xs
xsm
sm
md
lg

เปิด 6 สำนวนร้องเรียน “บิ๊กโจ๊ก” ใน ป.ป.ช. คาดโดนดองเหมือนเคย รอความหวังประธานคนใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เผยเหตุ “บิ๊กโจ๊ก” กล้าท้าทายให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบปมเอี่ยวเว็บพนัน เหตุเคยหลุดคดีส่วยร้านคาราโอเกะ ที่ ป.ป.ช.เคยสอบเมื่อ 14 ปีก่อน แต่อย่าชะล่าใจ เพราะล่าสุดตดีถูกรื้อขึ้นใหม่ ซ้ำยังมีอีก 6 เรื่อง ที่ “บิ๊กโจ๊ก” ตกเป็นผู้ถูกร้อง ป.ป.ช.รับไว้แล้ว 3 ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบอีก 3 คาดโดนดองเช่นเคย ได้แต่หวัง ป.ป.ช.ยุคใหม่ หลังจาก “บิ๊กกุ่ย” คนสนิท “บิ๊กป้อม” พ้นเก้าอี้ประธานไปแล้ว จะเร่งทำความจริงให้ปรากฏ



ในรายการ  “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก”เมื่อวันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการได้กล่าวถึงกรณี เมื่อช่วงบ่าย วันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเรื่องข่าวลือที่ตัวเองอาจถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดีฐานพัวพันกับเว็บพนันออนไลน์ ไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชา รวม 8 คน ที่ถูกส่งฟ้องไปแล้วจากคดีเดียวกันกับ “มินนี่” น.ส.ธันยนันท์ สุจริตชินศรี อายุ 26 ปี

โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวยืนยันว่าตัวเองไม่กังวลใดๆ เป็นเรื่องเก่าตั้งแต่ที่ตนเองถูกตำรวจเข้าค้นบ้าน แล้วถูกนำมาเล่าใหม่ เชื่อว่าเป็นกระบวนการเตะตัดขา ขัดขวางตนเองไม่ให้ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงมีการรื้อฟื้นเรื่องดังกล่าวขึ้นมา ซ้ำยังปล่อยวลีเด็ดที่ว่า “ชีวิตคือการต่อสู้ ศัตรูคือยาชูกำลัง” และ “ความจริงมีหนึ่งเดียว” เมื่อตัวเองไม่ได้รับเงินเว็บพนันเงินทุกอย่างก็สามารถชี้แจงได้หมด


หลังจากที่ออกมาพูดว่าไม่กังวลกับเรื่องนี้ได้เพียงวันเดียว ใน วันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 ก็มีข่าวออกแพร่สะพัดออกมาทันทีว่า คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดี “เว็บพนันเครือข่ายมินนี่” ได้ขยายผลพบพยานหลักฐานและผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้ต้องหาข้างต้นในคดีเพิ่มเติม จึงได้ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีข้าราชการตำรวจอีก 5 นาย ประกอบไปด้วย

1. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
2. พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ข้าราชการบำนาญ ที่ปรึกษาของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์
3. พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รองผู้บังคับการสืบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
4. พ.ต.อ.นฤวัต พุทธวิโร ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี
5. ส.ต.อ.ณัฐนันท์ ชูจักร ผบ.หมู่ สายตรวจ 3 กองบังคับการตำรวจจราจร กองบัญชาการตำรวจนครบาล

สาเหตุนั้น เกิดจากการที่ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ ลูกน้องคนสนิทของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในท้องที่ สน.เตาปูน เรื่องนำบัญชีม้า มารับโอนเงินจากเว็บพนันออนไลน์ เครือข่ายใหญ่ในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เคยดำรงตำแหน่งเป็น ผกก.สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา


โดยบัญชีม้าที่ “รองคริษฐ์” ถือเอาไว้ ได้มีเส้นเงิน รับ ถอน ถ่ายโอน พัวพันยุ่งเหยิงอิรุงตุงนัง ไปกับผู้ต้องหาทั้งในเครือข่าย “มินนี่” และเครือข่าย “อู๊ด หาดใหญ่” หนำซ้ำยัง ยังพัวพันมาถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กับคนในครอบครัวและบริวารอีกหลายต่อหลายคน
 
