xs
xsm
sm
md
lg

สรุป #ป้าบัวผัน ฆาตกรรมสะเทือนอรัญฯ ลุงเปี๊ยกแพะรับบาป ฝีมือ 5 แก๊งลูกตำรวจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สรุปกรณี #ป้าบัวผัน ที่โลกโซเชียลฯ ให้ความสนใจ จากการเสียชีวิตของหญิงสติไม่สมประกอบ สื่อมวลชนจับพิรุธสามีผู้ตายสารภาพเล่าเป็นฉาก สู่การคลี่คลายคดีจนพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชนอายุ 13-16 ปี แถมหนึ่งในนั้นมีลูกตำรวจ สภ.อรัญประเทศ อีกต่างหาก

วันนี้ (16 ม.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า บนโซเชียลฯ ให้ความสนใจ #ป้าบัวผัน สืบเนื่องจากคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญในจังหวัดสระแก้ว หลังจากมีผู้พบศพ น.ส.บัวผัน ตันสุ อายุ 47 ปี ซึ่งมีสติไม่สมประกอบ ถูกคนร้ายฆ่าทุบศีรษะและใบหน้าสภาพเละ นำไปโยนทิ้งบ่อน้ำบริเวณหลังปั๊มน้ำมัน ปตท.เก่า (ร้าง) ข้างโรงเรียนอนุบาลศรีอรัญโญทัย ถนนสุวรรณศร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุตำรวจนำตัวนายปัญญา คงแสนคำ หรือเปี๊ยก อายุ 56 ปี สามีผู้ตายมาสอบสวน ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย น.ส.บัวผัน จนเสียชีวิต โดยเอาเก้าอี้ฟาดศีรษะถึงแก่ความตายแล้วเอาศพไปทิ้งบ่อน้ำ

ต่อมา นายณัฐดนัย นะราช ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ลงพื้นที่ทำข่าวตั้งแต่วันแรกที่พบศพ ไปสัมภาษณ์ชาวบ้านในพื้นที่ รวมถึงนายปัญญา แต่ไม่สามารถตอบคำถามนักข่าวได้ ถามอะไรก็ตอบไม่ได้ แต่พอมาถึงวันทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ฟังคำให้สัมภาษณ์แล้วกลับเล่าเหตุการณ์ได้เป็นฉากๆ ด้วยความข้องใจ ทีมข่าวจึงหาหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ทั้งจุดที่นายปัญญาอ้างว่าทิ้งเสื้อที่เปื้อนเลือดช่วงเวลาประมาณ 04.00-05.00 น. โดยตรวจสอบกล้องวงจรปิดหลายจุด ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 11 ม.ค. ถึงเวลา 06.00 น. วันที่ 12 ม.ค. ก็ไม่ปรากฏภาพนายปัญญามาทิ้งเสื้อ จึงเริ่มเอะใจ

จุดที่สอง เป็นจุดที่นายปัญญาอ้างว่ามีปากเสียง ขอเงินผู้ตายบริเวณหน้าโรงพยาบาลอรัญประเทศ จึงย้อนกลับไปดูตามที่นายปัญญาให้การว่าได้ขอเงินและทะเลาะกันบนถนน พบว่าไม่เหมือนกับที่นายปัญญาให้การ แต่ไปเจอกลุ่มเยาวชนอายุ 13-16 ปี ที่ทำร้าย น.ส.บัวผัน มีการวนทำร้ายหลายรอบ พยายามฉุดกระชาก น.ส.บัวผัน ขึ้นรถจักรยานยนต์ สุดท้ายมีการนำร่าง น.ส.บัวผันไปทางจุดที่ทิ้งศพ จึงตั้งข้อสังเกตว่ากลุ่มวัยรุ่นเป็นผู้ก่อเหตุ

ภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 12 ม.ค. น.ส.บัวผัน หรือป้าบัวผัน นั่งอยู่ที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาอรัญประเทศ (สระแก้ว) ภายในซอยบำรุงราษฎร์ ย่านขอบสระ เขตเทศบาลเมืองอรัญประเทศ ปรากฏว่ามีกลุ่มวัยรุ่น 5 คนขับขี่รถจักรยานยนต์มา 2 คัน เข้าไปเต้นยั่วยุให้ป้าบัวผันโกรธ ป้าบัวผันจึงนำขวดน้ำปาใส่กลุ่มวัยรุ่น ทำให้วัยรุ่นกลุ่มนี้ขี่รถตามป้าบัวผันแล้วทำร้ายร่างกายโดยเตะเสยคางจนหมอบ ก่อนลากขึ้นรถจักรยานยนต์ ป้าบัวผันดิ้นจนตกรถ แต่สุดท้ายกลุ่มวัยรุ่นพาตัวไปได้สำเร็จ และขี่มุ่งหน้าไปทางจุดทิ้งศพ

สำหรับกลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุประกอบด้วย ด.ช.แบงค์ อายุ 13 ปี, ด.ช.กั๊ด อายุ 13 ปี, ด.ช.โก๊ะ อายุ 14 ปี, นายบิ๊ก อายุ 16 ปี และ ด.ช.เชน อายุ 14 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของข้าราชการตำรวจ ตำแหน่งรองสารวัตรสืบสวน สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยกลุ่มเด็กวัยรุ่นให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันทำร้ายร่างกาย น.ส.บัวผันจริง เพราะไม่พอใจที่อีกฝ่ายนำเอาขวดมาปาใส่ขณะกำลังนั่งอยู่หน้าร้านเซเว่นฯ สาขาขอบสระ อ.อรัญประเทศ เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ พล.ต.ต.ออมสิณ บุญญานุสนธิ์ ผบก.ภ.สระแก้ว ยอมรับว่าคดีนี้พบพิรุธหลายจุด จึงได้มีคำสั่งย้ายนายตำรวจสืบสวนนายหนึ่งจากสถานีตำรวจภูธรอำเภออรัญประเทศ เข้าไปประจำที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เพราะมีส่วนเกี่ยวพันเป็นพ่อของหนึ่งในกลุ่มเยาวชนที่ร่วมก่อเหตุ จนกว่าคดีนี้จะเสร็จสิ้น และได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกชุดหนึ่งเพื่อไขข้อสงสัยให้เกิดความกระจ่าง

พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา ผกก.สภ.อรัญประเทศ ทำรายงานชี้แจงกรณีดังกล่าว ในตอนหนึ่งกล่าวถึงพฤติการณ์ของกลุ่มเยาวชนที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายและฆ่าป้าบัวผัน ระบุว่า เวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 10 ม.ค. 67 ถึงเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 11 ม.ค. 67 วันเกิดเหตุ กลุ่มเยาวชนผู้ก่อเหตุนั่งรวมกลุ่มกันที่บริเวณริมขอบสระภายในเทศบาลเมืองอรัญประเทศ มี 2 คน ในกลุ่มผู้ก่อเหตุเข้าไปแหย่ น.ส.บัวผัน ซึ่งมีลักษณะเป็นบุคคลเร่ร่อน สติไม่ค่อยดี และติดสุราเรื้อรัง ซึ่งนั่งอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ทำให้ผู้ตายเอะอะโวยวายและปาขวดใส่ศีรษะกลุ่มผู้ก่อเหตุ กระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันที่ 11 ม.ค. กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ขี่รถมาพบผู้เสียชีวิตนั่งอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ห่างจากจุดเดิมประมาณ 800 เมตร

