้ ยืนยันว่าไม่ใช่เบอร์ขายไก่ทอด และไม่เกี่ยวข้องกับผู้บุกรุก อีกทั้งมีคนทักเข้ามาด่าในไลน์โดยการเพิ่มเบอร์มือถือเยอะมาก
ต่อมาวันที่ 13 ก.พ. ทนายความพร้อมตำรวจ สน.โคกคราม และหลานเจ้าของบ้าน เข้าตรวจสอบบ้านพัก พร้อมปลดป้ายไก่ตะเกียบ เก็บหลักฐานในบ้านส่งตำรวจเอาผิด และขึ้นป้ายใหม่ ห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาตแทน กระทั่งวันที่ 16 ก.พ. พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม นำตัวผู้บุกรุก นำโดย น.ส.ศรีพรรณ สามัคคี กับพวกรวม 5 คน มาส่งสำนวนต่ออัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี 1 พร้อมมีความเห็นควรสั่งฟ้องในข้อหาบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ และลักทรัพย์ โดยอัยการได้มีคำสั่งให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คน โดยไม่ต้องประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีไม่ร้ายแรง และจะส่งให้ศาลพิจารณาภายในวันที่ 6 มี.ค.นี้