ส่วนสาเหตุที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล้าทิ้งท้ายในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในประเด็นนี้ว่า “ชีวิตคือการต่อสู้ ศัตรูคือยาชูกำลัง แต่ถ้าตนเองไม่สู้ ก็คงต้องลาออกไปเลย ถ้าตนเองจะตายก็คงตายตั้งแต่อยู่สำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ตนเองคงไม่ตายน้ำตื้นด้วยการทำธุรกรรมออนไลน์” นั้น

ก็เพราะที่ผ่านมาเมื่อประมาณ พ.ศ.2552-2553 หรือ 14-15 ปีที่แล้ว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เคยพลาดใช้บัญชีธนาคารของตัวเอง รับโอนเงินจากผู้ต้องสงสัย เครือข่ายส่วยร้านคาราโอเกะในพื้นที่ จังหวัดนครพนม จนเป็นประเด็นให้ถูกร้อง ป.ป.ช. มาแล้ว แต่เจ้าตัวอาศัยความสนิทสนมกับบอร์ด ป.ป.ช.ในขณะนั้น ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนจนสามารถผ่านพ้นวิกฤติมาได้


ปัจจุบันเรื่องดังกล่าวได้ถูก พ.ต.อ.กฤษณะพงศ์ กัญจน์ชัยกิจ รองผู้บังคับการกองร้องทุกข์ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ไม้เบื่อไม้เมากับ “บิ๊กโจ๊ก” นำเอกสารเดินทางไปที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) เพื่อยื่นเรื่องขอให้ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ รื้อคดีเก่าขึ้นมาสอบสวนกันใหม่ เรื่องทั้งหมดอยู่ระหว่างดำเนินการ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ออกเลขรับหนังสือขอรื้อฟื้นคดีเป็นที่เรียบร้อย

นอกจากนี้ในระหว่างที่ชุดคลี่คลายคดีส่วยการพนันออนไลน์ กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ในการใช้แจ้งข้อหาดำเนินการกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. อยู่นั้น ยังมีเอกสารลับที่หลุดมาจาก ป.ป.ช.ในเรื่องที่ “บิ๊กโจ๊ก” กำลังถูกร้องเรียนอยู่จำนวน 6 เรื่อง

แบ่งเป็นเรื่องที่ตรวจรับแล้ว จำนวน 3 เรื่องได้แก่

หนึ่ง คดีตามหนังสือ สบก.-ตร./000160/2567 (6761010461) กรณีผู้ถูกร้อง (พล.ต.อ.สุรเชษฐ์) ให้ นายครรชิต ทองสมาน โอนเงินจ่ายค่าไฟฟ้าของบ้านเลขที่ 9/147 และ 9/148 ซอยวิภาวดีรังสิต 60 แยก 3-9 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ซึ่งนายครรชิต ทองสมาน เกี่ยวข้องกับการทำเว็บพนันออนไลน์เครือข่ายของมินนี่ หรือนางสาวสุชานันท์ หรือธนัยนันท์ แต่ผู้ถูกร้องกลับให้สัมภาษณ์ว่า ได้ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาชำระค่าไฟฟ้า รายเดือน เดือนละ 10,000 บาท จึงเชื่อว่าผู้ถูกร้องรับสินหรือผลประโยชน์อื่นใดอันเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่


สอง คดีตามหนังสือ สบก.-ตร./000727/2567 (6761011315) กรณีผู้ถูกร้องที่ 1 (พล.ต.อ.สุรเชษฐ์) กับพวก มีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์จากเว็บไซต์การพนันออนไลน์ อาทิ ค่ารักษาพยาบาลให้กับบิดาของผู้ถูกร้องที่ 1 และบุคคลอื่น ๆ ในครอบครัวจำนวน 230 ครั้ง เป็นเงิน 24,020,567 บาท จากการจำแนกเงินแบ่งเป็น

-ค่ารักษาพยาบาลที่โอนไป บริษัท วิชัยยุทธ จำกัด หรือโรงพยาบาลวิชัยยุทธ รวมเป็นเงิน 2,890,163 บาท

-ค่าส่วนกลางของที่พักอาศัย หมู่บ้านจัดสรร ทาวน์อเวนิว ซิกตี้ ในห้วงเวลา พฤษภาคม 2563 – กรกฎาคม 2565จำนวน 15 ครั้ง เป็นเงิน 433,364.40 บาท