กลุ่มผู้ก่อเหตุจึงลงจากรถหลอกล่อให้ผู้ตายเดินไปหา แต่ผู้ตายไม่ยอมเดินไป กระทั่งคนร้ายอีกคนเดินเข้าไปหาผู้ตายในมุมด้านข้าง แล้วเตะเข้าที่บริเวณใบหน้าของผู้ตาย เป็นเหตุให้ผู้ตายหงายหลัง และนั่งร้องไห้อยู่บริเวณดังกล่าว จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุได้อุ้มผู้ตายขึ้นรถจักรยานยนต์ แต่ผู้ตายดิ้นรนจนตกหล่นจากรถ กลุ่มผู้ก่อเหตุจึงขี่รถออกไป และวนกลับมาบังคับอุ้มผู้ตายขึ้นรถอีกครั้งจนสำเร็จ มุ่งหน้าไปทางโรงเรียนแห่งหนึ่ง ต่อมาเวลาประมาณ 02.40 น. กลุ่มผู้ก่อเหตุปรากฏตัวที่ร้านล้างรถหยอดเหรียญ ก่อนถึงเมกาโฮม อรัญประเทศ ห่างจากโรงเรียนประมาณ 2 กิโลเมตร เพื่อล้างรถที่ใช้ก่อเหตุ จนถึงเวลาประมาณ 03.00 น. ห่างจากโรงเรียนประมาณ 2.5 กิโลเมตร พบกลุ่มผู้ก่อเหตุเข้าไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ

จากการตรวจสอบพยานหลักฐานดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ จึงสืบสวนจนทราบชื่อและนามสกุล ที่อยู่ของเด็กวัยรุ่นผู้ก่อเหตุทั้ง 5 คน จึงได้เชิญตัวมาที่ สภ.อรัญประเทศ เพื่อซักถามข้อมูลเบื้องต้นต่อหน้าผู้ปกครองเยาวชนทั้งหมด และให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุทำร้าย น.ส.บัวผันจริง มูลเหตุการกระทำในครั้งนี้ วัยรุ่นทั้ง 5 คนให้การว่าทำไปเพราะตามเพื่อน จึงได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนและตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบด้านเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นอีก โดยตรวจยึดรถจักรยานยนต์ 2 คัน คือ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 ไอ ทะเบียน 5 ขฐ 2673 กรุงเทพมหานคร และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 125 ไอ ทะเบียน 1 กท 648 สระแก้ว ที่ใช้ก่อเหตุ และเสื้อผ้าของกลุ่มผู้ก่อเหตุที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุมาด้วย

อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่พนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นำตัวนายปัญญาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสระแก้ว หลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และศาลจังหวัดสระแก้วอนุญาตให้ฝากขังผัดแรก ที่เรือนจำจังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าผ่านไป 3 วัน เมื่อวันที่ 15 ม.ค. พนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศได้นำหลักฐานส่งให้ศาลจังหวัดสระแก้วเพื่อขอปล่อยตัวนายปัญญา ก่อนที่ศาลจังหวัดสระแก้วได้ส่งหมายถึงเรือนจำจังหวัดสระแก้วให้ปล่อยตัวนายปัญญาออกมา จากนั้นได้นำตัวนายปัญญาไปที่ สภ.อรัญประเทศ เพื่อสอบถามว่าทำไมนายปัญญาถึงรับสารภาพว่าเป็นผู้ทำร้ายร่างกายและลงมือฆ่าป้าบัวผัน และยังนำเจ้าหน้าที่ไปชี้ที่จุดเกิดเหตุและทำแผนประกอบคำรับสารภาพเป็นฉากๆ อีกด้วย

ขณะที่พี่เขยและน้องสาวของป้าบัวผันที่เดินทางมาจาก ต.หนองน้ำใส อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว มาที่ สภ.อรัญประเทศ เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ก่อนเดินทางไปที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสระแก้ว เพื่อติดต่อขอความช่วยเหลือในด้านคดีความ เพราะเนื่องจากยังไม่มีหน่วยงานเข้ามาดูแล รวมถึงครอบครัวผู้ก่อเหตุก็ไม่มาดูแล กลัวว่าคดีจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะว่าเยาวชนผู้ก่อเหตุเป็นลูกหลานตำรวจ ทั้งนี้ ครอบครัวผู้ตายจะได้รับเงินเยียวยาจากกองทุนผู้เสียหายในคดีอาญาของกระทรวงยุติธรรมจำนวนหนึ่ง ส่วนศพของป้าบัวผันจะยังไม่มีการทำพิธีฌาปนกิจจนกว่าคดีจะคลี่คลาย
กำลังโหลดความคิดเห็น