ซอฟต์พาวเวอร์แบบอุ๊งอิ๊ง ชินวัตร ส่งสัญญาณเละเป็นโจ๊ก สะพัดปมอนุฯ แฟชั่นลาออกยกคณะ คาด ไม่พอใจที่คนในคณะใหญ่หยิบฉวยผลงานไปทำการตลาด ขณะที่อดีตประธานฯ ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องไอเดียใส่กางเกงช้างทำลายสถิติโลก ชี้เอกชนทำงานหนัก แต่คนทำอีเวนต์จุดพลุแล้วไงต่อ สร้างมูลค่าตรงไหน ก่อนทำอะไรปรึกษา-คิดให้รอบด้านเพราะใช้เงินภาษีประชาชน
วันนี้ (2 ก.พ.) จากกรณีที่นางสาวกมลนาถ องค์วรรณดี ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านแฟชั่น ได้ทำหนังสือ ขอยุติการดำเนินงานในตำแหน่งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านแฟชั่น ต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เนื่องจากได้ร่วมกันดำเนินการรวบรวมข้อมูลและจัดทำนโยบายและแผนงาน ตลอดจนแนวทางการทำงานในด้านอุตสาหกรรมแฟชั่นเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่เห็นชอบร่วมกันว่า ขั้นต่อไป เกินความสามารถที่จะบริหารจัดการเวลาในการติดตาม ลงรายละเอียดและประเมินผล เนื่องจากแต่ละคนมีภารกิจและหน้าที่ในการรักษาเสถียรภาพในการดำเนินธุรกิจของตน จึงได้ขอยุติการทำงานในตำแหน่งนี้
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนการประชุมคณะอนุกรรมการฯ เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา ปรากฎว่าเมื่อวันที่ 17 ม.ค. บนเฟซบุ๊ก Kamonnart Ong ได้แชร์ภาพแอนิเมชันจากเฟซบุ๊กเพจ Uninspired by Current Events โพสต์ภาพผู้คนหน้าซ้ำๆ ถือกางเกงช้าง พร้อมข้อความระบุว่า Creative Tourism กล่าวถึงกรณีที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดตัวโครงการ THAILAND SOFT POWER X GUINNESS WORLD RECORDS CHALLENGE ที่จะจัดขึ้นระหว่าง 21-27 ก.พ. 2567 หนึ่งในนั้นคือ ใส่กางเกงช้างเยอะที่สุดใน 1 นาที กลายเป็นที่วิจารณ์ในสังคมและสื่อออนไลน์ว่าเหมาะสมหรือไม่
ปรากฎว่า เฟซบุ๊ก Kamonnart Ong แชร์ภาพดังกล่าวพร้อมระบุข้อความว่า “คณะอนุกรรมการสาขาแฟชั่นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับไอเดีย Guinness นี้นะคะ อยากเห็นหน้าคนอนุมัติงบมาก ห้ามก็ไม่ได้ ปรึกษาก็ไม่ปรึกษา คิดกันเองเห็นดีเห็นงามกันเอง ทำแล้วได้อะไรคะ ทีมเอกชนอาสาทำงานกันหนักมากเพื่อวางกรอบคิดการพัฒนาอุตสาหกรรม ในขณะที่หน่วยงานทำอีเวนท์จุดพลุแล้วไงต่อ สร้าง value (มูลค่า) อะไรขึ้นมา ฝากหน่วยงานทุกหน่วยที่อยากเอาใจนาย ก่อนจะทำอะไรปรึกษาหารือกรรมการยุทธศาสตร์ หรือคิดให้รอบด้านด้วยค่ะ เงินภาษีประชาชน” ก่อนที่จะถึงการประชุมดังกล่าวเมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่ เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า ในแวดวงแฟชั่น ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงชนวนเหตุการตัดสินใจยกคณะลาออกมาจากเรื่องใดกันแน่ แม้ในหนังสือการลาออก จะระบุถึงการจากลาด้วยดีก็ตาม ทั้งที่การทาบทามกลุ่มของ น.ส.กมลนาถมาร่วมงาน เป็นลักษณะงานจิตอาสา อีกทั้งที่ผ่านมามีความพยายามจากผู้อยู่ในคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ หยิบฉวยผลงานของ น.ส.กมลนาถ ไปทำผลงานทางการตลาด สร้างความไม่พอใจให้กับเจ้าของไอเดียตัวจริง
อนึ่ง การประชุมคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2567 เห็นชอบในหลักการตามข้อเสนอแผนงานโครงการภายใต้ทั้ง 11 ด้านในเบื้องต้นแล้วจำนวน 54 โครงการ กรอบวงเงิน 5,164 ล้านบาท โดยพบว่าสาขาเฟสติวัลของบประมาณมากที่สุด เป็นเงินสูงถึง 1,009,840,000 บาท รองลงมาเป็นสาขาอาหาร 1,000 ล้านบาท และอันดับสาม สาขาท่องเที่ยว 749,000,000 บาท ทั้งสามสาขานี้ใช้งบประมาณรวมกัน 53% ส่วนสาขาแฟชั่น อันดับที่ 8 เพียง 268,900,000 บาท ต่ำที่สุดคือสาขาหนังสือ 69,418,200 บาท