-ค่าใช้จ่ายนิติบุคลอาคารชุด 98 ไวร์เลส ถนนวิทยุ ในห้วงเวลา พฤศจิกายน 2561- มิถุนายน 2565จำนวน 15 ครั้ง เป็นเงิน 1,200,610.30 บาท

- ค่าโทรศัพท์หมายเลข 065-3546519 ในห้วงเวลา มีนาคม 2565- กันยายน 2566จำนวน 18 ครั้ง เป็นเงิน 110,070.25 บาท

-ค่าใช้จ่ายเป็นค่าที่ปรึกษาและค่าตอบแทนการทำงานในลักษณะเป็นเงินเดือนหรือค่าจ้าง กล่าวคือ รับทุกเดือนจำนวนเท่าๆ กันสม่ำเสมอ จากตารางสรุปรายรับรายจ่ายของผู้ถูกร้องที่ 1 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 - 2566 พบว่าเป็นยอดรายรับรวม 170,702,149 บาท และเป็นยอดรายจ่ายรวม 161,026,037 บาท

- รายจ่ายอื่น ๆ เช่น รายการจ่ายค่าข้าวพี่อาร์ม ซึ่งทำเป็นบัญชีแยกยอดออกมาอีกจำนวน 1,042,981 บาท

สาม คดีตามหนังสือ สบก.-ตร./000790/2567 ขอให้ตรวจสอบกรณีปรากฏจากข่าวว่าตำรวจได้เข้าบุกค้นบ้านผู้ต้องสงสัยว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับพนันออนไลน์ แต่ผู้ถูกร้องไล่ตำรวจออกไปโดยไม่ให้ค้น โดยไม่ปรากฏว่าผู้ถูกร้องเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวแต่อย่างใด


นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ได้ตรวจสอบเบื้องต้น อยู่ระหว่างตรวจสอบในเชิงลึกอีก 3 เรื่องได้แก่

หนึ่ง เรื่องตามหนังสือ เลขที่ 6220014208 (L) กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีผู้กล่าวหาขอให้ตรวจสอบว่า การกำหนด TOR การจ้างที่ปรึกษาโครงการจัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ (191) ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กำหนดวุฒิ การศึกษาของบุคลากรถูกต้องหรือไม่ ? ตรงตามคุณสมบัติของ กสทช.หรือไม่ ?

สอง เรื่องตามหนังสือเลขที่ 6240043426 (XL) เกี่ยวกับทุจริตในการดำเนินการที่จะขยายเวลาของสัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 สัญญาเพื่อการต่อขยายโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ส่วนดี) และสัญญาโครงการทางด่วนสายบางประอิน-ปากเกร็ด เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชน โดยเรื่องนี้น่าจะมีมูลเหตุมาจาก 1 “บิ๊กโจ๊ก” เคยดำรงตำแหน่ง ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการในการทางพิเศษแห่งประเทศไทย


สาม เรื่องตามหนังสือเลขที่ 6290010930 (L) กรณีกระทำการหรือไม่กระทำการใดๆ ในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบ เพื่อจะช่วยเหลือบุคคลหนึ่งบุคคลใดมิให้รับโทษหรือรับโทษน้อยลง และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีผู้ถูกร้องมีหน้าที่โดยตรงในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบการเล่นพนันม้าแข่ง ในสนามราชตฤณมัยสมาคม โดยไม่ดำเนินการจับกุม “นายเป้ง สามย่าน” หรือ นายประชา ประเสริฐวรกุล และพวกซึ่งได้จัดให้มีการเล่นในห้องวินนิ่งโพสท์ และเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้การพนันแข่งม้า

โดยเรื่องนี้น่าจะมีมูลเหตุมาจาก เมื่อปี พ.ศ.2561 พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ได้เคยเปิดหลักฐานคลิปวีดิโอกลุ่มผู้ต้องหาที่พัวพันกับการแข่งม้า และเข้าร้องเรียนที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ว่า นายประชา และพวก มีพฤติกรรมเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ในการพนันแข่งม้า รวมถึงตั้งข้อสังเกตว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ในฐานะรองหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันแข่งม้า (ในขณะนั้น) ได้เข้าไปตรวจสอบและแถลงข่าวจับผู้ลักลอบเล่นการพนัน แต่ไม่จับนายประชา ซึ่งทาง พ.ต.ท.สันธนะ เห็นว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่


