นพ.อารักษ์เผยเคสผู้ป่วยวัย 72 ปี เท้าซ้ายเป็นแผล มีจุดดำเล็กๆ ที่ปลายนิ้ว สุดท้ายลุกลามจนต้องตัดเท้าซ้ายบางส่วน พบต้นเหตุมาจากเส้นเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องโป่งพอง ลิ่มเลือดหลุดไปอุดเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงขาซ้าย
วันนี้ (9 ม.ค.) เฟซบุ๊ก “Arak Wongworachat" หรือ นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้โพสต์เคสผู้ป่วยน่าสนใจ ภัยเงียบ ปัญหาสุขภาพเส้นเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องโป่งพอง มีก้อนเลือดขนาดใหญ่ ลิ่มเลือดหลุดไปอุดตันเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงขา จนเป็นแผล เท้าขาดเลือด ต้องตัดขาบางส่วนในที่สุด ผู้ป่วยอายุ 72 ปี ญาติพามาด้วยเรื่อง เท้าซ้ายเป็นแผล จุดดำเล็กๆ ที่ปลายนิ้ว ต่อมาลุกลามไปหลายนิ้ว ลามขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงหลังเท้า (ภาพที่ 1) ตอนเริ่มมีอาการใหม่ๆ คิดว่าเป็นแผลอักเสบธรรมดา ซื้อยากินเอง ไปโรงพยาบาลใกล้บ้าน คลินิก ก็ไม่หาย จึงลองมารักษาที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
พบแพทย์ที่ห้องฉุกเฉิน ตรวจเบื้องต้น สงสัยว่าจะมีปัญหาหลอดเลือดไปเลี้ยงขาซ้ายอุดตัน จึงส่งพบศัลยแพทย์หัวใจและหลอดเลือด แพทย์จึงรับผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาล สั่งตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์หลอดเลือดในวันเดียวกัน ผลการตรวจพบว่ามีเส้นเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องโป่งพอง ประกอบกับมีก้อนเลือดขนาดใหญ่เกาะตามเส้นเลือดส่วนที่โป่งพองด้วย (ภาพที่ 2) เป็นสาเหตุให้ลิ่มเลือดหลุดไปอุดเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงขาซ้าย (ภาพที่ 3) จนเท้าซ้ายเป็นแผลเนื้อเน่าตายลุกลามไปเรื่อยๆ จนต้องตัดเท้าซ้ายบางส่วนในที่สุด แพทย์จึงวางแผนผ่าตัดรักษาที่ต้นเหตุ จากเส้นเลือดแดงใหญ่โป่งพอง โดยวิธีการผ่าตัดใส่เส้นเลือดเทียมไปตรึงเส้นเลือดส่วนที่โป่งพองตลอดแนวผ่านสายสวน (ภาพที่ 4)
หลังผ่าตัด 3 วัน ส่งเอกซเรย์คอมพิวเตอร์หลอดเลือดอีกครั้ง พบว่าเลือดสามารถไปเลี้ยงขาซ้ายได้ตามปกติ (ภาพที่ 4) การรักษาประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูง แม้ต้องสูญเสียขาไปบางส่วน แต่สามารถทดแทนด้วยขาเทียม จากโรงงานขาเทียมพระราชทานสมเด็จย่า ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
หากไม่ได้รับการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้อง ทันเวลา ผู้ป่วยจะสูญเสียขาไปมากกว่านี้ หรืออาจถึงแก่ชีวิตจากเส้นเลือดแดงใหญ่ที่โป่งพองแตกในเวลาต่อมา การผ่าตัดรักษาผู้ป่วยรายนี้มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์"
