xs
xsm
sm
md
lg

ไม่ได้โม้! ตำรวจคุยโว "คดีน้องนุ่น" ได้หลักฐานตั้งแต่วันแรก นักข่าวอาจแค่เจอในจังหวะที่พอดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พ.ต.อ.อภิศักดิ์ โชติกเสถียร ผกก.สภ.ปากเกร็ด แจงประเด็นดรามา ทำงานช้ากว่านักข่าว โวตำรวจรู้แต่วันแรกที่ได้รับเรื่อง แต่ไม่อยากบอกนักข่าวกลัวเสียรูปคดี สื่อไปเจอศพในจังหวะที่พอดี เพราะตาม GPS ที่ทาง สภ.ปากเกร็ดประสานกับตำรวจที่ปราจีนฯ

จากกรณี โลกออนไลน์ชื่นชมนายภาณุพงศ์ สุรภาพ หรือเนม นักข่าวช่องอมรินทร์คือคนแรกที่ไปเจอหลักฐานสำคัญ กรณีการเสียชีวิตของน้องนุ่นที่ถูกสามีลงมือฆ่า ก่อนนำศพไปเผาทิ้งที่สวนยางพารา ซึ่งถือว่าเป็นอีกครั้งที่สื่อมวลชลทำหน้าที่ได้ดีและไวกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยทีคดีของ 5 โจ๋แก๊งลูกตำรวจฆาตกรรมป้าบัวผัน ซึ่งก็เป็นผู้สื่อข่าวที่ไล่ตามกล้องวงจรปิดหาตัวคนร้ายได้ก่อนตำรวจ

อ่านข่าวประกอบ - ไวกว่าตำรวจก็นักข่าวหนุ่มช่องอมรินทร์ คนแรกเจอสร้อย-กะโหลกน้องนุ่น สามีฆ่าแล้วเผาในสวนยาง

ล่าสุด เมื่อวัทที่ 23 ก.พ. มีรายงานเกี่ยวกับคดี "น้องนุ่น" หลังสภ. ปากเกร็ด ถูกโจมตีทำงานช้ากว่าสื่อมวลชน โดย พ.ต.อ.อภิศักดิ์ โชติกเสถียร ผกก.สภ.ปากเกร็ด ได้ออกมาชี้แจงในประเด็นดังกล่าวว่า

"ตำรวจรู้ทราบตั้งแต่วันแรกที่ทอยและคุณแม่มาแจ้งความ ได้รับเรื่อง ได้เบอร์ของนุ่นและเช็กตำแหน่งว่าอยู่ที่ไหนแต่โทรศัพท์ไม่เปิด นายทอยเองเวลาถามก็เบี่ยงเบนทุกอย่าง และมีข้อสงสัยคือนุ่นไม่เปิดโทรศัพท์

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเวลาต่อมาเห็นทุกอย่าง แต่ไม่สามารถแจ้งนักข่าวได้ เพราะต้องใช้เป็นพยานหลักฐานในการผูกมัดผู้ต้องหา

“สื่ออาจจะยังไม่ทราบว่า ทางเจ้าหน้าที่ ตำรวจมีครบหมดแล้วทอยรับสารภาพในเวลา 18.30 น. ก่อนที่ข่าวจะเผยแพร่ออกไป ทางเจ้าหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ได้ประสานตำรวจที่ปราจีน เพื่อให้ตรวจสอบจุดดังกล่าวตาม GPS ก็เป็นเหตุให้นักข่าวตามไปด้วยอาจจะเจอในจังหวะที่พอดี ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ทางแม่ของนุ่นก็จะรู้ทั้งหมด” พ.ต.อ.อภิศักดิ์ กล่าว

พ.ต.อ.อภิศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนกล้องหน้ารถของนายทอยเป็นกล้องดั้มไม่สามารถเปิดได้ และไม่มีข้อมูลอยู่ในนั้น ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเต็มที่ทุกอย่าง อยากให้ทุกคนเข้าใจ กระเป๋าที่ทอยใส่นุ่นไปทิ้งและเผาก็เป็นกระเป๋าที่อยู่ในบ้าน ไม่ได้พึ่งสั่งซื้อมาตามที่ออกข่าวไป"
กำลังโหลดความคิดเห็น