จากกรณีที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล และ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ได้มอบอำนาจให้ทนายความ เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอท.ให้ดำเนินคดีกับผู้ที่ลักลอบนำรูปภาพของบุคคลทั้งสองไปตัดต่อเป็นภาพโปรโมตขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสมุนไพรรักษาโรค โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น เบื้องต้นทราบว่ามีผู้เสียหายถูกแอบอ้างลักษณะดังกล่าวหลายราย ทางทนายความจึงเห็นว่า เพื่อให้คดีมีน้ำหนักมากขึ้นผู้เสียหายควรรวมตัวกันเป็นโจทก์ร่วมฟ้องในคดีเดียวกัน
จึงขอเชิญชวนผู้ที่ถูกแอบอ้างในลักษณะดังกล่าว ส่งข้อมูลการถูกแอบอ้างเพื่อเป็นโจทก์ร่วมกับนายสนธิ และนายปานเทพ โดยสามารถส่งข้อมูลรายละเอียดได้ทางระบบข้อความของเฟซบุ๊กแฟนเพจ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ได้ตั้งแต่บัดนนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายอภิชาต แสงขาว ทนายความ เป็นตัวแทนรับมอบอำนาจจากนายสนธิ และ นายปานเทพ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.นนทนันท์ นวนงาม รอง สว. (สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อแจ้งดำเนินคดีกับผู้ที่นำรูปภาพของบุคคลทั้งสองไปตัดต่อเป็นภาพโปรโมตขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสมุนไพรรักษาโรค โดยไม่ได้รับอนุญาต
นายอภิชาต กล่าวว่า เนื่องจากเมื่อที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา นายสนธิ และ นายปานเทพ ได้พบเห็นเว็บไซต์ Herbalpremium.host ซึ่งปลอมหน้าเว็บไซต์ให้เหมือนกับเว็บไซต์ mgronline.com โพสต์เผยแพร่รูปภาพของทั้งสองในลักษณะกำลังถือกระปุกยาสมุนไพร Proherb พร้อมข้อความโฆษณาชวนเชื่อว่า ทั้งสองได้รับประทานยาสมุนไพรดังกล่าวรักษาโรคต่อมลูกหมากอับเสบจนหายขาด เพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์ดูน่าเชื่อถือ และดึงดูดใจผู้บริโภคให้หลงเชื่อซื้อยาไปรับประทาน
นายอภิชาต กล่าวต่อว่า ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งนายสนธิ และนายปานเทพนั้น ไม่เคยรับประทานยาสมุนไพรตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับผลิตภัณฑ์สมุนไพรดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ รูปภาพของทั้งสองที่เว็บไซต์นำมาโพสต์โฆษณานั้น ก็เป็นภาพตัดต่อที่ถูกทำขึ้นมา ซึ่งการกระทำเหล่านี้สร้างความเสียหายให้กับทั้งสองเป็นอย่างมาก จึงตัดสินใจมอบอำนาจให้ตนมาติดต่อเข้าแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และพิจารณาข้อหาอื่นเพิ่มเติมอีกด้วย