ประเด็น :คดีจำนวน 6-7 คดีใน ป.ป.ช. ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เหล่านี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ทั้งสิ้น แต่หลายเรื่องถูกดองเค็ม-เก็บใส่ลิ้นชักเอาไว้, บ้างถูก ป.ป.ช. ตีตก หรือ บางเรื่องก็ใช้เวลาสอบกันข้ามปี ก็ไม่เสร็จเสียที

ไม่ต่างจาก “คดีอื้อฉาว” หลาย ๆ คดีที่สังคมจับตา ที่ส่งไป ป.ป.ช. เป็นไปเวลานานนมแล้ว ก็เงียบหายไป ยกตัวอย่างเช่น คดีทุจริตเสาไฟกินนารีที่ อบต.ราชาเทวะ จ. สมุทรปราการ ที่เป็นเรื่องอื้อฉาวสะเทือนสังคม ก่อให้เกิดความเสียหายกับงบประมาณแผ่นดินหลายร้อยล้านบาท มาตั้งแต่ปี 2564 แล้ว พอมีการส่งเรื่องไป ผ่านมา 2 ปี จะ 3 ปีแล้ว ป่านนี้ ป.ป.ช. ก็ยังไม่ได้ชี้มูลเลย

ดังนั้นจึงมีคำถามว่า 6-7 เรื่องของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็อาจจะไม่ต่างกัน คือสุดท้ายเมื่อไปถึง ป.ป.ช. ก็จะหายเข้ากลีบเมฆไปอีก!

นายสนธิ กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช.นั้น เป็นเด็กในถาคาของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส่วน พล.ต.อ.ประวิตร จะใกล้ชิดกับ บิ๊กโจ๊กอย่างไร ในอดีตหรือปัจจุบันนั้น ไปตีความกันเอาเอง แต่ที่แน่ๆ หลายคนเริ่มหมดอาลัยตายอยากกับ ป.ป.ช.

“ผมอยากจะบอกทุกคน ที่ตั้งใจทำงานอย่างซื่อสัตย์ อย่าไปหมดอาลัยตายอยาก กันยายนปีนี้ พล.ต.อ.วัชรพล ก็จะครบวาระแล้ว ต้องออกจากประธาน ป.ป.ช. การกักคดีเอาไว้ จะด้วยความตั้งใจหรือจงใจของท่านประธานหรือเปล่าผมไม่รู้ แต่ผมเชื่อว่าประธานคนใหม่ที่ได้รับเลือกเข้ามานั้นจะต้องรู้ถึงความกดดันที่สังคมมีต่อคดีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล

“คือเรื่องของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาลนั้นจะผิดหรือไม่ผิดนั่นอีกประเด็นหนึ่ง ประเด็นที่สำคัญคือทำความจริงให้ปรากฏได้ไหม และเป็นความจริงที่พิสูจน์ได้ ไม่ใช่ความจริงแบบคดีส่วยคาราโอเกะ ที่ ป.ป.ช.ฟังความจากคนสนิทของบิ๊กโจ๊กข้างเดียว ว่าเงินที่ปรากฏในบัญชีบิ๊กโจ๊กคือเงินที่บิ๊กโจ๊กปล่อยกู้นอกระบบให้กับเจ้าของร้านคาราโอเกะ แล้วคนร้อง ภายหลังต่อมาก็เสียชีวิต ตายโดยไม่มีเหตุผล ผมทิ้งข้อคิดไว้ง่ายๆ ก็แล้วกัน

“เพราะฉะนั้นแล้ว ผมกำลังรอท่านประธาน ป.ป.ช.คนใหม่เข้ามา ผมเชื่อว่า ป.ป.ช.ยุคใหม่ พอพ้น พล.ต.อ.วัชรพล ซึ่งเป็นคนสนิทของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แล้วก็อดีตเคยดูแล พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เหมือนลูกหลานคนหนึ่ง ส่วนความสัมพันธ์ที่มีอยู่ปัจจุบันจะใกล้ชิดเหมือนเดิมหรือว่า จะถูกออดอ้อนยังไงผมไม่ทราบ ท่านผู้ชมมีจินตนาการไปคิดเอาเองก็แล้วกัน” นายสนธิกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น